• Connect with us

    Enter Books

    Uncategorized

    การบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ผ่าน ‘นิยาย’

    การบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ผ่าน ‘ นิยาย ’

    ‘ นิยาย ’หนึ่งในประเภทของหนังสือที่นักอ่านหลายๆ คน ต้องเคยผ่านตากันมาบ้าง

    ไม่มากก็น้อย เรื่องราวจากจินตนาการที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว ความรัก แฟนตาซี  การเมือง  อิงประวัติศาสตร์ ฯลฯ

    เบื้องหลังความสนุกเหล่านี้ แฝงไปด้วยการบอกเล่าความเป็นตัวตนของ ‘ มนุษย์ ’

     

    แทรก ‘ ประวัติศาสตร์ ’ ไปใน ‘ นิยาย ’

    ประวัติศาสตร์ หนึ่งในวิชาที่น่าเบื่อที่สุดของการเรียน

    การสอนประวัติศาสตร์ให้กับเด็กรุ่นใหม่กลายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีความน่าสนใจมากพอ

    ถ้าเทียบกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ เทคโนโลยี ’ ความน่าตื่นตาตื่นใจ  ความแปลกใหม่  ความสนุกและความสะดวกสบาย

    เป็นสิ่งที่เด็กในยุคสมัยนี้ต้องการ และเทคโนโลยีก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีกว่า เรื่องราวเก่าๆ

    เพราะฉะนั้นอะไรล่ะที่จะสามารถทำให้ความน่าเบื่อของประวัติศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุกนั่นก็คือ ‘ นิยาย ’

    ยกตัวอย่างนิยายอิงประวัติศาสตร์ของ ENTER BOOKS  เรื่อง ‘ ฉางอัน 12ชั่วยาม ’

    ก็นับว่าเข้าข่ายเรื่องเล่าในรูปแบบนี้ การนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมาดัดแปลงให้เป็นสิ่งที่เข้าถึงผู้คนในแต่ละยุคสมัยได้ง่าย

    นอกจากจะทำให้ประวัติศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุกแล้ว แทนที่จะให้ผู้อ่านใช้สมองจดจำอย่างเดียว

    พวกเขาก็ได้ใช้ความรู้สึกในการจดจำอีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีนิยายอีกหลายเรื่องที่มักมีการบอกเล่าประวัติศาสตร์แทรกไปในนั้นด้วย

    หรือบางเรื่องอาจสร้างขึ้นจากเค้าโครงทางประวัติศาสตร์ก็มีเยอะ

    การบอกเล่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นหรือที่เคยเป็นมาไม่จำเป็นที่จะถูกต้องทั้งหมด

    ‘ สิ่งที่มนุษย์มักจดจำไม่ใช่รายละเอียดของประวัติศาสตร์แต่เป็นช่วงเวลาสำคัญ

    ที่น่าสนใจของประวัติศาสตร์ต่างหาก 

     

    นิยายได้หยิบยกเหตุการณ์เหล่านั้นมาเพียงบางส่วนและมีการเติมแต่งเรื่องราวอื่นๆ

    เพื่อให้ดูสนุกมากขึ้นแต่ก็ยังคงเหตุการณ์ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เอาไว้ในรูปแบบของ ‘ เรื่องสมัยใหม่ ’

    การแทรกความรู้ทางประวัติศาสตร์ทีละเล็กทีละน้อยเป็นการจุดประกายความอยากรู้ของผู้อ่าน

    ให้ตั้งคำถามกับเรื่องราวเหล่านั้นว่ามีจริงรึเปล่าแล้วจะเชื่อมกับเหตุการณ์ไหนอีกบ้าง

    นี่คือความสนุกอย่างหนึ่งของการอ่านนิยาย

     

    เรียนรู้วิถีชีวิตผ่าน ‘ นิยาย ’

    อีกสิ่งหนึ่งที่บอกผ่านนิยายก็คือ ‘ วิถีชีวิต ’ ของผู้คนทั้ง อดีต  ปัจจุบัน  และอนาคต

    และความแตกต่างของผู้คน เราลองมาทำความเข้าใจวิถีชีวิตของผู้คนทั้ง 3 ช่วงเวลาที่นิยายแทรกไว้กัน

     

    ความรู้จากอดีต

    การกระทำของผู้คนในอดีตมีความแตกต่างจากผู้คนในปัจจุบัน

    ด้วยปัจจัยหลายอย่าง  สภาพอากาศ  ระบบสังคม ความเชื่อ ฯลฯ

    และสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหาได้ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นการที่นักเขียนนิยายสักเรื่อง

    จะเล่าถึงเรื่องราวในอดีตได้นั้นต้องมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากพอตัว และนี่ก็เป็น

    อีกสิ่งหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่แทรกเอาไว้ในเรื่องราวของนิยาย

    ‘ การที่ไม่เข้าใจอดีตเราก็ไม่อาจพัฒนาอนาคตได้ ’

     

    ปัจจุบันที่มองไม่เห็น

    ปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราสามารถตามหาได้รอบตัวและเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายที่เราจะเข้าถึงวิถีชีวิตนี้

    แต่ในความจริงแล้วปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจมากที่สุด เพราะมันเป็นความรู้ที่เรามักคิดว่า

    ‘จะเรียนรู้เมื่อไรก็ได้’ จนสุดท้ายก็ไม่ได้เรียนรู้ นักเขียนหรือนักพูดที่เรียนรู้ศาสตร์แห่งปัจจุบันจริงๆ

    จะมีเรื่องเล่ามากมาย จากแค่เรื่องธรรมดาไปจนถึงเรื่องที่เราไม่คาดคิดเลยก็ได้ (พี่โน้สอุดมเป็นตัวอย่าง)

    นิยายเป็นสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ลงไปอย่างละเอียดอ่อนและสามารถทำให้ผู้อ่านรู้สึกและสัมผัสได้ง่าย

    เช่น ความรัก  มิตรภาพ หรือ นิสัยของคน

    ‘เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นอยู่รอบตัวอยู่แล้วเพียงแค่เราอาจจะไม่เคยมองมันอย่างจริงจัง’ 

     

    เชื่อมต่อกับอนาคต

    นิยายไซไฟล้ำอนาคตที่เคยอ่านกันไม่ได้ถูกแต่งขึ้นเพียงเพื่อความสนุกอย่างเดียว

    แต่มันเป็นการหลอมรวมสิ่งที่เรียกว่า ‘อดีต’ กับ ‘ปัจจุบัน’ เพื่อให้กำเนิด‘อนาคต’

    ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตหรอก เป็นคำพูดที่เคยได้ยินกันบ่อย

    ก็จริง!!! ที่เราไม่อาจรู้ถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ แต่เราสามารถ ‘ คาดการณ์ ’ ได้

    นิยายล้ำอนาคตยกตัวอย่าง เช่น Mortal Engines (สมรภูมิล่าเมือง)

    เป็นเรื่องราวที่เล่าเรื่องในอนาคตของโลกมนุษย์ และพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

    ที่เป็นปัจจุบันในตอนนี้ เป็นนิยายที่นำเอาทั้งสองสิ่งมารวมกันจนกลายเป็น‘เรื่องเล่าโลกอนาคต’

    เรื่องราวที่มนุษย์ได้สร้างหรือกระทำใน‘อดีต’ไม่ว่าจะเป็น  วิถีชีวิต  อำนาจ   กฎเกณฑ์

    ถูกส่งต่อมายังยุค‘ปัจจุบัน’ ทั้ง  การสืบทอด   ความเข้าใจ   และความก้าวหน้าทั้งร้ายและดี

    ทุกอย่างสามารถศึกษาและก่อให้เกิดจินตนาการไปยัง ‘อนาคต’ได้ และถ่ายทอดมันออกมา

    ตามความเข้าใจผ่านตัวหนังสือ และนี่คือสิ่งที่นิยายให้กับเราเกี่ยวกับ‘อนาคต’

    ‘ ทั้งสิ่งที่ดี เพื่อให้คนที่อ่านตระหนักถึงสิ่งที่ควรค่าจะรักษาและพัฒนาต่อไป

    ทั้งสิ่งที่ไม่ดี เพื่อให้ผู้อ่านรับรู้ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นและลงมือแก้ไขในปัจจุบัน

     

     ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นวิถีชีวิตที่เราสามารถหาได้จากนิยายและที่สำคัญ

    คุณจะได้สิ่งเหล่านี้มาโดยที่ไม่รู้ตัวเลย การสอดแทรกเนื้อหาหรือสิ่งที่อยากบอกอย่างแนบเนียน

    เป็นวิธีที่นักเขียนใช้ในการเล่าเรื่อง ผู้อ่านก็จะได้ทั้งความสนุก  ความอยากรู้อยากเห็นว่าสิ่งที่พวกเขารับรู้

    มันจะเชื่อมไปยังเรื่องอะไรอีก  ความจริง   ความรู้   จินตนาการ ฯลฯ

    รับรู้ถึงความเป็นมนุษย์และอยากส่งต่อ

    นิยายเป็นเรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบอกเล่าความเป็นมนุษย์ที่สนุกสนาน

    นักเขียนเป็นอาชีพที่อยากจะถ่ายทอดตัวตนและความรู้ที่พวกเขามี ณ ช่วงเวลานั้น

    ความรู้สึกที่เกิดขึ้น สิ่งที่เขาศึกษาอยู่  ความชอบ  ประสบการณ์และเรื่องที่พบเจอ

    ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกกลั่นกรองและถ่ายทอดออกมาผ่านตัวหนังสือ และส่งต่อสิ่งเหล่านั้น

    ไปให้ใครบางคนที่ได้รับรู้สิ่งที่เขาต้องการบอกเล่าเพื่อสร้างแรงบัลดาลใจ

    มอบความรู้  หรือเสนอแนวคิด ให้กับผู้อ่าน…

    ผู้อ่านที่หลากหลาย อาชีพ ความเชื่อ  การใช้ชีวิต  เมื่อพวกเขาได้รับบางอย่าง

    จากนิยายที่พวกเขาอ่าน บางเรื่องก็ตรงกับชีวิตหรืออุปนิสัยของเขา บางเรื่องอาจจะสร้าง

    แนวคิดใหม่ในชีวิต การผสมผสานระหว่างความคิดของผู้เขียน และ ผู้อ่าน

    นั่นแหละคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการ‘เล่าเรื่อง’เมื่อพวกเขาเข้าใจในบางสิ่งที่นิยายให้กับเขา

    ก็จะทำให้เข้าใจ ‘ มนุษย์ ’ มากขึ้น และนี่แหละคือสิ่งที่สวยงามของการ‘อ่านนิยาย’

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in Uncategorized

    นิยายยอดนิยม

    Facebook