• Connect with us

    Enter Books

    ซยงหนู

    ทดลองอ่าน ซยงหนู ทัณฑ์สวรรค์ อาถรรพ์ต้องสาป เล่ม 1 บทที่ 3-4

    ชุดนอนราวกับดอกไม้ตูมๆ ขนาดใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้น เลือดของเจ๊ผิงยังคงไหลซึมออกทางด้านล่างอย่างช้าๆ อีกด้วย นั่นก็แปลว่าเจ๊ผิงถูกทวนยาวเล่มนั้นแทงทะลุร่าง ตรึงติดอยู่กับพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มอยู่ในโพรงจมูก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งตะโกนร้องออกมาก่อนจะตกใจวิ่งหนีลงตึก กระเพาะผมปั่นป่วนหนัก ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด 110

    เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสองคนก็เตรียมลงไปจากตึก แต่กลับถูกผมดึงตัวเอาไว้ ผมพูด “ดูแลที่เกิดเหตุไว้ ฆาตกรไปแล้ว ตอนนี้ที่นี่ปลอดภัยที่สุด…” แต่ความจริงแล้วผมตกใจจนแทบบ้า ก้าวเท้าไม่ออก เลยคิดจะรั้งพวกเขาไว้เป็นเพื่อนต่างหาก

    ผมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนยืนตัวสั่นงันงกเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู วิทยุสื่อสารของหนึ่งในสองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดังขึ้น เสียงจากปลายสายอีกด้านเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น “ภาพ…ภาพคนสมัยโบราณบันทึก…บันทึกอยู่ในจอมอนิเตอร์…ผม…ผม…ผมกลัว…” แทนที่จะรีบร้อนลงจากตึก ผมกลับดึงพวกเขาเข้าไปในห้อง พอมั่นใจว่าในห้องไม่มีคนจริงๆ ผมก็ดึงลิ่มกระดาษที่มีกาวทาติดไว้ตรงวงกบประตูออก ยัดมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบเอากุญแจบนชั้นวางรองเท้าข้างประตูมาล็อกประตูด้านนอกถึงสองชั้น เสร็จแล้วก็เดินลงจากตึก พอลงไปถึงชั้นหนึ่งผมก็ทำแบบเดียวกันคือดึงลิ่มกระดาษบนวงกบประตูตึกเก็บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ลงกลอนจากทางด้านนอก หลังมั่นใจว่าปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยพวกเราสามคนก็วิ่งตรงไปที่ห้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

    เจ้าอ้วนที่วิ่งหนีลงมาก่อนกำลังนั่งอึ้งอยู่ข้างจอมอนิเตอร์ มุมปากกระตุกไปมาไม่หยุด แค่มองก็รู้แล้วว่ากำลังขวัญหนีดีฝ่อหนัก ผมแทรกตัวผ่านประตูแคบๆ เข้าไปในห้องของเจ้าหน้าที่ สิ่งที่ปรากฏอยู่บนจอทำเอาผมตกใจแทบช็อก

    ภาพลำตัวด้านข้างของชายหนุ่มรูปร่างกำยำสันทัดสวมเสื้อหนังสัตว์เปิดไหล่ด้านขวา บนหัวสวมหมวกปลายแหลม ในมือถือทวนยาวสูงกว่าตัวคน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกดปุ่มย้อนกลับ ภาพเคลื่อนกลับไปรวดเร็ว เขาเข้ามาอยู่ในกล้องตอน 23:57 แต่เนื่องจากปัญหาด้านมุมกล้องทำให้ไม่สามารถจับภาพหน้าตรงของเขาได้ แต่การแต่งกายแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับภาพทหารซยงหนูในภาพยนตร์เลยแม้แต่น้อย

    ขณะที่ผมกำลังจะเร่งภาพ คิดจะหาว่ามีภาพคนคนนี้ออกไปจากเขตที่พักอาศัยหรือเปล่า จะได้มั่นใจว่าเขาออกไปจากเขตที่พักแล้วจริงๆ รถตำรวจก็มาหยุดอยู่ที่ปากทางเข้าเขตที่พักอาศัยเป็นที่เรียบร้อย

    และก็ด้วยเหตุนี้ผมเลยได้มีโอกาสคบค้าสมาคมกับพรรคพวกจากสถานีตำรวจอีกครั้ง หนำซ้ำยังเป็นนายตำรวจสูงวัยที่พบเจอกันคราวก่อน พ่อของฮวาผิง หลังจากพาพวกเขาไปที่เกิดเหตุผมก็ไม่ลืมล้วงเอาลิ่มกระดาษที่แปะติดอยู่บนวงกบประตูออกมาจากกระเป่ากางเกง และเพราะเมื่อกี้รีบร้อนยัดเก็บ กระดาษจึงเปิดออกครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นร่องรอยน้ำหมึกสีดำที่อยู่บนนั้น ผมรีบคลี่ออกดูก่อนจะพบอักษรจีนตัวเต็มเรียงรายเป็นระเบียบ

     

    ‘ท่านข่านผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากฟ้า ประสงค์จะนำกองกำลังของจักรวรรดิซยงหนูหวนคืน จำต้องได้เทียนฉีเพื่อครอบครองใต้หล้า แต่เพราะดาบพกของท่านข่านที่ผนึกเทียนฉีสาบสูญ จึงไม่อาจเปิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดแตะต้องดาบพกของท่านข่านตามอำเภอใจ แม้นไม่ส่งคืนกลับในเวลาที่กำหนด จักต้องตายด้วยน้ำมือทหารกล้าแห่งซยงหนู’

     

    ทันทีที่เห็นประโยคสองสามแถวดังกล่าวผมก็อดกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่ได้ ผมจำไม่ได้ว่ากระดาษแผ่นไหนดึงออกมาจากวงกบประตูไหน ผมรีบแกะกระดาษอีกใบออกดูก่อนจะพบว่าด้านบนเป็นประโยคท่อนสุดท้ายซึ่งเขียนไว้ด้วยเลือด

     

    ‘ผู้ใดแตะต้องดาบพกของท่านข่านตามอำเภอใจ แม้นไม่ส่งคืนกลับในเวลาที่กำหนด จักต้องตายด้วยน้ำมือทหารกล้าแห่งซยงหนู’

     

    รอยเลือดยังไม่แห้งสนิท และเพราะถือมันอยู่ใกล้จมูก ผมจึงยังได้กลิ่นเลือดจางๆ หรือว่า…จะเขียนด้วยเลือดของเจ๊ผิง

    ผมลนลานโยนกระดาษทิ้งลงกับพื้น

    ผมต้องบ้าไปแล้ว! ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ซยงหนู

    นิยายยอดนิยม

    Facebook