• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้าพิชิตปฐพี 24_1

    อะไรที่เรียกว่าอมตวัชระ

    ก็คือจะทำลายอย่างไรก็ทำลายไม่ได้

    แล้วแบบนี้จะสู้อย่างไร

    หนิงเชวียแต่ไรมาคล้ายไม่รู้ว่า‘สิ้นหวัง’เขียนอย่างไร แต่วันนี้มันคล้ายจะรู้วิธีเขียนแล้ว

    เจ้าคณะฝ่ายเทศนาเปลี่ยนจีวรชุดใหม่แล้วเงยหน้าขึ้น สีหน้าสงบนิ่งมองหนิงเชวียที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้ง ลดไม้เท้าในมือลงช้าๆ

    ก่อนหน้านี้ไม้เท้าในมือของเจ้าคณะกำลังลดต่ำลง แต่การเคลื่อนไหวของหนิงเชวียนั้นเร็วมาก ส่วนการเคลื่อนไหวของเจ้าคณะนั้นช้ามาก หลังจากหนิงเชวียฟันไปถึงสิบแปดดาบ ไม้เท้าก็ยังลงไม่ถึงพื้น

    กระทั่งตอนนี้ในที่สุดปลายไม้เท้าก็สัมผัสพื้น

    หัวไม้เท้าส่งเสียงดังสดใสเหมือนกระดิ่ง

    ปลายไม้เท้าปักลงพื้นไปอย่างง่ายดายโดยไร้สุ้มเสียง

    ไม่มีเสียงสะท้านสะเทือนแก้วหู และไม่มีสภาวะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

    ชาวแคว้นเยวี่ยหลุนหลายหมื่นคนที่ก้มหน้าอยู่กับพื้นไม่สามารถสัมผัสอะไรได้

    เสียงนั้นก้องดังสุดขีด ดังนั้นจึงเงียบราวไร้เสียง

    การสั่นสะเทือนนั้นรุนแรงสุดขีด ดังนั้นจึงไม่อาจสัมผัสได้

    มีเพียงหนิงเชวียคนเดียวที่สัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือน

    การสั่นสะเทือนของผืนปฐพี!

    สองเท้าของหนิงเชวียเริ่มสั่น รองเท้าขาดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    การสั่นสะเทือนถ่ายทอดมายังขาของมัน ทำให้กางเกงขาดไปในพริบตา

    จากนั้นร่างของมันก็สั่น ต่อมาซังซังที่อยู่บนหลังของมันก็สั่น

    หนิงเชวียกระอักเลือดคำหนึ่งลงพื้น

    ซังซังกระอักเลือดคำหนึ่งลงไหล่หนิงเชวีย

    เจ้าคณะฝ่ายเทศนายกไม้เท้าขึ้นอีกคราแล้วเดินช้าๆ เข้าหาหนิงเชวีย

    หนิงเชวียใจสะท้านสุดขีด ความคิดเดียวที่มีคือแบกซังซังกระโดดลงทะเลสาบ แต่ตอนนี้มันรู้สึกว่ากระดูกทุกชิ้นในร่างกายแหลกสลายไปแล้ว จะเอาแรงที่ไหนมาวิ่ง

    เจ้าคณะฝ่ายเทศนาเดินช้ามาก แต่ละก้าวล้วนต้องใช้ไม้เท้ายันพื้นแล้วหยุดพักครู่หนึ่ง

    ทุกครั้งที่ไม้เท้าปักลงพื้น หัวไม้เท้าจะส่งเสียงดังสดใส และหนิงเชวียที่อยู่ไกลออกไปหลายสิบจั้งก็จะถูกโจมตีอย่างรุนแรง ไม้เท้าอันนั้นคล้ายปักลงที่หัวใจมัน

    เจ้าคณะฝ่ายเทศนาเดินเข้าหาหนิงเชวียทีละก้าวๆ

    หนิงเชวียกับซังซังกระอักเลือดไม่หยุด มองฝ่ายตรงข้ามเดินเข้ามาหาตน ตอนนี้มันปรารถนาให้เจ้าคณะฝ่ายเทศนาเดินเร็วขึ้นเพราะยิ่งฝ่ายตรงข้ามเดินช้า มันกับซังซังก็ยิ่งเจ็บปวด

    หลวงจีนมากกว่าหนึ่งร้อยรูปคุมพื้นที่อยู่รอบวัด พลธนูหลายร้อยนายหายจากอาการตื่นตระหนกแล้ว ง้างสายแล้วพาดลูกธนูเล็งไปที่หนิงเชวีย

    ไม่รู้ด้วยเหตุใดมีเพียงชีเหมยต้าซือเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่รอบนอกของฝูงชน

    หนิงเชวียลองง้างสายธนูเหล็ก แต่พบว่าต่อหน้าพุทธานุภาพของเจ้าคณะฝ่ายเทศนา ภายในอาณาเขตของเสียงไม้เท้า ตนเองไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้เลย

    เจ้าคณะฝ่ายเทศนาเดินมาช้าๆ มองมันแล้วถามอย่างเย็นชาว่า

    “กระดานหมากของปฐมพุทธะอยู่ไหน”

    หนิงเชวียฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด ทั้งปากถูกแรงสั่นสะเทือนจนมีเลือดไหลออกมาตามไรฟัน มันกล่าวว่า

    “อยู่ในสมองส่วนลึกของข้า ท่านสามารถฆ่าข้า แล้วดูว่ามันซ่อนอยู่ตรงส่วนไหน”

    เจ้าคณะฝ่ายเทศนาถอนหายใจคราหนึ่ง มองไปที่ใบหน้าขาวซีดของซังซัง กล่าวด้วยความเวทนาว่า

    “เด็กน้อยที่น่าสงสารมาที่โลกมนุษย์อย่างสูญเปล่าหลายปีมานี้เจ้าได้รับความทุกข์มากมาย จงหลุดพ้นไปในวันนี้เถอะ”

    หนิงเชวียไอเป็นเลือดสองครั้ง พยายามแสดงท่าทีเย้ยหยัน กล่าวว่า

    “ปฐมพุทธะพูดว่าจะฉุดช่วยเวไนยสัตว์อย่างกว้างขวาง ที่แท้ก็ใช้วิธีการแบบนี้ ทำไมท่านจึงไม่ทำให้ตัวเองหลุดพ้นก่อนเล่า”

    สถานการณ์ในตอนนี้คับขันและสิ้นหวัง มันยังมีกะใจมาเย้ยหยันฝ่ายตรงข้าม นี่เป็นเพราะมันคิดว่าก่อนตายสามารถเย้ยหยันบุคคลระดับเจ้าคณะฝ่ายเทศนาได้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว และอันที่จริงมันยังไม่ได้สิ้นหวังเสียทีเดียว

    ที่ไม่สิ้นหวังเพราะมันยังมีความหวังสุดท้าย

    ความหวังนั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวมันเอง แต่อยู่ที่คนคนนั้นที่มันรอคอย

    ตอนอยู่วัดลั่นเคอมันรอคนคนนั้นนานมาก

    หลังออกจากวัดลั่นเคอมันรอคนคนนั้นอยู่ในเมืองเฉาหยางมาหนึ่งเหมันต์เต็มแล้ว

    มันรอคนคนนั้นมาตลอดเพราะเชื่อว่าคนคนนั้นจะต้องมาอย่างแน่นอน

    วันนั้นที่วัดลั่นเคอคนคนนั้นปรากฏตัว เช่นนั้นวันนี้ก็ควรปรากฏตัวที่วัดไป๋ถ่า

    มันสามารถคาดหวังได้หรือไม่กันนะ

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook