• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน แฟ้มคดีพิศวงของนักประเมินอัจฉริยะ Q 9 ตอนที่ 1

    หน้าที่แล้ว1 of 5

    ของที่ลืมไว้

    รถไฟชิงกันเซนของญี่ปุ่นเป็นยานพาหนะที่นั่งสบายมากสำหรับเคเนส อัลลิงกัม ชาวอังกฤษในวัยย่างหกสิบสองปีผู้เกิดที่นครคอเวนทรี

    เขาเหม่อมองผืนฟ้าซึ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มขณะเอนตัวบนที่นั่งในตู้ขบวนพิเศษซึ่งทั้งเงียบและแทบไม่โคลงเคลง ความง่วงแล่นขึ้นมาจู่โจมจนอยากหลับสักงีบหลังจากเพิ่งเสร็จงานวันนี้ แต่จะผล็อยหลับก็ไม่ได้เพราะรถไฟสายโนโซมิหมายเลข 53 จากสถานีโตเกียวไปยังสถานีชินโยโกฮามะใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ต้องลงแล้ว

    ชายสูงวัยมีเหตุผลให้ต้องลงทุนนั่งรถไฟชิงกันเซนเพียงเพื่อกลับแมนชั่นในย่านคันไน เพราะเขาอ้างกับคนอื่นไว้ว่าพักอยู่แถวสถานีชินากาวะ เขาจำเป็นต้องคอยระวังสายตาคนอื่น ถึงแม้ไม่น่าจะมีใครจ้องสะกดรอยก็ตาม

    ในฐานะชาวอังกฤษที่ได้เข้าทำงานเป็นภัณฑารักษ์แห่งพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ อัลลิงกัมต้องปิดบังประวัติการทำงานอันไม่เหมือนใครนี้

    อย่างไรก็ตาม สถานะปลอมขณะอยู่ในญี่ปุ่นไม่ได้ต่างจากสายงานจริงเท่าใดนัก อย่างวันนี้เขาก็ได้เยี่ยมชมการทำงานและสร้างสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับกลุ่มนักประเมินมูลค่าชาวญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์มิตซูบิชิหมายเลขหนึ่งในย่านมารุโนะอุจิ

     

    วันนี้พิพิธภัณฑ์ปิดทำการและเชิญผู้มีสายตาแหลมคมในหลากหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรมหรือประติมากรรมจากองค์กรและสมาคมนักประเมินมูลค่าทั่วญี่ปุ่นมารวมตัวกัน เพื่อตรวจสอบสภาพผลงานศิลปะในครอบครองครั้งใหญ่หลังได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว และอัลลิงกัมก็ได้แฝงตัวเข้ามาด้วย

    นักประเมินชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีวัยหนุ่มสาวเพียงไม่กี่คน อัลลิงกัมสะดุดตาเป็นพิเศษกับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง

    เขาเพิ่งมารู้ทีหลังว่าอีกฝ่ายอายุยี่สิบสามปี เธอมีหน้าตาอ่อนเยาว์กว่าวัย รูปร่างผอม แขนขายาว หน้าเรียวเล็กและหุ่นดีเหมือนนางแบบ เจ้าตัวเลือกสวมสูทเนื้อดี วันนี้มาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนักประเมินผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกับหนุ่มสาวรายอื่น มือข้างหนึ่งถือกระดานคอยช่วยจดงานตามคำสั่งของกลุ่มนักประเมินสลับกับถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอลเป็นระยะขณะเดินทั่วพิพิธภัณฑ์

    ใบหน้าเล็กนั้นรับกับผมยาวเป็นลอนอ่อน ดวงตากลมโตเหมือนแมว จมูกโด่งและริมฝีปากเรียวบางอย่างเหมาะเจาะ ดวงหน้าอันงดงามค่อนไปทางสวยมากกว่าน่ารัก แฝงด้วยความสดใสดั่งเด็กสาวมหาวิทยาลัย ดูโดยรวมแล้วเยือกเย็นมีเอกลักษณ์ อัลลิงกัมรู้สึกว่าเธอช่างเป็นสตรีที่มีแววตาคมกริบอย่างกับแมวไม่มีผิด

    พออัลลิงกัมก้าวเข้าไปยังห้องโถงจัดนิทรรศการภาพ เธอคนนั้นก็เบนสายตามาหาแล้วโค้งศีรษะพลางยิ้มอย่างมีมารยาท

    ชายชราโค้งศีรษะทักทายกลับแล้วออกตัวเป็นภาษาญี่ปุ่น “ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ ฉันอยากขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลงานของโองาตะ โครินกับมารุยามะ โอเคียวหน่อยน่ะ”

    เธอกวาดตามองทั่วห้องโถง “ผู้ช่วยเป็นอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ฉันค่ะ แต่เดี๋ยวฉันไปเรียกมาให้ดีไหมคะ”

    “ไม่เป็นไร ฉันไม่รีบ ขอตัวไปรอที่เลาจน์ก็แล้วกัน นี่ถ้าฉันรู้วิธีชงกาแฟก็คงนั่งรอได้เป็นชั่วโมงเลยล่ะ”

    “ฉันจะไปชงให้เองค่ะ เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณชื่อ…”

    “บราวน์” อัลลิงกัมอ้างชื่อปลอม “ฉันเป็นคนอเมริกามาจากบอสตัน เป็นนักค้าขายงานศิลป์น่ะ แล้วเธอ…”

    “ฉันชื่อรินดะ ริโกะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” หญิงสาวที่ชื่อริโกะแนะนำตัวเสร็จแล้วมุ่งหน้าไปที่เลาจน์

    เขาเดินตามโดยปรับฝีเท้าให้พอๆ กันพลางถามต่อ “เธอทำงานอยู่กับนักประเมินคนไหนเหรอ”

    “ฉันทำงานคนเดียวค่ะ เพราะเป็นนักประเมินฟรีแลนซ์”

    “โอ้โห มีออฟฟิศเป็นของตัวเองเชียวเหรอ ยังสาวอยู่เลย น่าทึ่งจริงๆ”

    “ยังเพิ่งเริ่มเท่านั้นเองค่ะ มีเรื่องต้องเรียนรู้อีกเยอะ” ริโกะยิ้มแหย ดูเขินปนเกร็งนิดๆ มันไม่เชิงเป็นยิ้มกว้างเหมือนเด็กสาว หากแต่แฝงด้วยความเป็นผู้ใหญ่

    หน้าที่แล้ว1 of 5

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook