#เที่ยวทิพย์ ไปกับเหล่ามนุษย์กึ่งเทพ ปักแลนด์มาร์กสำคัญจากซีรี่ส์เพอร์ซีย์ แจ็กสัน

     ยุคโควิดที่ต้องอยู่ติดกับบ้านกันแบบนี้ นักอ่านของเฮียคงจะหงอยๆ เหงาๆ กันอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะเฮียเองก็คิดถึงแสงสี อยากออกไปเที่ยวใจจะขาดเหมือนกัน แต่ในช่วงเวลาที่โรคระบาดน่ากลัวกว่าอสุรกาย จะให้เที่ยวด้วยกายหยาบก็คงไม่ไหว วันนี้เฮียจึงจะมาชวนทุกคนไป “เที่ยวทิพย์” แก้ขัดกันไปก่อน แต่แหม เที่ยวทิพย์กับเหล่านักอ่านเอ็นเธอร์บุ๊คส์จะไปแบบธรรมดาได้ยังไง เฮียก็เลยจะสวมบทบาทไกด์ พาทุกคนไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์กเจ๋งๆ ในโลกของ “เพอร์ซีย์ แจ็กสัน” ใช่แล้ว...วันนี้เราจะไปเที่ยวแบบมนุษย์กึ่งเทพกัน! แล้วจะรอช้าอยู่ไย เตรียมเสบียงกันให้พร้อม แล้วตามเฮียมาเลย!

จุดเริ่มต้นของการเดินทาง : แคมป์ฮาล์ฟบลัด

     ในเมื่อเราจะเที่ยวกันแบบมนุษย์กึ่งเทพ ก็ต้องเริ่มต้นแบบมนุษย์กึ่งเทพ! เฮียก็เลยพาทุกคนมาที่ “แคมป์ฮาล์ฟบลัด” หรือค่ายฤดูร้อนของเหล่ามนุษย์กึ่งเทพ ที่นี่ตั้งอยู่บนเกาะลองไอส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ที่ปกป้องเหล่ามนุษย์กึ่งเทพได้ดีที่สุด เมื่ออยู่ที่นี่ พวกเขาจะปลอดภัยจากอสุรกาย แถมยังมีเรื่องสนุกๆ ให้ทำตั้งมากมาย ตั้งแต่การพบปะผองเพื่อนหรือพี่น้องต่างพ่อต่างแม่ ศึกชิงธง พายเรือแคนู ปีนผาจำลอง ฯลฯ ที่สำคัญ ที่นี่ยังมีทุ่งสตรอเบอร์รี่สดๆ ที่ขายส่งให้ร้านค้าต่างๆ ภายใต้ชื่อ “เดลฟี สตรอเบอร์รี่เซอร์วิส” อีกด้วยนะ

     ถึงแคมป์ฮาล์ฟบลัดจะเป็นสถานที่ปลอดภัยของเหล่ามนุษย์กึ่งเทพ แต่บางครั้งพวกเขาก็จำเป็นต้องออกมาทำภารกิจ (เสี่ยงตาย) นอกค่ายเหมือนกัน นั่นเรียกว่า “การเดินทาง” โดยผู้กล้าของการเดินทางแต่ละครั้งจะเลือกผู้ติดตามได้สองคน และจะได้รับ “คำชี้แนะ” จาก “ผู้หยั่งรู้” ซึ่งเป็นคำทำนายที่บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในการเดินทาง แต่คำทำนายก็เหมือนดูดวง ต่อให้รู้เอาไว้ก็ไม่ได้ทำให้การเดินทางง่ายขึ้นอยู่ดี เพราะคำทำนายส่วนใหญ่มักจะคลุมเครือเกินไป แถมบางครั้งยังหักมุมอีกต่างหาก การเดินทางของมนุษย์กึ่งเทพจึงไม่ได้อันตรายน้อยลงเลยสักนิด
     ส่วนการเดินทางของพวกเราชาวเอ็นเธอร์บุ๊คส์นั้นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะทุกคนมีเฮียอยู่ งั้นเราไปที่ต่อไปกันเลยดีกว่า

ยอดเขาโอลิมปัสแห่งใหม่ : ตึกเอมไพร์ สเตต

     ตึกเอมไพร์ สเตตซึ่งตั้งตระหง่านกลางมหานครนิวยอร์กนั้นเคยมีสถานะเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงถึง 103 ชั้น และยังเป็นที่จดจำจากภาพยนตร์เรื่อง “คิงคอง” ในฐานะตึกที่เจ้าวานรยักษ์ปีนขึ้นไปถึงยอดและตกลงมา แต่สำหรับเหล่ามนุษย์กึ่งเทพแล้วตึกนี้เป็นมากกว่านั้น เพราะที่นี่คือยอดเขาโอลิมปัสแห่งใหม่ หรือก็คือบ้านของเหล่าเทพนั่นเอง
     ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะสิ่งต่างๆ ในตำนานกรีกได้เคลื่อนตัวมาตามอำนาจตะวันตก ดังนั้นยอดเขาโอลิมปัสจึงได้ย้ายมาอยู่บนยอดตึกเอมไพร์ สเตต แต่จะเรียกว่ายอดตึกก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะการจะไปให้ถึงโอลิมปัสแห่งใหม่ได้นั้นจะต้องขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 600 แต่มนุษย์ธรรมดามองไม่เห็นหรอกว่ามีชั้นนี้อยู่ เว้นแต่จะแสดงหลักฐานกับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ชั้นล่างว่าตัวเองมีนัดกับเทพเจ้า และถ้าขึ้นไปถึงชั้นนั้นได้แล้ว ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ของโอลิมปัสของจริงซึ่งสวยงามน่าดูชมเชียวล่ะ

ล่องเรือชมทะเลปีศาจ : สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

     ที่ต่อมาที่เราจะเที่ยวชมกันนั้นอาจจะถือเป็นสถานที่ลึกลับและอันตรายทั้งสำหรับคนธรรมดาและมนุษย์กึ่งเทพเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่คือ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา” อันโด่งดังนั่นเอง หลายๆ คนก็คงเคยได้ยินเรื่องราวอาถรรพ์ของสามเหลี่ยมทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแห่งนี้กันมาบ้าง ว่ามีเรือและเครื่องบินจำนวนมากหายไปอย่างเป็นปริศนาเมื่อผ่านเขตสามเหลี่ยมแห่งนี้ แม้ภายหลังจะมีการพิสูจน์ได้ว่าเรื่องอาถรรพ์บางเรื่องก็มีการเติมแต่งเกินจริง รวมถึงมีการเสนอแนวคิดทางวิทยาศาสตร์เพื่อไขปริศนาการหายสาบสูญในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา แต่เรื่องราวของสามเหลี่ยมอาถรรพ์ก็ยังฝังอยู่ในใจผู้คนไม่เสื่อมคลาย
     เพราะฉะนั้น คงไม่มีสถานที่ไหนในตำนานกรีกเหมาะที่จะเคลื่อนตามอำนาจตะวันตกมาอยู่ที่นี่มากไปกว่า “ทะเลปีศาจ” อีกแล้ว เพราะทะเลปีศาจนั้นเต็มไปด้วยอสุรกายแสนชั่วร้าย ทั้งซิลลา อสุรกายหัวงู คาลิปดิส น้ำวนที่ดูดกลืนทุกสิ่ง และเหล่าไซเรน มีทั้งเกาะของไซคลอปส์และเกาะของแม่มด ตามตำนานกรีก วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่หลายคนล้วนแล้วแต่เคยล่องเรือผ่านท้องทะเลแห่งนี้ เช่น โอดิสซีอุสผู้ล่องเรือกลับจากสงครามทรอย ผ่านทะเลปีศาจ ปราบยักษ์โพลีฟีมัส และขึ้นไปยังเกาะอันงดงามของเซอร์ซี แม่มดผู้มักจะสาปผู้ชายให้กลายเป็นหมู เรียกได้ว่าการเดินทางผ่านทะเลปีศาจนั้นอันตรายสุดๆ

ลุ้นระทึกในเขาวงกต : วงกตของเดดาลัส

     หลังจากที่เราขึ้นเขาและล่องทะเลกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะมาดำดินกันบ้าง แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเฮียจะพาไปขุดอุโมงค์! เพราะที่ที่เราจะไปกันก็คือ “วงกตใต้ดิน” และไม่ใช่วงกตธรรมดา แต่เป็น “วงกตของเดดาลัส” ตามตำนานกรีก วงกตแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือของ “เดดาลัส” นักประดิษฐ์ผู้เก่งกาจที่สุด ตามคำสั่งจ้างของราชาไมนอสแห่งเกาะครีต เพื่อที่จะขังอสุรกาย “มิโนทอร์” ครึ่งคนครึ่งกระทิงเอาไว้ในนั้น ปัญหาก็คือเดดาลัสได้ทำให้วงกตแห่งนี้มีจิตวิญญาณ มันจึงปรับเปลี่ยนเส้นทางและขยับขยายพื้นที่ได้ด้วยตัวเอง ต่อมาภายหลังก็มีวีรบุรุษผู้หนึ่งพิชิตเส้นทางในวงกตได้ เขาคือ “ธีซีอุส” ผู้เข้าไปสังหารมิโนทอร์และกลับออกจากวงกตได้ด้วยความช่วยเหลือของ “อาริแอดเน่” เจ้าหญิงแห่งครีต
     ในจักรวาลเพอร์ซีย์ แจ็กสันนั้น วงกตของเดดาลัสได้เคลื่อนจากใต้เกาะครีตมาอยู่ใต้สหรัฐอเมริกาเช่นกัน แต่เนื่องจากเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว วงกตที่มีจิตวิญญาณของมันเองก็ได้ขยับขยายเส้นทางจนเชื่อมไปทั้งโลก ทางเข้าของวงกตที่ถูกค้นพบจะถูกทำสัญลักษณ์เดลต้าเอาไว้ เพราะนั่นคือสัญลักษณ์ของเดดาลัส นอกจากนี้ เวลาด้านในกับด้านนอกวงกตยังไหลไม่เท่ากัน เวลาเพียงไม่กี่นาทีในวงกต อาจเทียบเท่ากับเวลาหลายชั่วโมงข้างนอก!
รู้อย่างนี้แล้วก็น่าลงไปอยู่สักสองสามเดือนเหมือนกันนะเนี่ย เผื่อกลับขึ้นมาแล้ววิกฤติโควิดจะหมดไปสักที แต่ในวงกตนี้กลับไม่ปลอดภัยนี่สิ เพราะเจ้า “มิโนทอร์” ยังคงอยู่ในนั้น เนื่องจากตามจักรวาลเพอร์ซีย์ แจ็กสัน อสุรกายเหล่านี้ หลังถูกฆ่าไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็จะฟื้นกลับมาได้เอง ดังนั้นวงกตของเดดาลัสจึงเป็นสถานที่อันตรายพอๆ กับทะเลปีศาจเลยทีเดียว

เป็นยังไงกันบ้าง “เที่ยวทิพย์” แบบมนุษย์กึ่งเทพไปกับเฮียพอจะช่วยให้ทุกคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้างหรือเปล่า แต่ถ้าหากทุกคนยังไม่เต็มอิ่มกันล่ะก็ เฮียบอกเลยว่า สถานที่เจ๋งๆ ในหนังสือชุด “เพอร์ซีย์ แจ็กสัน” นั้นยังมีอีกมากมาย สามวันสามคืนก็พาเที่ยวไม่ครบ! ดังนั้นขอแค่หยิบขึ้นมาอ่าน ก็จะได้เที่ยวทิพย์ไปกับเหล่ามนุษย์กึ่งเทพแบบหนำใจเลยล่ะ

     หนังสือชุด “เพอร์ซีย์ แจ็กสัน” สามารถเลือกอ่านได้ทั้งฉบับอีบุ๊กหรือฉบับเล่มสะดวกแบบไหนสามารถไปหาอ่านต่อกันได้เลย 

- ช้อปผ่านช่องทางออนไลน์: คลิกที่นี่
- ช้อปผ่านทาง Shopee jamsai_official : คลิกที่นี่
- ช้อปที่ Jamclub (ซอยแซมมี่ อยู่ในซอยด้านข้างเมเจอร์ สาขาปิ่นเกล้า) หรือช็อปออนไลน์กับ Jamclub คลิกที่นี่
- ช้อปที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

สำหรับสาย e-book สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่
OOKBEE / Meb / Fictionlog / Naiinpann / SE-ED / Hytexts /comico