• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน สยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 11 บทที่ 3

    บทที่ 3 เหลียนเซิงสามสิบสอง

     

    ผู้อาวุโสมักคู่ควรแก่การเคารพ หลวงจีนชรารูปนี้นั่งชดใช้ความผิดอยู่ท่ามกลางกองกระดูกขาวโพลนมาเป็นเวลานาน คิดว่าคงไม่ใช่คนแก่ไร้ยางอายที่ไม่รู้จักตายสักทีอย่างชวีนีหม่าตี้ หนิงเชวียลดธนูลงสะพายไว้ด้านหลัง แต่ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า ยังรักษาระยะห่างสิบกว่าจั้ง กล่าวอย่างนอบน้อมว่า

    “ถูกต้อง ผู้เยาว์เป็นศิษย์สถานศึกษา ค่ายกลประตูสำนักพรรคมารเปิดออกตามเจตนารมณ์แห่งฟ้า มิทราบเหตุไฉนผู้อาวุโสจึงกล่าวว่าซากศพเกลื่อนพื้นเหล่านี้ล้วนเป็นความผิดของท่าน”

    หลวงจีนชรายิ้มขมขื่นตอบว่า

    “นี่เป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนเรื่องหนึ่ง”

    ทุกคราที่พบสถานที่ลึกลับในป่าเขารกร้างกันดาร จะต้องได้เจอคนแปลกพิสดาร และก็มักจะได้ยินเรื่องราวในอดีตที่แสนมหัศจรรย์พันลึกจากปากคนพวกนี้อยู่เสมอ อาจเป็นเพราะหนิงเชวียคาดการณ์เช่นนี้ไว้ก่อนแล้ว สีหน้าของมันจึงสงบนิ่งขณะกล่าวเสียงเบาว่า

    “ขอผู้อาวุโสโปรดให้ความกระจ่างด้วย”

    หลวงจีนชราเงียบไปครู่หนึ่งก่อนถ่ายทอดเรื่องที่อยู่ในความทรงจำแต่ก่อนเก่าออกมา

    “ปีนั้นคนฟั่นเฟือนแซ่เคอเริ่มออกสัญจรไปทั่วปฐพีในนามของสถานศึกษา โดยมีกระบี่เหล็กธรรมดาๆ เล่มเดียวเป็นเพื่อน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครในใต้หล้าริอาจหาญต่อกรกับมัน ตอนนั้นพรรคมารยังเฟื่องฟู ทั้งยังกำเริบเสิบสาน กระหายเลือดไร้ความเป็นคน มิทราบว่ามีผู้บริสุทธิ์ต้องตายเพราะพวกมันไปมากเท่าใด เมื่อสองฝ่ายพบหน้ากันจึงย่อมต้องเกิดเหตุนองเลือดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    การปะทะกันแต่ละครั้งสร้างความพินาศย่อยยับให้พรรคมารมากขึ้นเรื่อยๆ ยอดผู้ฝึกฌานพรรคมารที่อาละวาดไปทั่วดินแดนจงหยวนต้องสังเวยชีวิตให้กับคมกระบี่ของคนฟั่นเฟือนแซ่เคอคนแล้วคนเล่า

    ทว่ามันมีนิสัยทระนงถือดี ปกติชอบชี้นิ้วด่าฟ้า ก้มหน้าด่าปฐพี ไม่เคยเห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ปราศจากความยำเกรงต่อเฮ่าเทียน ด้วยเหตุนี้ แม้อาศรมเทพแห่งซีหลิงจะมีความต้องการเดียวกันกับมัน นั่นคือขุดรากถอนโคนทำลายพรรคมารให้สิ้นซากไปจากแผ่นดิน แต่บรรดาพรตเฒ่าคร่ำครึของอาศรมเทพกลับเหม็นหน้ามันแทบตาย นี่จึงเป็นโอกาสให้พรรคมารที่กำลังถูกเล่นงานติดๆ กันจนตกอยู่ในสภาพโงหัวไม่ขึ้นขบคิดแผนการหนึ่งขึ้นมา นั่นคือวางแผนยุยงให้สถานศึกษากับอาศรมเทพเกิดความขัดแย้งต่อสู้กันเอง

    มีอยู่ปีหนึ่ง ในงานชุมนุมเทศกาลอวี๋หลันที่วัดลั่นเคอ ผู้ฝึกฌานจากแคว้นต่างๆ ในจงหยวนต่างมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง จำได้ว่าท่ามกลางการร่ายรำเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานครึกครื้น พรรคมารถึงกับเปิดฉากเข่นฆ่าผู้คนราวกับผักปลาที่ลานด้านหน้าโดยไม่กลัวเกรงว่าฟ้าดินจะลงโทษ ก่อนโยนความผิดให้กับหน่วยพิพากษาของอาศรมเทพ นี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราว”

    แม้หลวงจีนชราจะเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด แต่น้ำเสียงและสีหน้ามันกลับยังอบอุ่นอ่อนโยน เวลาพูดถึงความทารุณโหดร้าย ก็เล่าแต่เพียงคร่าวๆ เท่านั้น

    หนิงเชวียพยุงโม่ซันซันไปนั่งพิงผนัง ขณะรับฟังก็นึกวาดภาพตามไปด้วย พอถึงตอนนี้ก็กล่าวว่า

    “การโยนความผิดให้คนอื่นเป็นกลยุทธ์ที่โง่เง่าสิ้นดี”

    มุมปากที่ห้อยตกของหลวงจีนชราโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม สายตาเป็นประกายจับจ้องหนิงเชวียขณะทอดถอนใจกล่าวว่า

    “คิดว่าพรรคมารคงถูกกำจัดจนสิ้นซากไปหมดแล้ว หากยังมีหลงเหลืออยู่บ้างก็คงมีสภาพไม่ต่างอะไรกับเหล่ามุสิกขี้ตื่นที่วิ่งอยู่ตามตรอกซอกซอย ดังนั้นเด็กรุ่นหลังอย่างเจ้าจึงไม่รู้ว่าในอดีตนั้นพวกมันมีขุมกำลังใหญ่โตและน่ากลัวเพียงไร”

    นับตั้งแต่หนิงเชวียออกจากเมืองเว่ยจนสัมผัสกับโลกของการฝึกฌานได้เกือบสองปี มันเคยพบผู้ฝึกวิชามารเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือจอมกระบี่ที่หน้าปากทางเข้าดินแดนเป่ยซาน และตอนนี้ในสายตาของมัน จอมกระบี่คนนั้นก็ไม่นับว่าร้ายกาจสักเท่าใด มันจึงไม่รู้สึกว่าพรรคมารมีความน่ากลัวอย่างที่เล่าลือกัน

    หนังตาที่ดูเหมือนใบไม้แห้งของหลวงจีนชราหลุบลงช้าๆ คล้ายกับว่ากระทั่งการรำลึกถึงความป่าเถื่อนอหังการของพรรคมารก็ยังสามารถทำลายความสงบนิ่งของหัวใจที่ชรามากแล้วของมันได้ สักพักมันค่อยกล่าวต่อ

    “วิธีฝึกฌานของพรรคมารคือการขโมยฟ้าดินมาไว้ในตัว ผู้ที่ฝึกตามแนวทางนี้สุขภาพจะแข็งแรง อายุยืนยาว นอกจากนี้พลังจิตจะไม่กระเพื่อมไหว จึงสามารถหลบหลีกการติดตามสอดแนมของผู้ฝึกฌานคนอื่นๆ ได้ ตอนนั้นคนพรรคมารใช้ความได้เปรียบนี้แฝงตัวเข้าสู่แคว้นต่างๆ ในจงหยวนกันอย่างลำพองใจ บ้างได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางทางการเมืองการปกครองในราชสำนักถึงสามยุคสามสมัย บ้างได้ยินว่าเป็นหัวหน้าตระกูลใหญ่ตามชนบท มีอำนาจและอิทธิพลครอบคลุมไปทั่วเหมือนตาข่ายอันถี่ยิบ แม้แต่ในระดับบนของหน่วยเทียนซูกับอาศรมเทพแห่งซีหลิงก็ยังมีคนของพรรคมารแฝงอยู่”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook