• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 4 บทที่ 1

    กลุ่มคนสำนักซินอี้ต่างก็ติดตามบรรยากาศของการเคลื่อนขบวนนี้ บนใบหน้าเปี่ยมล้นด้วยปณิธานการต่อสู้ เว้นเพียงไต้ขุยคนเดียว เนื่องเพราะไม่นานก่อนหน้ามันตกเป็นรองในเงื้อมมือของจิงเลี่ยต่อหน้าธารกำนัล จึงยังคงเศร้าหมอง ฝ่ามือกุมด้ามดาบไว้แน่น

    หลี่เหวินฉยงและสหายร่วมสำนักฝึกยุทธ์ที่อยู่ข้างกายจะไม่รู้สึกถึงสภาพจิตใจมันตอนนี้ได้อย่างไร จึงกล่าวปลอบใจเสียงแผ่วเบา “ศิษย์พี่ ประเดี๋ยวสำนักซินอี้เราต้องชิงศักดิ์ศรีนี้กลับมาได้เป็นแน่”

    ไต้ขุยได้ฟังพลันรู้สึกว่าตนเองก็เป็นตัวแทนผู้นำของสำนักซินอี้ มิอาจไม่รวบรวมจิตใจกลับมา จึงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ผู้ที่ออกมาจากโรงเตี๊ยมคนถัดมาคือมือดีสำนักปากว้าอายุสามสิบกว่าปี อิ่นอิงชวนฉายาตัดจันทรากลางวารีผู้มีชื่อเสียงแห่งสำนักปากว้าเอามือไพล่หลัง ก้าวข้ามธรณีประตูเหยียบลงบนถนนใหญ่ ศิษย์ที่ตามติดด้านหลังเจ็ดแปดคนบนบ่าแบกดาบเดี่ยวปากว้าขนาดยักษ์เล่มนั้นของมันตามมา

    อิ่นอิงชวนรูปร่างแม้ไม่สูงใหญ่ แต่ทั่วร่างล้วนแผ่บุคลิกยอดฝีมือที่มิอาจซ่อนเร้น กอปรกับคนในสำนักมากมายช่วยขับให้เด่น เหล่านักสู้บนถนนจึงสีหน้าแปรเปลี่ยนในฉับพลัน เมื่อครู่ทุกคนจับจ้องเยียนเหิง ไม่ว่าผู้ใดก็สยบให้ฉายาปาสู่ไร้สองของสำนักชิงเฉิง บัดนี้มองดูอิ่นอิงชวนกลับถูกท่วงท่าสง่างามของมันดึงดูดโดยสิ้นเชิง คนจำนวนมากล้วนกำลังเฝ้ารอเวลาที่ผู้อาวุโสหน้าตาดั่งวานรผอมโซผู้นี้ชักดาบยักษ์เล่มนั้นออกมา

    อิ่นอิงชวนถูกเยียนเหิงชิงเดินนำอยู่ด้านหน้ากลับหาได้ขัดเคืองอันใดไม่ ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้กล้าได้ตกลงกันในโรงเตี๊ยมแล้วว่าการจัดการกับเหยาเหลียนโจวในครั้งนี้จะชักธงแก้แค้นของสำนักชิงเฉิง ให้เยียนเหิงเดินอยู่ด้านหน้าก็ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่มากเกินไป

    พลันมีคนผู้หนึ่งซึ่งแฝงอยู่ในกลุ่มนักสู้สำนักปากว้ากว่าสามสิบคนก้าวออกมา เดิมทีมันมิได้ถูกผู้คนสนใจ แต่ทำอย่างไรได้ เพราะเป็นหยวนซิ่งหลวงจีนหนุ่มสำนักเส้าหลินผู้มีรูปร่างสูงหนาสะดุดตาเกินไป

    หยวนซิ่งแหวกจีวรท่อนบนลงมาผูกไว้ตรงเอว เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออกและแขนที่แน่นตึงจนมันขลับดุจดั่งหินรูปไข่ เส้นเลือดอันใหญ่หนาแผ่ทั่วท่อนแขน เห็นได้ชัดถึงผลลัพธ์ของการฝึกฝนทักษะทางกาย

    ร่างซีกซ้ายของหยวนซิ่งสะท้อนแสงสีทองแดงออกมาภายใต้แสงอาทิตย์ เมื่อมองดูอย่างละเอียดที่แท้ใบหน้าซีกซ้ายของมันสวมหน้ากากทองสำริดหน้าตาดั่งยักษ์ดุร้ายไว้ครึ่งใบ แขนหนาข้างซ้ายทั้งท่อนมีเกราะเหล็กเลี่ยมทองสำริดปกคลุมตั้งแต่หัวไหล่จรดหลังมือ แผ่นเกราะต่อกันเป็นแผ่นๆ บริเวณไหล่ ศอก ข้อมือ ล้วนขยับได้ ออกแบบได้แยบยลอย่างยิ่ง มองดูท่อนล่าง ขาซ้ายเองก็หุ้มไว้ด้วยแผ่นเกราะทองสำริด ทุกฝีก้าวล้วนเปล่งเสียงโลหะกระทบกันดังออกมา กลุ่มคนมองเห็นจึงกระจ่างแจ้งโดยพลัน ห่อผ้าหนักอึ้งห่อนั้นที่หยวนซิ่งพกไว้ข้างกายมาโดยตลอด สิ่งที่เก็บซ่อนไว้ด้านในคือเกราะมนุษย์ทองคำครึ่งร่างของเส้าหลินชุดนี้ ครั้นมองดูแผ่นเกราะบนร่างมันอย่างละเอียดจึงพบว่าบนผิวเต็มไปด้วยรอยยุบ เห็นได้ชัดว่าสวมฝึกซ้อมต่อสู้เป็นประจำ

    เกราะสวมครึ่งร่างนี้ดูจะไม่เบานัก คนผู้หนึ่งรับน้ำหนักซ้ายขวาไม่สมดุลกันเช่นนี้อาจเดินเหินลำบากอย่างยิ่ง แต่หยวนซิ่งก้าวเดินสง่างาม ท่วงท่ากระฉับกระเฉง เห็นชัดว่าการฝึกฝนของมันไม่ตื้นเขิน

    มือขวาที่ประทับลายพยัคฆ์ขาวของหยวนซิ่งกุมพลองเสมอคิ้วหุ้มเหล็กหกเหลี่ยมนั้นไว้แน่น ใบหน้าครึ่งขวาที่เผยออกมาขมวดย่น ไร้ซึ่งสีหน้าโง่เขลาเช่นตอนกินข้าวในโรงเตี๊ยมอีกต่อไป กลับแทนที่ด้วยไอสังหารที่ผู้ออกบวชไม่ควรจะมี กอปรกับเกราะบนร่างชวนให้นึกโยงถึงรูปสลักอรหันต์กำราบมังกรสยบพยัคฆ์หน้าตาอาจหาญในวัด

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook