• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 14 ตอนที่ 2

    แต่ถึงอย่างไรนางก็คือผู้งมงายยุทธ์ ด่านฌานยังอยู่ในระดับสู่พิสดารขั้นปลาย มีหรือจะไม่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทา ทว่านางกลับไม่มีโทสะ เพียงดึงชุดนักพรตบนตัวให้เรียบตึงแล้วหลับตาลง

    การที่อาศรมเทพแห่งซีหลิงจะบัญชาการสานุศิษย์นับร้อยล้านให้อุทิศจิตวิญญาณแก่นิกายเฮ่าเทียนได้ สำคัญคือต้องยืนอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง หน่วยพิพากษาก็คือตัวตนที่ใกล้ชิดกับโลกแห่งความเป็นจริงและจับต้องได้ที่สุดของอาศรมเทพ ความพ่ายแพ้ของหน่วยครั้งนี้ทำให้แสนยานุภาพของอาศรมเทพเสื่อมถอยลงอย่างหนัก หนทางข้างหน้าของเยี่ยหงอวี๋ในฐานะที่เป็นหัวหน้าจึงปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เคยเคารพยำเกรงนางเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้ยังถึงกับกล้าติฉินนินทานาง คนจึงเปลี่ยนเป็นเงียบขรึมลง

     

    ในป่าลึกบนเขาทางแดนใต้ มีอารามที่ปลูกสร้างอย่างเรียบง่ายสมถะอยู่หลังหนึ่ง บนแผ่นป้ายเก่าคร่ำคร่าเหนือประตูมีตัวอักษรเขียนไว้ว่าจือโส่ว (รู้รักษ์) ที่นี่แตกต่างจากอาศรมเทพแห่งซีหลิงซึ่งเข้าสู่โลกียวิสัยกุมอำนาจของนิกายเต๋าทั้งแผ่นดินอย่างเปิดเผยตรงที่หลับหูหลับตาอยู่หลังม่านของนิกายเต๋าเหมือนไม่สนใจไยดีในเรื่องราวทางโลกแม้แต่น้อย

    ข้างทะเลสาบที่อยู่ลึกเข้าไปในตัวอารามมีกระท่อมหญ้าคาอยู่เจ็ดหลัง กระท่อมเหล่านี้เป็นที่บูชาสักการะคัมภีร์สวรรค์เจ็ดเล่ม กระท่อมหลังที่สี่นั้นตกอยู่ในสภาพว่างเปล่ามานานเต็มทีแล้ว เพราะทางอารามยังไม่สามารถอัญเชิญคัมภีร์สวรรค์เล่มแสงสว่างที่สูญหายไปในทุ่งร้างกลับคืนมาได้ หญ้าที่ใช้มุงหลังคาจึงดูเหี่ยวเฉาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนกระท่อมที่เหลืออีกหกหลัง มิทราบว่าเป็นเพราะซึมซับกลิ่นอายของคัมภีร์สวรรค์ในห้องเอาไว้หรือไม่ หญ้ามุงหลังคายามสะท้อนแสงตะวันจึงเป็นประกายเหลืองอร่ามราวกับหล่อหลอมมาจากทองคำ ทั้งยังแผ่กลิ่นอายสูงส่งน่าเกรงขาม ชวนให้ผู้พบเห็นอยากคุกเข่าลงกราบไหว้สักการะ

    บนโต๊ะไม้เฉินเซียงภายในกระท่อมหลังแรก มีคัมภีร์โบราณปกหนังสีดำเข้มเหมือนคราบโลหิตวางไว้เล่มหนึ่ง เป็นเพราะตัวคัมภีร์หนาเกินไป มองเผินๆ จึงคล้ายหินดำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ นี่ก็คือคัมภีร์สวรรค์เล่มตะวัน

    ด้วยองค์ประกอบของปกสีดำเข้มกับกระดาษสีขาวบริสุทธิ์ ทำให้คัมภีร์สวรรค์เล่มนี้แผ่กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์น่ายำเกรงออกมา ตัวคัมภีร์ถูกกางเอาไว้ และมีความเป็นไปได้ว่าไม่เคยมีใครปิดมันมานานนับพันนับหมื่นปีแล้ว หน้าแรกนั้นว่างเปล่า หน้าที่สองทางขวาบริเวณด้านบนสุดกลับปรากฏนามเทพกระบี่หลิ่วไป๋เอาไว้อย่างชัดเจน ถัดไปไม่ไกลในแนวเดียวกันคือนามจวินโม่ ส่วนนามของเยี่ยซูและถังกลับอยู่ถัดลงมา กระจายตัวอย่างไร้ระเบียบ

    ลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง พลิกเปิดหน้ากระดาษอย่างรวดเร็วราวกับเป็นมือที่มองไม่เห็นไปจนถึงหน้าท้ายๆ ของคัมภีร์

    คิมหันต์ปีก่อน หลังจากหนิงเชวียปีนขึ้นสู่ยอดเขาหลังสถานศึกษาได้สำเร็จ และเพิ่งเข้าใจในมรรคาแห่งยันต์เป็นครั้งแรกจากการสังเกตสายฝน นามของมันก็เคยปรากฏอยู่แถวนี้ ทว่ามิทราบเป็นเพราะเหตุใด บัดนี้นามของมันได้อันตรธานหายไป ทำให้หน้ากระดาษบริเวณนี้กลับมาว่างเปล่าขาวสะอาดอีกครั้ง

    ลมที่พัดเข้ามายังคงไหลเวียนอยู่ตามเสาคานในกระท่อม พอกระทบเข้ากับผนังก็ม้วนตัวกลับไปพัดคัมภีร์ให้พลิกกลับไปข้างหน้าอีกครั้ง หน้ากระดาษถูกพลิกเปิดเร็วยิ่ง ทันเห็นนามครบทั้งชื่อแซ่เพียงแค่สองสามนามอย่างเช่น หลี่ว์ชิงเฉิน ที่เหลือจะเห็นเป็นเพียงตัวอักษรโดดๆ เท่านั้น อย่างเช่น หลิว หรือ เหอ

    ลมจากทะเลสาบยังคงพัดหน้ากระดาษให้พลิกเปิดไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พลิกมาจนห่างจากหน้าแรกแค่ไม่กี่หน้า บนหน้านี้มีชื่อคนอยู่กระจัดกระจายเต็มไปหมด ดูแล้วสลับซับซ้อนงดงามเหมือนภาพวาดของบุปผาในดงเถาวัลย์

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook