• Connect with us

    Enter Books

    ซยงหนู

    ทดลองอ่าน ซยงหนู ทัณฑ์สวรรค์ อาถรรพ์ต้องสาป เล่ม 1 บทที่ 3-4

    หน้าที่แล้ว1 of 6

    สามารถอ่านบทก่อนหน้าได้ที่ >> บทที่ 1-2

     

    บทที่ 3 ทหารซยงหนูในกล้องวงจรปิด

     

    ผมไม่ได้นึกสนใจอีเมลงี่เง่าจากผู้รับใช้โม่ตู๋อะไรนั่น เดิมจากที่ตั้งใจว่าจะเข้าเน็ตหาข้อมูลเกี่ยวกับลูกธนูหมิงตี แต่พอนึกถึงซุ่นจื่อใจผมก็ให้เจ็บปวดเกินทน เด็กดีๆ อย่างเขา ทั้งๆ ที่ตกระกำลำบากขนาดนั้นแต่กลับยังคิดเรื่องคืนเงินชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา เอาแค่ที่ติดค้างผมคนเดียวก็ตั้งหลายพันเหรียญแล้ว ทำไมในกระเป๋าผ้าใบใบนั้นถึงมีเงินตั้งหลายหมื่นได้ แค่ที่แขวนดาบอันเล็กๆ นั่นขายได้เงินมากมายขนาดนั้นเชียว?

    ก็เหมือนทุกครั้ง บนถนนเต็มไปด้วยรถราสารพัด เสียงสบถด่าไม่พอใจของโซเฟอร์รถแท็กซี่กับเสียงแตรรถสูงๆ ต่ำๆ ทำเอาความคิดอ่านของผมสับสนวุ่นวาย ในใจมีก็แต่ความรู้สึกกลัดกลุ้ม

    ผมโทรเข้ามือถือของเจ๊ผิงแต่สายกลับไม่ว่าง ความรู้สึกกระวนกระวายในใจผมเพิ่มมากขึ้นตามเวลา ผมนิ่งมองผ่านหน้าต่างรถไปยังถนนที่แออัดไปด้วยรถรา น้ำตาไหลออกจากหางตาโดยไม่รู้ตัว ซุ่นจื่ออำลาโลกที่รถราติดขัดไม่เว้นวันไปอย่างกะทันหันเสียแล้ว

    หลังจากนั้นอีกสองสามนาทีเจ๊ผิงก็โทรกลับมาหาผม ผมลุกลี้ลุกลนปาดน้ำตาก่อนจะกดปุ่มรับสาย แทนที่เจ๊ผิงจะถามว่าผมโทรหาเธอทำไม เธอกลับลับๆ ล่อๆ ถามผม “เสี่ยวอิ้น เฒ่าเสิ่นโทรหานายหรือเปล่า” ได้ยินแบบนั้นผมก็ถึงกับงง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรเจ๊ผิงก็รีบร้อนถามต่อ “ถ้าอย่างนั้นมีใครโทรคุยกับนายเรื่องซื้อขายอะไรบ้างไหม” ผมตะลึงนั่งนิ่งอยู่ที่เบาะหลัง

    “เจ๊ผิง เจ๊พูดอะไรของเจ๊ เจ๊ไม่เป็นไรใช่ไหม” หลังจากนั้นเจ๊ผิงก็กระซิบเสียงเล่าให้ผมฟังถึงต้นสายปลายเหตุ แต่แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบ ถึงอย่างนั้นเจ๊ผิงก็ไม่อาจเก็บงำความรู้สึกตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงได้

    ที่แท้ก็มีคนเสนอราคาฝักดาบในมือของเจ๊ผิงสูงลิบ แถมยังโอนเงินมัดจำเข้าบัญชีเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก ราคาที่เสนอสูงพอที่จะส่งลูกของเธอเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้เธอกำลังเตรียมมอบของให้อีกฝ่าย เพราะพรุ่งนี้เช้าคนซื้อจะมารับมอบของด้วยมือของตัวเองถึงบ้าน แต่เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เจ๊ผิงจึงอยากให้ผมตื่นแต่เช้าไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ นอกจากนี้ยังจะได้ลองถามดูด้วยว่าดาบกับที่แขวนที่อยู่กับผมนั้นจะขายได้ราคาสักเท่าไหร่

    พอไปถึงเขตที่พักอาศัย สัญชาตญาณก็บอกให้ผมมองไปยังหน้าต่างห้องของเจ๊ผิง ห้องของเจ๊ผิงปิดไฟมืดแล้ว ในเมื่อพรุ่งนี้เช้าพอตื่นลืมตาขึ้นมาเธอก็จะพบว่ามีเงินก้อนโตมาวางกองอยู่ในมือแบบนั้น เจ๊ผิงในเวลานี้คงไม่แคล้วกำลังนอนหลับฝันหวานอยู่เป็นแน่ ส่วนผมพอกลับเข้าห้องก็หยิบดาบพกที่ซ่อนไว้ในตู้ติดผนังออกมา แกะผ้าชามัวร์ที่ห่ออยู่ด้านนอกออก วางมันลงบนโต๊ะ ผมครุ่นคิดสับสน ถ้าซุ่นจื่อเสียชีวิตเพราะที่แขวนดาบเล็กๆ อันนั้นจริง ถ้าอย่างนั้นผมมิเท่ากับมีความผิดฐานเป็นหัวหน้าผู้ก่อการหรือไรกัน อีกอย่างแค่ที่แขวนดาบเล็กๆ อันเดียวก็ทำให้ซุ่นจื่อต้องตาย ถ้าอย่างนั้นผม เจ๊ผิง เฒ่าเสิ่นก็อาจถูกฆ่าตายได้ทุกเมื่อเหมือนกัน

    ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม สุดท้ายผมจึงตัดสินใจทิ้งตัวลงบนเตียงเตรียมสลบ ร่างกายสัมผัสกับเตียงนุ่มๆ ได้ไม่ทันไร ความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนก็บุกเข้าจู่โจมแทบจะในทันที เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกราวกับบะหมี่ที่แช่อืดอยู่ในน้ำ แต่ยังไม่ทันจะได้หลับจริงๆ จังๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็น ‘ฮวาผิง’ พอกดรับสายเสียงของผู้หญิงกังวานใสราวกับเสียงดีดนิ้วก็ดังขึ้นข้างหูทันที

    “จินเสี่ยวอิ้น นายมันแน่จริงๆ เรื่องพิลึกกึกกือขนาดนั้นนายก็ยังอุตส่าห์ไปเจอได้”

    เพราะฟังไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่ ผมเลยตอบกลับไปอย่างหมดความอดทน “คนกำลังจะนอน” ก่อนจะตัดสายโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียง แต่ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงบอกว่ามี MMS เข้า พอลองเปิดดูผมก็พบกับข้อความ…

     

    ‘ใบรายงานเรื่องพยานวัตถุ :

    หมิงตี ลูกธนูโบราณ จากการวินิจฉัยเบื้องต้นน่าจะมีอายุประมาณสองพันกว่าปี สงสัยว่าสร้างขึ้นในสมัยข่านโม่ตู๋แห่งจักรวรรดิซยงหนู’

    หน้าที่แล้ว1 of 6

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ซยงหนู

    นิยายยอดนิยม

    Facebook