• Connect with us

    Enter Books

    สยบฟ้า พิชิตปฐพี

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 12 ตอนที่ 2

    9 of 9หน้าถัดไป

    ที่บอกว่าเลื่อมใส คือความตั้งใจเสียสละตัวเองของเหยียนเซ่อ เหยียนเซ่อถึงกับยอมทิ้งไม้ตายอย่างค่ายกลสยบเทวะทั้งๆ ที่ในฐานะเป็นผู้ควบคุมดูแลค่ายกล ขอเพียงตัวมันอยู่ในเมืองฉางอัน ย่อมไม่มีทางพบกับความพ่ายแพ้ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะร้ายกาจสักเพียงใด อย่างน้อยก็ยังสามารถรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ได้

    ที่บอกว่าคุ้มค่า เพราะการพนันในครั้งนี้ใช้ความเป็นตายเป็นเดิมพัน ขอเพียงเพื่อซังซัง ย่อมคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดู

    ส่วนที่บอกว่ามีเหตุผล เป็นเพราะตัวมันคือความสว่างไสว มันคิดจะทิ้งความสว่างไสวเอาไว้ในโลกของซังซัง เช่นนั้นมันก็ควรทำการเลือกที่สว่างไสวตรงไปตรงมาอย่างแท้จริงสักครา

    พูดไปพูดมา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อซังซัง ในความคิดของผู้คนมากมาย นี่อาจจะไม่มีเหตุผล แต่สำหรับเว่ยกวงหมิงกลับมีเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง

    ซังซังเป็นเพียงสาวใช้ผิวคล้ำที่มีผมแห้งเหลือง ไม่น่ามองที่ตรงไหน แม้แต่นิสัยก็มิได้น่ารักชวนให้ผู้คนชื่นชอบ

    คนที่รู้จักนางอย่างผิวเผินจะเห็นนางเป็นต้นข้าวละมานที่ส่ายไหวอยู่กลางลมหนาว สามารถถูกไถกลบทิ้งได้ทุกเมื่อ แต่คนที่รู้จักนางอย่างแท้จริงล้วนเห็นนางเป็นของมีค่า ซึ่งคนที่รู้จักนางอย่างแท้จริงในโลกนี้ก็มีเพียงหนิงเชวียนายน้อยของนาง กับต้าเสินกวนหน่วยแสงสว่างอาจารย์ของนางเท่านั้น

    ดังนั้นตอนองค์ชายหลงชิ่งกล่าววาจาข่มขู่ความปลอดภัยของนาง หนิงเชวียจึงร้อนใจ พยายามที่จะฝ่าด่านให้ได้ และหลังจากทำได้สำเร็จก็ใช้ธนูยันต์ยิงทำลายบุตรของเฮ่าเทียนให้กลายเป็นเศษสวะไปในทันที โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา

    และเมื่ออู้เต้าทำให้นางไม่พอใจ หนำซ้ำยังคิดจะลวนลามนาง เว่ยกวงหมิงจึงไม่เสียเวลาขบคิด ทิ้งปลาหางเหลืองไว้บนโต๊ะ ออกไปดักรออยู่ที่ซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชี้นิ้วออกไปหนึ่งครั้งก็ทำให้หลวงจีนที่มาจากสถานที่ที่เป็นปริศนากลายเป็นคนตาบอดไป

    แสงอรุณมาเยือนเมืองฉางอันและร้านเหล่าปี่ไจในซอยสี่สิบเจ็ด

    ในที่สุดเหยียนเซ่อต้าซือกับต้าเสินกวนหน่วยแสงสว่างก็ยุติการรำลึกถึงความหลัง และทำการตัดสินใจครั้งสำคัญโดยใช้วิธีการที่เรียบง่ายมาคลี่คลายภาวะชะงักงัน ตระเตรียมเขียนบทส่งท้ายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสิบสี่ปีก่อน

    ขณะจะยกมือผลักประตูออกไป เว่ยกวงหมิงหันกลับไปมองซังซัง

    ซังซังนั้นนอนกระสับกระส่ายครึ่งหลับครึ่งตื่นมาตลอดคืน พอได้ยินเสียงทั้งสองดันเก้าอี้จะลุกขึ้นก็สะดุ้งตื่น รีบวิ่งออกมายืนเงียบอยู่ด้านหลังอาจารย์ของนาง

    เว่ยกวงหมิงถามเสียงเบา

    “อยากตามไปดูหรือ”

    ซังซังพยักหน้าแรงๆ

    เว่ยกวงหมิงเหลือบมองสหาย

    เหยียนเซ่อยิ้มพลางกล่าวว่า

    “นางสามารถเป็นประจักษ์พยานที่ดีที่สุดคนหนึ่ง”

    เว่ยกวงหมิงมองซังซังเงียบๆ ก่อนกล่าวว่า

    “เอาโถใบใหม่ไปด้วย โถที่ยังไม่เคยตุ๋นไก่ ไม่มีคราบน้ำมัน ใช้ใส่เถ้ากระดูกก็น่าจะเหมาะ”

    เหยียนเซ่อได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวว่า

    “หากมีโถเก่าก็เอาไปด้วย จะว่าไปแล้วเจ้าก็อาศัยภาพคัดลอกลายมือน้ำตุ๋นไก่ของข้าทำเงินไปไม่น้อย ข้ากลับยังไม่เคยลิ้มรสน้ำตุ๋นไก่ฝีมือเจ้าเลย”

    ซังซังก้มหน้ากลั้นน้ำตา กล่าวเสียงเบาหวิว

    “หากพวกท่านไม่ไป วันนี้ข้าจะทำน้ำตุ๋นไก่ให้พวกท่านดื่ม”

    เว่ยกวงหมิงมองนางด้วยความเวทนา ก่อนหันไปส่ายหน้ากล่าวกับเหยียนเซ่อว่า

    “โถเก่ามีคราบน้ำมัน ขี้เถ้าจะติดอยู่ตามข้างโถ”

    เหยียนเซ่อสะบัดแขนเสื้อหัวร่อเสียงดัง เดินนำออกจากร้าน

    “ฮ่าๆๆ แต่ไหนแต่ไรเสื้อผ้าข้าก็มีแต่คราบน้ำมัน แล้วมีหรือที่ข้าจะใส่ใจว่าเถ้ากระดูกของตัวเองจะเลอะคราบน้ำมันหรือไม่”

    โปรดติดตามตอนต่อไป…

    9 of 9หน้าถัดไป

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in สยบฟ้า พิชิตปฐพี