สยบฟ้า พิชิตปฐพี
ทำความรู้จัก Mao Ni เทพโอลิมเปียนแห่งแดนมังกร!
ชั่วโมงนี้ ตลาดหนังสือบ้านเราสามารถพูดได้ว่าเทรนด์นิยายจีนกำลังโตวันโตคืน สำนักพิมพ์ต่างๆ พากันกระโจนลงสู่ยุทธจักรแห่งตัวอักษร ฟาดฟันกันอย่างไม่ยอมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งลิขสิทธิ์
ในกลุ่มนักอ่านนั้นก็ผุดคอมมูนิตี้พูดคุยถึงนิยายแปลจีนกันเต็มไปหมด เรียกว่าฟีดแบ็กดีจนใช้คำว่าร้อนแรงได้เลย และความร้อนแรงนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่ในแถบเอเชีย แม้แต่ฝรั่งคอเคเซียนก็ให้ความสนใจนิยายจีนเช่นกัน
ในยุคสมัยแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ก ข้อจำกัดด้านภาษาและการเข้าถึงแทบไม่มีอีกต่อไป นวนิยายจีนมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เผยแพร่ในเว็บไซต์ทั้งในรูปแบบสาธารณะอ่านฟรีและแบบสนับสนุนนักแปลด้วยการบริจาคเงิน นักเขียนยุคใหม่จึงมักเริ่มต้นเส้นทางสู่ยุทธจักรตัวอักษรด้วยการประพันธ์เรื่องโพสต์ออนไลน์ หลายคนไปสู่ดวงดาว ผลงานได้รับการตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม และขยายต่อจนกลายเป็นการ์ตูน เกม หรือแม้แต่ภาพยนตร์ซีรีส์ โด่งดังเป็นพลุแตกกันไป หากก็ยังมีอีกหลายคนนักที่รอคอยเวลาจะได้เป็นดาวกับเขาบ้าง
เคยมีการจัดทำเนียบสุดยอดนักเขียนออนไลน์ของจีน โดยคัดเลือกจากเสียงโหวตของนักอ่าน สื่อแขนงต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ตลอดจนบรรณาธิการสำนักพิมพ์ การคัดเลือกดำเนินอยู่ 15 วัน จากนักเขียนชั้นนำ 200 คน กลั่นกรองจนได้ออกมาเป็นตัวจี๊ด 12 คน รับสมญาราชาแห่งโลกนิยายออนไลน์ไป เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและดูฟุ้งฝันสมคุณค่า อาจเรียกพวกเขาทั้ง 12 ได้ว่าเป็น ‘เทพโอลิมเปียนแห่งแดนมังกร’
1 ใน 12 เทพ คือนักเขียนเจ้าของผลงานซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับสำนักพิมพ์เอ็นเธอร์บุ๊คส์ของเรา สยบฟ้าพิชิตปฐพีนั่นเอง และคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Mao Ni (อ่านว่า เมา – นี่) โดยนามปากกานี้ที่แท้แล้วไม่ใช่ภาษาจีน ทว่าเป็นคำที่มาจากภาษาเปอร์เซีย ความหมายคือ เรื่องที่ต้องปิดบัง เรื่องที่เปิดเผยให้ใครรู้ไม่ได้...ดูเอาเถิด แม้แต่นามปากกายังลึกลับสลับซับซ้อนถึงเพียงนี้...ถ้าเช่นนั้นเรามาดูเรื่องที่เปิดเผยได้ของเขากันดีกว่า!
Mao Ni เกิดเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤศจิกายน ปี 1977 มีชื่อจริงว่า เสี่ยวเฟิง เป็นชาวมณฑลหูเป่ย เคยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสฉวน แต่เรียนไม่จบ ถูกรีไทร์ ทว่าปริญญาบัตรก็ไม่ใช่สิ่งกำหนดศักยภาพคน (ดูอย่างสตีฟ จ็อบส์ กับบิล เกตส์สิ) Mao Ni เริ่มต้นเส้นทางนักเขียนของตัวด้วยการแต่งนิยายลงอินเตอร์เน็ต จนได้กลายมาเป็นนักเขียนออนไลน์ที่โด่งดัง
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2014 เขาได้เซ็นสัญญากับ Tencent Literature บริษัทที่มีบริการเว็บไซต์รวบรวมผลงานเขียนขนาดใหญ่ของประเทศจีน งานเขียนของ Mao Ni แตกต่างจากนักเขียนออนไลน์คนอื่นๆ อย่างที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ ผลงานทุกเรื่องของเขาจะละเอียดประณีต เต็มไปด้วยข้อมูล มีโครงเรื่องที่ชัดเจนและทรงพลัง ดำเนินเหตุการณ์ได้รื่นไหล หลากหลายอารมณ์ และมีความหมายลึกซึ้ง แม้จะเป็นนิยายออนไลน์ ทว่ากลับมีคุณค่าเทียบเทียมวรรณกรรมชั้นครู จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักอ่านทั้งรุ่นเยาว์และรุ่นใหญ่
Mao Ni เกิดในยุค 70 อาศัยอยู่ที่เขตอี๋หลิงในมณฑลหูเป่ยมา 30 ปี โดยใช้ชีวิตกลางคืนมากกว่ากลางวัน เป็นคนรักสันโดษ แต่กลับไม่ชอบอยู่คนเดียว เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเสฉวน หลังจากถูกรีไทร์ก็กลับไปที่บ้านเกิดเพื่อรับจ้างทำงานทั่วไป ครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับคอมพิวเตอร์เขาก็ค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถด้านการพิมพ์เพราะสามารถพิมพ์ได้เร็วมาก เวลาเบื่อๆ เขามักจะเข้ามาเล่นอินเตอร์เน็ต นั่งแช่อยู่ในห้องฟอรั่มแล้วตั้งกระทู้สนทนาต่างๆ ความที่พิมพ์ได้เร็ว ประกอบกับเป็นคนชอบพูดคุยจึงชอบแต่งเรื่อง เนื่องจากตอนนั้นไม่มีแฟน เลยคิดจะหลอกอำเด็กอักษร เขาพิถีพิถันแต่งเรื่องราวออกมาให้ดราม่ามากที่สุด แต่เนื่องจากเด็กอักษรคนนั้นอ่อนต่อโลก ไม่เคยผ่านเรื่องเจ็บปวดสักเท่าไหร่ จึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามจะเขียน ท้ายที่สุดแล้วเขาจึงไม่สมหวัง
ภายใต้นามปากกา Mao Ni เขาสร้างสรรค์ผลงานออกมาทั้งหมด 5 เรื่อง ได้แก่
- The Story of Zhu Que ตำนานแห่งจูเชวี่ย กล่าวกันว่าคล้ายคลึงกับเรื่องไซอิ๋ว แต่เป็นในแบบร่วมสมัย ได้รับรางวัลชนะเลิศนิยายแนวแฟนตาซีกำลังภายในจากการแข่งขัน Sina Original Literature Competition เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2007
- Joy of Life นวนิยายกำลังภายในแฟนตาซี ประเภทตัวเอกทะลุมิติ ซึ่งเป็นเรื่องนำร่องให้กับผลงานชิ้นต่อมาของเขา
- The Outcast นวนิยายแนวแอ็กชั่นไซ-ไฟ ได้รับรางวัลเหรียญเงินจาก West Lake Literature Award ในเดือนมีนาคม ปี 2013
- Ever Night (Jiang Ye หรือ สยบฟ้าพิชิตปฐพี) ได้รับรางวัล Online Literature Award ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015
- Fighting of the Destiny ผลงานเรื่องนี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ซีรีส์ และก็กำลังเป็นที่โจษจันด้วยว่านักแสดงนำทั้งหลายเป็นระดับแม่เหล็กของวงการทั้งสิ้น
นอกจากนี้ชื่อของ Mao Ni ยังอยู่อันดับที่ 19 ในการจัดอันดับ Writers Rich List ประจำปี 2012 ด้วยรายได้จากหนังสือตีพิมพ์รวมทั้งสิ้น 2,300,000 หยวน (คิดเป็นเงินไทย 11,500,000 บาท) และบัดนี้นักอ่านชาวไทยก็ได้มีส่วนเติมเต็มบัญชีของ Mao Ni ด้วยการอุดหนุน ‘สยบฟ้าพิชิตปฐพี’ ฉบับภาษาไทย ซึ่งกระแสของนิยายเรื่องนี้จัดว่ามาแรงสุดๆ ติดอันดับหนังสือขายดีในทุกครั้งที่วางแผง คอนิยายกำลังภายในคนใดยังไม่ได้อ่าน ถือว่าพลาดสิ่งดีๆ อย่างหนึ่งในชีวิตไปเสียแล้ว!
อย่ากระนั้นเลย เอ็นเธอร์บุ๊คส์ขอฝากผลงานอีกหนึ่งชิ้นของ Mao Ni อย่าง 'สยบฟ้าพิชิตปฐพี' ที่ตอนนี้ดำเนินมาถึงเล่มที่ 12 ไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วย
หากใครที่อยากรู้ว่าเล่มนี้สนุก น่าติดตามขนาดไหน ก็สามารถคลิก>> ทดลองอ่าน กันได้เลยนะ
Related
Comments
