หากถามถึงนวนิยายแวมไพร์ชั้นยอด ต่อให้ผ่านไปอีกกี่สิบปี ก็ขอรับรองว่าเรื่อง Interview with the Vampire ต้องโผล่เข้ามาในหัวของใครหลายคนแน่นอน นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นแรกของคุณแอนน์ ไรซ์ ผู้รังสรรค์จักรวาลแวมไพร์ระดับตำนาน การันตีด้วยยอดขายกว่า 150,000,000 เล่มทั่วโลก แถมยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปีค.ศ. 1994 และซีรีส์ในปีค.ศ. 2022 อีก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ติดอยู่ในกระแสตลอดเวลาจริงๆ และทางกองเอนเธอร์ก็โชคดีได้รับโอกาสตีพิมพ์ฉบับแปลไทยของเรื่องนี้ในชื่อว่า ‘บันทึกรัตติกาลต้องสาป’
นิยายเรื่องบันทึกรัตติกาลต้องสาป (Interview with the Vampire) บอกเล่าผ่านบทสัมภาษณ์ของ ‘หลุยส์ เดอ ปวงต์ดูลัก’ แวมไพร์ตนแรกที่เราจะได้พบ ทันทีที่โคมไฟดวงจิ๋วถูกเปิด รูปลักษณ์ของเขาก็ทำเอานักข่าวหนุ่มและคนอ่านอย่างเราตกตะลึงไปตามๆ กัน ทั้งผิวขาวซีดและเรียบลื่นราวกับแกะสลักจากกระดูกฟอกขาว ทั้งดวงตาสีเขียววาวระยับ ไหนจะรอยยิ้มแสนเศร้าบนใบหน้าหล่อเหลานั่นอีก แค่นึกภาพตามก็ชวนให้ใจสั่นมากแล้วใช่ไหม งั้นเรามารู้จักเขาให้ลึกขึ้นอีกดีกว่า
ก่อนจะกลายเป็นแวมไพร์ผู้ได้ครอบครองชีวิตอมตะแสนเย้ายวน หลุยส์เคยเป็นชายหนุ่มเจ้าของไร่ครามสองแห่ง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่นับว่ามั่งคั่งในลุยเซียนา เป็นคาทอลิกที่เชื่อเรื่องนักบุญ สรุปสั้นๆ ว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่ตรงตามขนบของคนในยุคสมัยนั้น
ฟังดูแล้วเส้นทางชีวิตก็น่าจะราบรื่นดี แต่เพราะเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก เขาเลยรู้สึกหมดอาลัยตายอยากจนถึงขั้นหวังให้ใครสักคนมาช่วยปลิดชีวิต ซึ่งแทนที่จะตกเป็นเป้าของพวกโจรปล้นชิงทรัพย์ หลุยส์ดันไปเตะตาแวมไพร์ที่ชื่อเลสแต็ทเข้าเสียก่อน จากที่ต้องตายเลยกลายเป็นได้ชีวิตใหม่เพิ่มมาแทน
หลุยส์ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ตอนอายุยี่สิบห้า รูปลักษณ์ภายนอกส่วนใหญ่เลยหยุดอยู่ที่ช่วงอายุนั้น เว้นเสียก็แต่ฟันที่เริ่มแหลมคมจนกลายเป็นเขี้ยว สีผิวที่ซีดขาวลงเรื่อยๆ จนแทบเปล่งแสง รวมถึงดวงตาที่ส่องประกายวูบวาบในที่มืด
แรกเริ่มชีวิตในฐานะแวมไพร์ก็มีหลายอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ประสาทสัมผัสต่างๆ เองก็คมชัดกว่าปกติหลายเท่า แต่พอได้สัมผัสกับความกระหายและธรรมชาติของแวมไพร์เข้าจริงๆ หลุยส์ผู้ยึดมั่นในความดีงามมาตลอดก็เริ่มรู้สึกรับไม่ได้ เขาไม่อยากล่อลวงมนุษย์มาเพื่อดื่มเลือด เขาไม่ต้องการร่วงหล่นสู่ความชั่วร้ายและกลายเป็นสิ่งที่ใครต่อใครเรียกว่าปีศาจ นี่ทำให้ชีวิตอมตะของเขาแตกต่างจากแวมไพร์ตนอื่นๆ ยิ่งกับแวมไพร์เลสแต็ทผู้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเขายิ่งแล้วใหญ่
พาดพิงบ่อยขนาดนี้แล้ว จะไม่พูดถึงแวมไพร์ ‘เลสแต็ท’ ก็คงไม่ได้ ด้วยความที่นิยายเรื่องบันทึกรัตติกาลต้องสาปเล่าผ่านมุมมองของหลุยส์ เราจึงเห็นภาพเลสแต็ทเป็นแวมไพร์ที่เดาใจยาก ชอบออกนอกลู่ทางผิดกับหลุยส์โดยสิ้นเชิง ในจุดนี้หลุยส์เลยรู้สึกว่าเข้ากับเขาไม่ได้ ถึงเลสแต็ทจะงดงามเกินต้าน รูปร่างสูงยาวเข่าดี แต่ก็ต้องยอมรับว่านิสัยของเขาย่ำแย่เกินเยียวยา หลุยส์ถึงขั้นเคยพูดว่าการมีเลสแต็ทเป็นครูสอนวิชาแวมไพร์ 101 ไม่ต่างอะไรกับการถูกโชคชะตากลั่นแกล้งเลยทีเดียว
แต่ตัวตนที่แท้จริงของเลสแต็ทจะเป็นอย่างที่หลุยส์ว่ามาหรือไม่ และมุมมองความรู้สึกที่หลุยส์มีต่อสถานการณ์ต่างๆ ตลอดสองศตวรรษที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร แค่บทความไม่กี่ย่อหน้านี้คงเก็บรวบรวมไว้ได้ไม่หมด ทางเราขอแนะนำให้ทุกคนจับจองนิยายเรื่อง ‘บันทึกรัตติกาลต้องสาป’ เพื่อสัมผัสกับชีวิตแวมไพร์ด้วยตัวเองจะดีกว่า
ช่องทางการช้อป
Jamsai Store / JamClub : https://bit.ly/45oB0af
Line Official : @Jamsai
Shopee : Enterbooks_Official : https://shope.ee/8zZkghmSZu
Fanpage : Jamsai Store / ENTER BOOKS
ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ