เถียนหลิงเอ๋อร์อดใจไม่ไหวต้องเอ่ยถาม“ท่านพ่อ ศิษย์พี่หกกลับมาไม่ดีหรือ ไฉนต้องทำหน้าบูดบึ้งแบบนี้ด้วย”ตู้ปี้ซูแอบเหลือบมอง พอเห็นเถียนปู้อี้ถลึงตาใส่ก็ก้มหน้างุด เถียนปู้อี้แค่นเสียงเดือดดาลสั่งว่า“เจ้าหก เอาเวทอาวุธของเจ้าออกมา”ตู้ปี้ซูขยับปากอึกอัก สุดท้ายส่งสายตาไปทางซูหรูเพื่อขอความช่วยเหลือ ซูหรูยิ้มปลอบใจกล่าวว่า“ปี้ซู เจ้าก็เอาออกมาเถอะ พวกมันจะได้เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงโมโหโกรธาเจ้านัก”ตู้ปี้ซูเห็นว่าบ่ายเบี่ยงไม่ได้แล้ว จึงหยิบห่อผ้าขึ้นมารื้อค้น อึดใจก็ล้วงเอาของสองสามชิ้นขึ้นวางบนโต๊ะสายตาทุกคู่จ้องไม่กะพริบราวกับกลัวพลาดตอนสำคัญ ปรากฏว่าเป็นก้อนสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเท่าครึ่งกำปั้น ทำจากไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้สีขาวแต่แกะสลักเป็นจุดทาสีดำ จุดบนแต่ละด้านมีจำนวนไม่เท่ากัน มันก็คือลูกเต๋าสามลูกนั่นเองคราวนี้ห้องกินข้าวกึกก้องไปด้วยเสียงหัวเราะตู้ปี้ซูหน้าแดงก่ำ เถียนปู้อี้มองมันอย่างแค้นใจ ปากด่าว่า“เจ้าไม้ผุที่แกะสลักไม่ได้!”*ซูหรูกล่าวแก้สถานการณ์ยิ้มๆ“แล้วไปเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสักหน่อย ลูกเต๋าก็ลูกเต๋า ถึงยังไงมันก็เป็นคนใช้เองอยู่แล้ว”เถียนปู้อี้ถลึงตาใส่ลูกศิษย์อีกครั้งก่อนจะถามภรรยา“เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะไม่คิดใช้สิ่งนี้ไปต้มตุ๋นชาวบ้าน”ตู้ปี้ซูสะดุ้งเฮือก รีบแก้ตัวปากคอสั่น“อาจารย์ อาจารย์หญิง ศิษย์มีหรือจะกล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้น เพียงแต่เมื่อปีก่อนศิษย์ไปพบต้นสามมุกอายุพันปีทางตอนใต้ของแม่น้ำชื่อสุ่ยโดยบังเอิญ มันมีพลังงานธรรมชาติสะสมอยู่มาก จึงคัดส่วนที่ดีที่สุดมาแกะสลักเป็นลูกเต๋าสามลูก ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะอารมณ์รักสนุกชั่ววูบ มิได้คิดถึงเรื่องอื่นๆ…”เถียนปู้อี้ยากที่จะข่มโทสะไว้ได้ ตวาดด่าลั่น“เจ้าสนุกงั้นรึ เฮอะ ทำไมไม่ทำออกมาเป็นอาวุธ กลับเฉพาะเจาะจงต้องเป็นเครื่องมือเล่นพนัน แบบนี้ตอนเจ้าขึ้นเวทีประลองข้ายังจะมีหน้าเหลืออยู่รึ”* อุปมาว่าเป็นบุคคลที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย นำมาอบรมขัดเกลาให้เป็นคนดีคนเก่งไม่ได้