“อ้อ ศิษย์พี่รองกับศิษย์พี่สามอยู่ที่นี่พอดี หมู่นี้ความจำข้าไม่ค่อยดี คลับคล้ายคลับคลาว่าในงานประลองครั้งที่แล้วศิษย์พี่ใหญ่ชนะติดต่อกันเข้าไปถึงรอบสาม มีศิษย์ร่วมสำนักหน้าตางดงามนางหนึ่ง ชื่ออะไรน้า…”อู๋ต้าอี้รีบเสริมทันที“เอ…ข้าเองก็จำไม่ได้ แต่ดูเหมือนจะเป็นศิษย์สังกัดดอยไผ่น้อย รูปโฉมนางงามสะคราญยิ่ง ชื่อว่าอะไรหนอ…”เจิ้งต้าหลี่รอยยิ้มเต็มหน้า“ชื่ออะไรไม่สำคัญ สำคัญว่านางปรบมือดังที่สุด แถมยังชอบชม้ายชายตามองศิษย์พี่ใหญ่ด้วย”ขาดคำทุกคนก็ฮาครืน เถียนหลิงเอ๋อร์นำหน้าซักถามก่อน“ศิษย์พี่ใหญ่ เป็นศิษย์พี่ท่านใดดีต่อท่านถึงเพียงนี้”ซ่งต้าเหรินอึกอักๆ หันไปถลึงตาใส่เหอต้าจื้ออย่างดุดันก่อนหันมายิ้มเขินๆ“มะ…ไม่มีเรื่องเช่นนั้น อย่าไปฟังศิษย์พี่สี่ของเจ้าพูดเหลวไหล ศิษย์น้องเหวินหมิ่นเพียงเห็นแก่หน้าอาจารย์หญิง จึงตะโกนให้กำลังใจพวกเราอยู่หลายคำ”“เอ๊ะๆ?”เหอต้าจื้อได้โอกาสก็ขัดขึ้น“ศิษย์พี่ใหญ่ พวกเราล้วนจำชื่อนางมิได้ ทำไมท่านนึกได้รวดเร็วนักล่ะ แต่จะว่าไปแล้วศิษย์พี่เหวินหมิ่นก็ดีต่อท่านมากจริงๆ…”เสียงโห่ฮาทำให้ซ่งต้าเหรินรู้ตัวว่าพลั้งปาก แต่ก็สำนึกดีว่าตัวเองคารมคมคายสู้เหอต้าจื้อมิได้ พูดมากก็จะยิ่งเสียท่า จึงอาศัยความหนาของใบหน้าตัดบทว่า“พวกเจ้านี่น่าเบื่อ แหะๆ ข้าจะไปดูว่าอาจารย์กับอาจารย์หญิงเก็บของเสร็จหรือยัง”กล่าวจบก็เผ่นแน่บด้วยความเร็วปานสายลม เถียนหลิงเอ๋อร์ได้แต่หันไปคว้าตัวเหอต้าจื้อมาคาดคั้น“ศิษย์พี่สี่ รีบบอกมา ศิษย์พี่เหวินหมิ่นคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร”เหอต้าจื้อเลิกคิ้วย้อนถาม“ศิษย์น้อง เจ้าไม่ใช่ตามอาจารย์หญิงกลับไปเยี่ยมอาจารย์อาสุ่ยเยวี่ยบ่อยๆ หรือ ไฉนจึงไม่เคยพบหน้าศิษย์พี่เหวินหมิ่น นางคือศิษย์ที่ท่านนักพรตหญิงภาคภูมิใจนะ”เถียนหลิงเอ๋อร์ส่ายหน้า