ในบรรดาศิษย์สังกัดดอยไผ่ใหญ่ อู๋ต้าอี้ เจิ้งต้าหลี่ และหลี่ว์ต้าซิ่นยังฝึกไม่สำเร็จถึงขั้นสี่ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเวทอาวุธ ซ่งต้าเหรินจึงรับผิดชอบจางเสี่ยวฝาน ส่วนเหอต้าจื้อ ตู้ปี้ซู และเถียนหลิงเอ๋อร์แบ่งรับไปคนละหนึ่ง ต่างคนต่างเตรียมตัวเดินทาง ในบรรดานั้นเวทอาวุธของเถียนหลิงเอ๋อร์คือ ‘แพรแดงอำพัน’ ของเหอต้าจื้อคือ ‘พู่กันเจียงซาน’ ซึ่งเข้ากันกับนิสัยรักการอ่านของมันยิ่ง แต่ที่สะดุดตาที่สุดไม่มีใดเกินลูกเต๋าของเจ้าหกตู้ปี้ซู พอเสกออกมา แสงสีขาวก็สว่างพรึบ ลูกเต๋าทั้งสามขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็นสิบเท่า หมุนคว้างอยู่กลางอากาศ จุดแต้มหมุนจนละลานตา หากจะนับเป็นเครื่องมือพนันก็ถือว่าใหญ่ที่สุดในใต้หล้าแล้วเจ้าห้าหลี่ว์ต้าซิ่นถามอย่างกังขา“เจ้าหก แน่ใจหรือว่ามันจะไม่ตกลงมา”ตู้ปี้ซูเลิกคิ้วย้อนถามหน้าทะเล้น“ศิษย์พี่ห้า มิสู้พวกเรามาพนันกัน ถ้าหากมันตกถือว่าท่านชนะ ข้าจะ…”หลี่ว์ต้าซิ่นร้อง ‘เพ้ยๆๆ’ ตวาดว่า“เช่นนั้นข้ายังจะอยากชนะเจ้าอีกรึ”ตู้ปี้ซูนิ่งอึ้งไป“ก็จริง แหะๆ”ซ่งต้าเหรินส่งเสียงถาม“เสี่ยวฝาน พร้อมหรือยัง”จางเสี่ยวฝานจะรับคำก็ปรากฏว่าเจ้าเทาบนไหล่ส่งเสียงร้อง ทำท่ายุกยิก บัดเดี๋ยวชี้ฟ้าบัดเดี๋ยวชี้ตัวมันเอง จางเสี่ยวฝานงงงันวูบก่อนถามว่า“เจ้าก็อยากไปด้วย?”เจ้าเทารีบแยกเขี้ยวยิ้มกว้าง จางเสี่ยวฝานหันไปมองซ่งต้าเหรินอย่างลังเล ฝ่ายหลังคิดอยู่อึดใจจึงพยักหน้า“อาจารย์พาเจ้าเหลืองไปแล้ว พวกเราพาเจ้าเทาไปด้วยคงไม่เป็นไร”จางเสี่ยวฝานรีบพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนเจ้าเทาไม่ต้องพูดถึง มันดีใจจนตัวสั่นที่จะได้ตามไปเล่นกับเจ้าเหลืองซ่งต้าเหรินยกมือโบก“พวกเราไปได้แล้ว หากชักช้าอาจารย์จะตำหนิเอา”ต่างคนต่างเหยียบบนเวทอาวุธของตน เถียนหลิงเอ๋อร์หันไปสั่งกำชับจางเสี่ยวฝาน