“ศิษย์น้องเล็ก จับศิษย์พี่ใหญ่ไว้ดีๆ”จางเสี่ยวฝานพยักหน้า“ข้าทราบแล้วศิษย์พี่หญิง”เถียนหลิงเอ๋อร์ยิ้มให้ก่อนออกคำสั่ง เจ้า ‘แพรแดงอำพัน’ เปล่งแสงเรืองรองแล้วพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ซ่งต้าเหรินเสกกระบี่วิเศษ ‘สิบพยัคฆ์’ ของตัวเองออกมา มันคือศิษย์คนโตของสังกัด ถึงบรรดาศิษย์น้องจะฝึกเวทอาวุธสารพัดชนิด แต่ตัวเองยังคงเลือกฝึกกระบี่กระบี่วิเศษ ‘สิบพยัคฆ์’ มีสีเหลืองตลอดทั้งเล่ม ยาวประมาณสี่เชียะ หน้ากว้างสามนิ้ว เทียบกับกระบี่วิเศษเล่มอื่นๆ ถือว่าใหญ่กว่า แต่น่าเสียดายที่อานุภาพของกระบี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด จางเสี่ยวฝานเคยมีประสบการณ์เหินเวหากับ ‘แพรแดงอำพัน’ ของเถียนหลิงเอ๋อร์มาแล้ว พอเท้าสัมผัส ‘สิบพยัคฆ์’ ก็ตกวูบลงเล็กน้อย มันไม่ค่อยตื่นเต้นนัก กลับเป็นเจ้าเทาที่รีบจิกผมมันไว้แน่นซ่งต้าเหรินกำชับเตือนอีกครั้ง“ศิษย์น้องเล็ก ระวังด้วย”กล่าวจบก็ยกมือขวาชี้ขึ้นท้องฟ้า กระบี่วิเศษ ‘สิบพยัคฆ์’ เปล่งเสียงคำรามต่ำๆ เดิมที่ลอยอยู่เหนือพื้นหนึ่งเชียะพลันขยับขึ้นสูงเป็นสามเชียะ จางเสี่ยวฝานรีบยึดตัวซ่งต้าเหรินไว้แน่นยามนั้นลมภูเขาพัดกระโชกมาหอบหนึ่ง ปลายกระบี่ ‘สิบพยัคฆ์’ ค่อยๆ ยกตัวสูงจนถึงระดับเอียงขึ้นเกือบเจ็ดส่วน ดีที่จางเสี่ยวฝานจับตัวซ่งต้าเหรินไว้จึงไม่ร่วงตกลง แล้วทันใดนั้นพร้อมๆ กับเสียงคำรามก้อง เจ้า ‘สิบพยัคฆ์’ ก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าตรงๆ ราวกับพู่กันจางเสี่ยวฝานกอดซ่งต้าเหรินแน่นสุดชีวิต เหลือบตามองต่ำอย่างตื่นเต้น เห็นดอยไผ่ใหญ่อันเขียวชอุ่มหดเล็กลงเรื่อยๆ ไม่กี่อึดใจต่อมาทุกแห่งหนก็มีแต่สีขาว แสดงว่าพวกมันได้ทะลุเข้าสู่ชั้นเมฆจนมองไม่เห็นเบื้องล่างอีกต่อไปทั้งบนและล่างตอนนี้ล้วนมีแต่เมฆ สายลมปะทะผ่านดังหวีดหวิวแสบหน้าแสบตาไปหมด จางเสี่ยวฝานตัวสั่นเล็กน้อย ตื่นกลัวนั้นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือความเร้าใจได้โลดทะยานอยู่กลางเมฆา จะมีสิ่งใดวิเศษเท่า!ท่องทะเลเมฆอยู่นาน จิตใจเริ่มสงบลงบ้าง แล้วเจ้า ‘สิบพยัคฆ์’ ก็ประทานความแตกตื่นให้เป็นคำรบสองด้วยการพุ่งทะยานผ่านพ้นชั้นเมฆที่เห็นตรงหน้าคือแผ่นฟ้ากว้างสดใส ราวกับจับมหานทีพลิกคว่ำ ในสีฟ้านั้นทั้งใสและบริสุทธิ์ดูลึกล้ำไร้พรมแดน