บทที่ 18 กิเลนคลั่ง
เสียงนั้นเมื่อกระทบโสตซ่งต้าเหรินช่างไพเราะดุจดุริยางค์ทิพย์จากสรวงสวรรค์ มันสะท้านเฮือกเหมือนถูกคุณไสย หันขวับคอแทบเคล็ดเห็นที่ด้านหลังยืนไว้ด้วยศิษย์หญิงสังกัดดอยไผ่น้อยห้าหกคนสาวงามที่เอ่ยวจีใบหน้ารูปแตง เรือนผมดำขลับ ผิวกายขาวผ่องดุจหิมะ ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนหวาน จางเสี่ยวฝานเห็นศิษย์พี่ทุกคนยกเว้นซ่งต้าเหรินยิ้มเย้ากันอย่างมีเลศนัยกับเถียนหลิงเอ๋อร์ ยิ่งเห็นศิษย์พี่ใหญ่ซึ่งปกติเป็นคนเยือกเย็นสุขุมยามนี้กลับยืนยิ้มค้างเหมือนคนโง่ ท่าทางเก้ๆ กังๆ ก็พอจะเดาฐานะนางออกเหอต้าจื้อกับพวกต่างเตรียมรอชมละครตอนสนุก มิคาดซ่งต้าเหรินกลับเอาแต่ยืนเซ่อ ท่าทางของมันไม่เพียงเหลือรับสำหรับคนสังกัดเดียวกัน แม้แต่ศิษย์หญิงสังกัดดอยไผ่น้อยต่างก็ปิดปากหัวเราะกันคิกคัก สาวงามเริ่มหน้าแดงซ่าน ส่งเสียงเรียกอีกครั้งอย่างขัดเขิน“ศิษย์พี่ซ่ง”ครานี้เหอต้าจื้อที่อดรนทนไม่ไหวสอดปากทักทายแทน“ศิษย์พี่เหวินหมิ่น ไม่ได้พบกันนานแล้ว มิทราบสบายดีหรือไม่”ดวงตาคู่งามของเหวินหมิ่นเลื่อนมาหยุดที่ร่างผอมเกร็งของมัน ยิ้มน้อยๆ ขณะถาม“ท่านนี้คือศิษย์น้องเหอต้าจื้อกระมัง”เหอต้าจื้อพยักหน้า“คือข้าพเจ้าเอง ศิษย์พี่เหวินช่างมีความจำดีเลิศ พวกเราเพียงพบหน้ากันครั้งเดียวในงานประลองครั้งที่แล้ว คิดไม่ถึงว่ากลับจำชื่อข้าได้ ช่างเป็นเกียรติจริงๆ”เหวินหมิ่นยิ้มน้อยๆ“การประลองครั้งที่แล้วศิษย์น้องเหอพบคู่ต่อสู้ฝีมือฉกาจ ได้แสดงความสามารถให้ทุกคนเห็นเป็นที่ประจักษ์ ข้าย่อมจำได้”เหอต้าจื้อหน้าแดงก่ำ การประลองคราวที่แล้วมันจับสลากพบมือดีสังกัดดอยทะลุเมฆาในรอบแรก แม้ทุ่มเทพลังฝีมือจนหมดไหแต่ก็ยังพ่ายแพ้กลับมา ทว่ามันเป็นคนมีไหวพริบ กลอกตาวูบหนึ่งก็ยิ้มหน้าระรื่นกล่าวว่า“เรื่องในอดีตอย่าไปรื้อฟื้น ฝีมือของผู้น้องต่ำต้อย ยังห่างจากศิษย์พี่เหวินกับศิษย์พี่ใหญ่อีกไกล แต่มีเรื่องจะบอกเล่า หลังจากการประลองครั้งนั้นศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเราก็เอาแต่คิดถึงท่านตลอดเวลา”คราวนี้เหวินหมิ่นเป็นฝ่ายหน้าแดงบ้าง นางมิได้ต่อคำ เพียงชม้ายมองซ่งต้าเหริน ขณะที่ศิษย์น้องด้านหลังหลุดเสียงหัวเราะกันคิกคัก ซ่งต้าเหรินเป็นลูกผู้ชายที่เปิดเผย ยามนี้กลับสะดุ้งขัดเขินราวหนุ่มน้อย อ้าปากแก้ตัวตะกุกตะกัก