และในตอนนั้นเองเสียงกระหึ่มดุจฟ้าคำรามก็ดังขึ้นเหนือทะเลเมฆ สายตาหลายร้อยคู่ต่างช้อนมอง เห็นลำแสงสีแดงพุ่งมา พริบตาก็บรรลุถึงลานกว้าง มันคือรังสีที่เปล่งออกจากตัวกระบี่วิเศษสีแดงเล่มหนึ่งซึ่งลอยค้างอยู่กลางอากาศ บนตัวกระบี่ยืนไว้ด้วยนักพรตสังกัดดอยทะลุเมฆาซึ่งประกาศเสียงก้องกังวานไกล เพื่อให้ศิษย์ทุกคนรับทราบโดยพร้อมเพรียง“ท่านเจ้าสำนักและผู้นำแต่ละสังกัดมีคำสั่ง ขอให้ศิษย์ที่เข้าร่วมประลองไปประชุมกันที่วิหารหยกวิสุทธิ์”ท่ามกลางสายลมพัดโชย เมฆน้อยลอยเลื่อน ในกลุ่มศิษย์สำนักเมฆาเขียวหลายร้อยคนมีเสียงเรียกหากันวุ่นวายอยู่พัก จากนั้นผู้ที่เป็นตัวแทนจะเข้าประลองของแต่ละสังกัดก็เริ่มจับกลุ่มทยอยเดินไปยังด้านหน้าสุดของลานหินอ่อนจางเสี่ยวฝานหวังจะเห็นศิษย์พี่ที่เก่งกาจพวกนี้เสกเวทอาวุธแล้วท่องอากาศ มิคาดทุกคนกลับเดินเท้า มันแม้จะเดินไปกับหลินจิงอวี่ แต่สายตาก็กวาดมองหา เห็นเถียนหลิงเอ๋อร์เดินเข้ากลุ่มศิษย์ดอยไผ่น้อย ใบหน้าเกลื่อนด้วยรอยยิ้มเบิกบาน โดยมีซ่งต้าเหรินและศิษย์ดอยไผ่ใหญ่ตามติดอยู่ด้านหลังส่วนกลุ่มศิษย์สังกัดเศียรมังกรยามนี้ได้แยกตัวไปอีกทางโดยมีฉีเฮ่านำหน้า มันเรียกชื่อทักทายศิษย์ต่างสังกัดอย่างสนิทสนม สนทนาอย่างลื่นไหลเป็นกันเอง ทุกคนต่างก็ยิ้มแย้มทักทายตอบ เห็นได้ชัดว่ามนุษยสัมพันธ์ดีเลิศเพียงใด“ศิษย์พี่ฉีชอบคบหามิตรสหาย”เมื่อเห็นสายตาจางเสี่ยวฝานแวะวนอยู่ที่ฉีเฮ่า หลินจิงอวี่ก็พูดขึ้นอย่างชื่นชม“ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนมีฝีมือ เป็นที่ไว้วางใจของท่านอาจารย์ ทุกคนในสำนักจึงให้เกียรติศิษย์พี่ฉีมาก”จางเสี่ยวฝานพยักหน้าหงึกๆ ไม่ได้แสดงความเห็นแต่อย่างใดสุดลานหินอ่อนคืออีกหนึ่งทิวทัศน์ที่งดงามตระการตาของสำนักเมฆาเขียว นั่นคือ ‘สะพานรุ้ง’ จางเสี่ยวฝานเคยเดินข้ามสะพานแห่งนี้แล้วเมื่อห้าปีก่อน ยามนี้ได้เห็นอีกคราก็กระตุ้นความทรงจำอันโหดร้ายทารุณ อดรู้สึกสลดหดหู่มิได้เมื่อเหยียบขึ้นตัวสะพานที่งดงามประดุจงานสถาปัตยกรรมของเซียน เห็นสองฟากสายน้ำยังคงไหลริน ผิวน้ำยังคงสะท้อนแสงตะวันเป็นประกายรุ้งเจ็ดสีไม่เปลี่ยนแปลง ที่เปลี่ยนแปลงกลับเป็นพวกมันที่เมื่อห้าปีก่อนคือเด็กชายไร้เดียงสา กำพร้าไร้ญาติขาดมิตร ปัจจุบันได้กลับกลายเป็นศิษย์สำนักเมฆาเขียว แวดล้อมด้วยศิษย์ร่วมสำนักและอาจารย์ผู้มีพระคุณ หลินจิงอวี่เองจู่ๆ ก็ถอนใจยืดยาว“ผ่านมาห้าปีแล้ว”จางเสี่ยวฝานเงียบงันไป เพียงสาวเท้าเดินต่อ ตัวสะพานชันสูงขึ้น ก้อนเมฆเริ่มลดระดับต่ำลง แล้วท้องฟ้าสดใสราวกับเพิ่งถูกซักก็ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะ