บทที่ 19 จับสลาก
กิเลนน้ำเป็นสัตว์เทวะยุคโบราณ ยามสำแดงเดชานุภาพย่อมสะเทือนถึงดินฟ้า ส่งผลให้สภาพอากาศแปรเปลี่ยน จากเดิมปลอดโปร่งแจ่มใสกลายเป็นมืดสลัวลงในพริบตา ทุกก้าวย่างที่มันมุ่งเข้าหาบันไดวิหาร สายลมที่โชยเอื่อยพลันโหมกระโชกแรงขึ้นทุกที พัดวนรอบดอยดุจพายุหมุนผิวน้ำในสระมรกตที่เคยสงบนิ่งเหมือนกระจกเกิดกระแสคลื่นหมุนวนเร็วจี๋ ศูนย์กลางปรากฏแอ่งลึกซึ่งมีเสียงครืนครั่นดังออกมาอึดใจเดียวก็มีเสียงระเบิดกึกก้อง ลำน้ำสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นจากแอ่งน้ำวน ขนาดใหญ่ประมาณสามคนโอบ หมุนวนอย่างปราดเปรียวเหมือนมังกรแก้วอยู่รอบๆ ตัวกิเลนน้ำ แล้วจู่ๆ ก็บิดตัวกลางอากาศโน้มลงตรงหน้าเหมือนรอรับคำสั่งขณะนั้นศิษย์ที่ยืนคาอยู่บนบันไดรวมไปถึงศิษย์ที่มีฝีมือระดับแนวหน้าอย่างพวกฉีเฮ่าไม่มีใครรักษาความเยือกเย็นไว้ได้ แต่ละคนล้วนหน้าถอดสี บ้างถึงกับหน้าซีดขาวสยิวกายสยดสยองเมื่อหนึ่งพันปีก่อนกิเลนน้ำร่วมมือกับปรมาจารย์ชิงเยี่ยปราบมารอสูรจึงได้รับการเคารพยกย่องอย่างสูงสุดจากคนสำนักเมฆาเขียว ยามนี้เพิ่งเคยเห็นมันสำแดงเดชานุภาพที่แท้จริงออกมาเป็นครั้งแรก ในบรรดาทอง ไม้ น้ำ ไฟ และดิน ธาตุทั้งห้า กิเลนน้ำจัดอยู่ในสุดยอดสัตว์วิเศษประเภทน้ำ ดูจากที่มันแทบไม่ต้องออกแรงและไม่ต้องยืมพลังจากที่อื่นก็สามารถควบคุมลำน้ำขนาดสามคนโอบ อีกทั้งหมุนวนพลิกแพลงอยู่กลางอากาศโดยไม่มีวี่แววจะอ่อนล้า แสดงให้เห็นถึงพลังเวทที่เข้มแข็งและพลังจิตที่แน่วแน่บริสุทธิ์ เหนือล้ำผู้บำเพ็ญเพียรในหมู่คนธรรมดาทั่วไป แม้แต่สำนักเมฆาเขียวที่มียอดฝีมือรวมตัวกันอยู่มากมาย ต่อให้ยืมพลังจากเวทอาวุธมาช่วยก็มีน้อยคนที่ทำสำเร็จได้ถึงระดับนี้ยามนี้ท้องนภามืดสนิทไปทั้งแถบ สายลมโหมกระหน่ำคลุ้มคลั่ง ศิษย์สำนักเมฆาเขียวได้ประจักษ์ถึงความพิโรธของกิเลนน้ำซึ่งไม่เคยปรากฏให้เห็นในรอบพันปี ต่างคนต่างตกตะลึงตัวแข็งทื่อ เสียงคำรามโกญจนาท สองตาโปนใหญ่เบิกกว้าง แววเกลียดชังคั่งแค้นยิ่งนานยิ่งเข้มข้น คล้ายกับรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของศัตรูคู่แค้นหรือไม่ก็สิ่งที่เกลียดชังแสนสาหัส จักต้องโรมรันกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ลำวารีขนาดใหญ่มหึมายามนี้ก็ส่งเสียงครืนๆ กระหึ่มก้องคล้ายเตรียมพุ่งเข้าขยี้ศิษย์สำนักเมฆาเขียวกลุ่มนั้นให้แหลกลาญยามคับขันเป็นตายได้ยินเสียงตะโกนขึ้นกลางอากาศ“ผู้วิเศษโปรดคลายโทสะ!”เงาร่างเขียวเข้มสายหนึ่งโลดแล่นมาในอากาศ ปรากฏตัวขึ้นเหนือช่องว่างระหว่างกิเลนน้ำกับกลุ่มศิษย์ทั้งหลาย มันคือนักพรตเต้าเสวียนเจ้าสำนักคนปัจจุบัน ห้าปีที่ไม่ได้พบมันยังคงบุคลิกสูงส่งดุจเซียนไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เพียงแต่ยามนี้หัวคิ้วขมวดแน่น เห็นได้ชัดว่างุนงงต่อพฤติกรรมของกิเลนน้ำเป็นอย่างยิ่ง