ทดลองอ่าน กระบี่เทพสังหาร ตอนที่ 1

“ตามกฎในครั้งนี้ แต่ละสังกัดจะต้องส่งคนมาประลองเก้าคน ยกเว้นสังกัดท่านเจ้าสำนักที่มีมากกว่าหนึ่งคน แต่เป็นเพราะมีหนึ่งสังกัดที่ส่งศิษย์เพียงแปดคน ก้อนเทียนไขจึงมีเพียงหกสิบสามก้อน”วินาทีนั้นสายตาทุกคู่ตกไปอยู่ที่เถียนปู้อี้เป็นจุดเดียว เถียนปู้อี้เริ่มเดือดปุดๆ แต่ก็นั่งตัวตรงไม่เคลื่อนไหว พยายามทนต่อเสียงวิจารณ์จอแจที่มีขึ้นในหมู่ศิษย์ทั้งหลายเมื่อเสียงเริ่มซาลง ชางซงจึงกล่าวต่อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“มีอยู่เรื่องหนึ่ง หากศิษย์คนใดจับได้หมายเลขหนึ่งก็หมายความว่าโชคดี เพราะจะไม่มีคู่ต่อสู้หมายเลขหกสิบสี่ให้ประลอง เท่ากับเข้ารอบสองโดยไม่ต้องออกแรง”พอจบคำ เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังขึ้น เพียงแต่ว่าสำนักเมฆาเขียวเป็นสำนักธรรมะที่มีชื่อ ศิษย์ในสำนักต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด วิธีการแบบนี้ออกจะเหลวไหลไปสักหน่อย ทว่าก็ไม่มีใครคัดค้านนักพรตเต้าเสวียนลุกยืนขึ้นกวาดตามองไปโดยรอบ ด้วยฐานะเจ้าสำนักทำให้ทุกคนเงียบเสียงลงอย่างยำเกรง เขาพยักหน้ากล่าวว่า“ในเมื่อทุกคนรู้กฎดีแล้ว ก็เริ่มต้นจับสลากได้”สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่หีบไม้ ลำดับแรกเป็นศิษย์สังกัดดอยทะลุเมฆาของท่านเจ้าสำนัก พวกมันเดินเรียงแถวไปล้วงก้อนเทียนไขคนละก้อน จากนั้นก็กลับไปยืนประจำตำแหน่งของตน ลำดับต่อไปเป็นศิษย์สำนักเศียรมังกรหลินจิงอวี่หันมาขยิบตาให้จางเสี่ยวฝานก่อนจะเดินออกไป จางเสี่ยวฝานมองตามแผ่นหลังสหายอยู่อึดใจก่อนจะมองไปยังเจ้าสังกัดทั้งเจ็ด ในบรรดานั้นมีหกคนที่มันเคยเจอเมื่อห้าปีก่อน มีเพียงสตรีในชุดนักพรตที่นั่งอยู่หลังสุดทางขวาที่ไม่เคยเห็น คงจะเป็นนักพรตหญิงสุ่ยเยวี่ยที่โด่งดังแห่งดอยไผ่น้อยจางเสี่ยวฝานเคยได้ยินศิษย์พี่พูดถึงอาจารย์อาท่านนี้อยู่บ่อยๆ ดอยไผ่น้อยเป็นสังกัดเดียวที่รับแต่ศิษย์หญิง ตัวนักพรตหญิงสุ่ยเยวี่ยเองเป็นผู้มีตบะญาณแก่กล้า ชื่อเสียงโด่งดังมากในสำนัก และศิษย์ในสังกัดนางมักจะสร้างชื่อใน ‘งานประลองฝีมือเจ็ดสังกัด’ อยู่บ่อยครั้ง