จางเสี่ยวฝานอดมองอย่างชื่นชมมิได้ ดูรูปกายภายนอกนางเหมือนคนอายุประมาณสามสิบเศษ ใกล้เคียงกับอาจารย์หญิงซูหรู ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียว จมูกโด่งงามได้รูป ดวงตารูปผลซิ่ง* เจิดจ้าเป็นประกาย อยู่ในชุดนักพรตสีขาว มองดูทั้งสูงส่งทั้งงดงามที่ยืนอยู่ด้านหลังมิใช่ผู้อาวุโสในสังกัด แต่เป็นศิษย์หญิงในชุดขาวราวหิมะ ใบหน้างดงามประหนึ่งเทพธิดา กลางหลังสะพายกระบี่ ทั้งปลอกและด้ามเป็นสีฟ้าครามวาวแววสดใส เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนระลอกคลื่นต้องแสงอาทิตย์ มองปราดก็รู้ว่าเป็นของวิเศษอีกชิ้นหนึ่งแน่นอนมันกำลังมองเพลิน สาวน้อยก็เหมือนจะสำเหนียกว่าถูกแอบมองจึงหันหน้ามา ดวงตาคมกริบของนางจ้องสบตาจางเสี่ยวฝานอย่างเย็นชา จางเสี่ยวฝานสะดุ้งเฮือกเหมือนถูกสายฟ้าวาบใส่มันหน้าแดงฉาน แต่สาวน้อยกลับสีหน้าไร้ความรู้สึก แววตาสาดประกายดูแคลนให้เห็นวูบ จางเสี่ยวฝานก้มหน้าลง ขณะกระอักกระอ่วนก็มีคนสัมผัสไหล่ เถียนหลิงเอ๋อร์กระซิบอยู่ข้างหู“เสี่ยวฝาน เจ้าเหม่อมองอันใด ถึงรอบของพวกเราแล้ว”จางเสี่ยวฝานละล่ำละลัก“ใช่ๆๆ”มันไม่กล้าเหลือบแลไปทางนั้นอีกเลย รีบเดินตามเถียนหลิงเอ๋อร์ไปที่หีบไม้แดงขณะนี้เหลือเพียงดอยไผ่ใหญ่และดอยไผ่น้อยที่ยังไม่ได้จับสลาก ศิษย์ดอยไผ่ใหญ่นำโดยซ่งต้าเหรินจับสลากเสร็จก็เดินกลับมา ณ จุดเดิม ขณะที่ทุกคนแกะก้อนเทียนไข ศิษย์สังกัดดอยไผ่น้อยก็เดินเรียงแถวออกไป เหวินหมิ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น สาวน้อยในชุดขาวที่ยืนอยู่หลังนักพรตสุ่ยเยวี่ยก้มลงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู นักพรตสุ่ยเยวี่ยพยักหน้ากล่าวว่า“เจ้าไปเถอะ”นางรับคำยิ้มให้เหวินหมิ่น แล้วเข้าร่วมแถวไปจับสลากพร้อมกันช่วงเวลาต่อมาศิษย์ทุกคนต่างพากันตรวจสอบหมายเลขของตัวเอง แม้แต่ตัวเจ้าสังกัดเองก็อดตื่นเต้นมิได้ สองตาจ้องมองกลุ่มศิษย์ของตนเขม็ง ภาวนาให้ศิษย์จับได้เลขดี ยิ่งถ้าจับได้หมายเลข ‘หนึ่ง’ จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ราวกับรับรู้ถึงจิตใจอาจารย์ ศิษย์แต่ละคนขานหมายเลขที่ตนจับได้เสียงดัง“อ๊ะ ข้าจับได้หมายเลขยี่สิบหก”“ของข้าสามสิบสาม ของเจ้าเล่า?”“เอ่อ ข้าหมายเลขสี่สิบเจ็ด ไม่รู้ว่าคู่ประลองหมายเลขอะไร ไหนขอนับดูก่อน…”รอฟังอยู่ครึ่งค่อนวันยังไม่มีใครบอกว่าจับได้หมายเลขที่ทุกคนหมายปองนักพรตชางซงงุนงงวูบ กระแอมสองทีก่อนถามเสียงดัง“ใครจับได้หมายเลข ‘หนึ่ง’ ”เสียงของมันดังกังวาน กลบเสียงเอะอะที่มีอยู่จนสิ้น ทั่วทั้งวิหารเงียบกริบ อึดใจต่อมาจึงมีคนขานรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คล้ายไม่ค่อยมั่นใจราวกับตัวมันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ“ระ…เรียนอาจารย์ลุงชางซง ยะ…อยู่ที่ศิษย์เองขอรับ”ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว แล้วก็เห็นจางเสี่ยวฝานมือถือกระดาษโบกหย็อยๆ แต่สายตากลับชำเลืองไปทางเถียนปู้อี้อย่างหวาดๆ* ลูกแอปปริคอต