“ศิษย์น้องสุ่ยเยวี่ย เมื่อครึ่งปีก่อนข้าได้รับจดหมายจากหุบเขากรุ่นกำยานฉบับหนึ่ง บอกว่าระยะนี้บริเวณใกล้ๆ ‘ถ้ำหมื่นค้างคาว’ มีร่องรอยการเคลื่อนไหวของพรรคมาร จึงส่งจดหมายมาขอความเห็นจากข้า ข้าคิดดีแล้วจึงส่งศิษย์คนรองเซียวอี้ไฉเร่งรุดเดินทางไปตรวจสอบดู”ซางเจิ้งเหลียงแห่ง ‘ดอยรับตะวัน’ ได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอย่างยิ้มแย้ม“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ศิษย์หลานอี้ไฉเป็นคนเฉลียวฉลาด พลังฌานเข้มแข็ง นับเป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นของสำนัก ในการประลองครั้งที่แล้วก็คว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครอง ส่งมันไปจัดการมีหรือจะทำไม่สำเร็จ”นักพรตเต้าเสวียนยิ้มน้อยๆ“ศิษย์น้องชมเกินไปแล้ว เพียงแต่หลังจากอี้ไฉไปเขาต้นหม่อนได้หลายเดือนก็ส่งจดหมายมา บอกว่าพบการเคลื่อนไหวของพรรคมารในละแวกใกล้ๆ ‘ถ้ำหมื่นค้างคาว’ จริง และวัตถุประสงค์ของพวกมันยิ่งน่าตื่นตกใจ”ทุกคนใจหายวาบ เจิงซูฉางโพล่งถามว่า“คืออะไร”เต้าเสวียนสีหน้าเรียบเฉย ดูไม่ออกว่าทุกข์สุขดีใจหรือเดือดดาล“ตามที่อี้ไฉเขียนเล่ามา มันจับศิษย์พรรคมารได้คนหนึ่ง จากการสอบปากคำจึงรู้ว่าที่แท้ ‘ถ้ำหมื่นค้างคาว’ ก็คือที่ตั้งสาขาใหญ่ของพรรค ‘หลอมโลหิต’ ที่เป็นแขนงย่อยของพรรคมาร ตอนสมัยพรรคหลอมโลหิตยังเรืองอำนาจเคยถูกจัดเป็นหนึ่งในห้าขุมกำลังอันเข้มแข็งของพรรคมาร แต่หลังจากถูกพวกเราชาวธรรมะกวาดล้างก็เสื่อมโทรมจนไม่มีวันฟื้นคืน ‘ถ้ำหมื่นค้างคาว’ จึงว่างร้างนับแต่นั้นเป็นต้นมาแต่ไม่รู้เพราะเหตุใดช่วงหลายปีมานี้พรรคหลอมโลหิตที่ล้มพับไปนานกลับมีร่องรอยจะผงกหัวขึ้น และยังมีข่าวลือออกมาว่าตอนที่เกิดศึก แม้บุคคลสำคัญของพรรคจะถูกพวกเราเข่นฆ่าสังหารจนหมดสิ้น แต่ภายในถ้ำกลับมีถ้ำลับซ่อนสมบัติอยู่แห่งหนึ่ง ภายในนั้นมีของวิเศษหายากรวมทั้งคัมภีร์มาร ของพวกนี้ปัจจุบันยังไม่มีใครค้นพบ”ฟังถึงตรงนี้ทุกคนก็เข้าใจทันที นักพรตชางซงหัวเราะเสียงเย็นชา แค่นเสียงผ่านไรฟัน“พวกมารนอกรีต ชอบคิดเพ้อเจ้อ!”นักพรตเต้าเสวียนส่ายหน้ากล่าวว่า