หัวใจจางเสี่ยวฝานเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ในวินาทีนั้น แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวด เพราะใจมันว่างเปล่าโหวงเหวงไปแล้ว เพียงได้ยินแต่เสียงนุ่มนวลที่เรียกหา ‘ศิษย์พี่ฉี ศิษย์พี่ฉี…’ ดังก้องอยู่ในหูเป็นร้อยเป็นพันรอบมันฝืนใจหันไปมอง เห็นบนสะพานมีคนผู้หนึ่งเดินปราดๆ ลงมา คนผู้นี้คิ้วเข้มตากระจ่างองอาจสง่างาม บุคลิกโดดเด่นล้ำเลิศ หากมิใช่ฉีเฮ่าแล้วจะเป็นใครฉีเฮ่ารีบเดินเข้าหาเถียนหลิงเอ๋อร์ บอกเสียงนุ่มนวลเอาใจ“อภัยให้ข้าด้วยที่ทำให้เจ้าต้องรอ ศิษย์น้องข้าเอาแต่คุยเล่นกัน กว่าจะเข้านอนได้ก็ดึกสงัด ข้าจึงมาช้า”เถียนหลิงเอ๋อร์ย่อมรู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่บ้าง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดพอเห็นหน้าฉีเฮ่า ความขุ่นเคืองที่คุกรุ่นก็สลายไปสิ้น นางส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็เพิ่งมาถึงได้ไม่นาน”นางหันไปมองสระน้ำมรกตพลางถามอย่างสงสัย“แต่ทำไมท่านถึงนัดให้มาเจอกันที่นี่ เมื่อกลางวันจู่ๆ ผู้วิเศษก็ระเบิดโทสะ ตอนนี้ข้ายังรู้สึกหวาดๆ อยู่เลย”ฉีเฮ่าตอบอย่างยิ้มแย้ม“ไม่ต้องกลัว ข้าได้ยินอาจารย์บอกว่าผู้วิเศษเป็นปกติดี เพียงแต่ล้อเล่นกับพวกเราศิษย์รุ่นเยาว์เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเพราะกลางวันเกิดเรื่อง คืนนี้ที่นี่เลยเงียบสงบยิ่ง เจ้าว่าจริงหรือไม่”เถียนหลิงเอ๋อร์หน้าแดงซ่าน ก้มหน้าลงกล่าวอย่างเอียงอาย“พวกเรามาแอบพบกันที่นี่ ไม่รู้ว่าทำถูกต้องหรือไม่”ฉีเฮ่าตะลึงมองใบหน้างดงามของนาง อดสารภาพเสียงนุ่มมิได้“ศิษย์น้องหลิงเอ๋อร์ นับแต่ได้พบเจ้าครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ข้าก็เอาแต่คิดถึงเจ้าตลอดเวลา ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน ในสมองมีแต่ภาพของเจ้า”เถียนหลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากหน้าแดงฉานถึงใบหู แต่ปราศจากแววขุ่นเคืองที่ถูกเกี้ยวพาราสี ตรงกันข้าม ในใจกลับรู้สึกหวานชื่นยิ่งนักฉีเฮ่ากล่าวต่อไปว่า“ศิษย์น้องหลิงเอ๋อร์ ข้า…”เถียนหลิงเอ๋อร์พลันเงยหน้าขึ้นท้วง