“ศิษย์พี่เซิน ยอดเยี่ยมไปเลย!”“ร้ายกาจจริง!”“ชนะแน่นอนแล้ว!”บนเวทีเต็มไปด้วยละอองฝุ่นฟุ้งกระจาย แทบจะมองอันใดไม่เห็น เซินเทียนโต่วยืนเหยียบอยู่บนก้อนศิลาด้วยท่าทางระแวดระวัง มันเบิกตากวาดมองไปรอบๆ เพื่อค้นหา จริงดั่งใจมันหวาด เหนือก้อนศิลาฝั่งตรงข้ามปรากฏแสงสีแดงวูบขยายจากเล็กเป็นใหญ่ เถียนหลิงเอ๋อร์บินฝ่าม่านฝุ่นออกมาดุจดั่งหงส์เหิน ‘แพรแดงอำพัน’ ส่องประกายระยิบระยับ พลิ้วอยู่รอบตัวนางด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว แววตาสาดประกายมุ่งมั่น เถียนหลิงเอ๋อร์สองมือประสานแน่นแล้วตวัดฟาดลงอย่างแรง ‘แพรแดงอำพัน’ ดั่งมีชีวิต เชิดบินขึ้นตั้งท่าเป็นลำ ก่อนจะพุ่งลงชอนไชก้อนศิลาแกร่งราวกับอสรพิษตัวหนึ่งเซินเทียนโต่วหน้าถอดสี พลิ้วกายถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ ทันทีที่มันผละถอย ‘แพรแดงอำพัน’ ก็โผล่ผุดขึ้นจากพื้น เลื้อยปราดดุจมังกรแดงตัวหนึ่ง ที่ซึ่งมันเคยยืนอยู่ระเบิดแตกเป็นช่องใหญ่ เศษหินปลิวกระจัดกระจายเถียนหลิงเอ๋อร์ยามนี้ยังลอยตัวอยู่กลางอากาศ สองมือไขว้ประสานระดับอก จีบนิ้วเป็นท่าดอกกล้วยไม้ ปากตวาดเสียงเจื้อยแจ้ว“พันธนาการ!”‘แพรแดงอำพัน’ ที่เลื้อยวนอยู่พลันชะงักกึกแล้วเปล่งแสงแดงโรจน์ ขยายตัวยาวเพิ่มขึ้นไม่สิ้นสุด บินแทรกแหวกอากาศด้วยความเร็วสูง บัดเดี๋ยววนรอบเป็นวง บัดเดี๋ยวเจาะทะลุใต้ดินแล้วโผล่ขึ้น พันล้อมเซินเทียนโต่วไว้ตรงกลาง ตัดขาดมันจากแสงตะวันอย่างสิ้นเชิงคนดอยไผ่ใหญ่อดสบตากันแวบหนึ่งมิได้ เมื่อสองปีก่อนตอนเถียนหลิงเอ๋อร์ประมือกับหลินจิงอวี่ก็ใช้ปาฏิหาริย์ของ ‘พันธนาการ’ ชุดนี้ บัดนี้ดูเหมือน ‘พันธนาการ’ ของนางจะมีอานุภาพเพิ่มขึ้น ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายไว้ได้ทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่ใต้ดิน ไม่รู้ว่าเซินเทียนโต่วเทียบกับหลินจิงอวี่ในตอนนั้นเป็นอย่างไรได้ยินเถียนหลิงเอ๋อร์ท่องคาถาออกมาชุดหนึ่ง ‘แพรแดงอำพัน’ ที่ปิดล้อมเซินเทียนโต่วจนดูเหมือนลูกโป่งสีแดงลูกหนึ่งก็บีบตัวเล็กลง ภายในประกายแดงมองเห็นลำแสงสีน้ำตาลได้รำไร ดูออกว่าเซินเทียนโต่วกำลังต้านรับอย่างแข็งขัน แต่กระนั้นแพรแดงที่ซ้อนทบกันหลายตลบยังคงหดตัว แม้จะลดความเร็วลงก็ตามด้านล่างเวทีเงียบกริบ ศิษย์ดอยรับตะวันต่างเบิกตาจ้องมองลูกโป่งสีแดงมหึมาลูกนั้นด้วยใจเต้นระทึก รู้ดีว่าหากถูกเวทอาวุธชิ้นนี้บีบอัดจนต้านรับไม่อยู่ผลสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น