“เป็นกระต่ายสามขา นกยูงขาวดำกับเต่าไร้กระดองต่างหาก!”จางเสี่ยวฝานแลบลิ้นเขินๆ“เอ่อ นั่นแหละๆ ข้าไม่ได้สนใจ ยังคงไม่แลกดีกว่า”เจิงซูซูกลอกตาคิดอีกครั้ง คราวนี้มันดึงตัวจางเสี่ยวฝานออกห่างกลุ่มคน เหลียวซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ค่อยกระซิบด้วยสีหน้าแปลกพิกล“ศิษย์น้องจาง เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าดูของดี ดูซิว่าเจ้าชอบหรือไม่”กล่าวจบก็ล้วงหนังสือเล่มหนาเตอะปกสีน้ำเงินออกจากอกเสื้อยื่นส่งให้แก่จางเสี่ยวฝานจางเสี่ยวฝานรับไปดู เห็นหน้าปกไร้ตัวหนังสือทั้งยังดูเก่าเก็บ ท่าทางจะมีอายุนานแล้ว เหลือบมองเจิงซูซูก็เห็นว่าทำหน้าเรียบเฉย แต่สายตากลับเหลือบแลรอบๆ อย่างระแวดระวัง ใบหน้าที่เดิมคมคายน่ามองยามนี้กลับมีแววหลุกหลิกไม่สำรวม ดูท่าหนังสือเล่มนี้หากไม่บันทึกเคล็ดวิชาสุดยอดเอาไว้ก็ต้องเป็นผลงานมหัศจรรย์อะไรสักอย่างที่มีอยู่เพียงเล่มเดียวในโลกจางเสี่ยวฝานส่ายหน้า“ศิษย์พี่เจิง หนังสือมีค่าแบบนี้ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก อีกอย่างข้าสติปัญญาอ่อนด้อย เก็บเอาไว้ก็คงใช้ประโยชน์มิได้ และก็ไม่คิดจะเอาเจ้าเทาไปแลกกับอะไรด้วย ท่านเก็บกลับไปเถอะ”เจิงซูซูถลึงตาใส่ คะยั้นคะยอว่า“เจ้ายังไม่ได้เปิดดูจึงพูดเช่นนี้ เปิดดูสิ เร็วเข้า”จางเสี่ยวฝานเห็นอีกฝ่ายท่าทางแปลกๆ ความอยากรู้ก็บังเกิด แต่พอเปิดดูมันก็ต้องตาโตหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู ที่แท้หนังสือหนาเตอะเล่มนี้นอกจากตัวหนังสือยังมีภาพวาดอีกมากมาย ทุกภาพล้วนเป็นรูปหญิงชายกอดรัดฟัดเหวี่ยง มันคือหนังสือลามกดีๆ นี่เองจางเสี่ยวฝานเพิ่งเคยเห็น บังเอิญเสียด้วยที่ภาพวาดในหนังสือเล่มนี้ฝีมือประณีตนัก ตัวละครในภาพเหมือนจะมีชีวิตจริง มันใจเต้นแรง ร้องอุทานเสียงหลง“ศิษย์พี่เจิง ทะ…ทะ…ท่านทำไมถึงมีของแบบนี้…”“ชู่ว์!”เจิงซูซูใจหายวาบ รีบคว้าหนังสือมาซุกเก็บ กวาดตามองไปรอบๆ อย่างร้อนใจ ก่อนจะหันมาถลึงตาดุ“เจ้าเสียงดังไปทำไม”