• Connect with us

    Enter Books

    Uncategorized

    “จิ๋นซีฮ่องเต้” นิทรรศการต้องห้ามพลาด ของคอนิยายจีน

    เชื่อว่าคอนิยายจีนทุกคนหรือแม้กระทั่งคนทั่วไปไม่มีทางที่จะไม่รู้จัก ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ แน่ๆ จักพรรดิผู้รวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่ง มีเรื่องราวมากมายจากตำนานนี้ที่เป็นรากฐานให้กับ ‘นิยายจีน’ นิยายจีนหลายๆ เรื่องในปัจจุบัน ล้วนมีส่วนเกี่ยวโยงกับตำนานจิ๋นซีฮ่องเต้ไม่มากก็น้อย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการเผยแพร่วัฒนธรรมของแผ่นดินมังกรเลยก็ได้

    ล่าสุดประเทศไทยของเราได้มีโอกาสในการจัดแสดงนิทรรศการ ‘หุ่นนักรบดินเผา’ ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของจิ๋นซีฮ่องเต้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่และความสวยงามของนักรบดินเผาและเครื่องใช้สำริดที่หาชมได้ยาก พร้อมเรื่องราวที่จะพาเราเจาะเวลากลับไปหา ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ กันเลยทีเดียว ในนิทรรศกาลจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…

    ก่อนจะเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ก็ต้องซื้อตั๋วกันหน่อย แหม่! กว่าจะจัดส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาเนอะ ก็ต้องขอค่าเข้านิดนึง

     

             

    ภาพเหมือน ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’

    ประวัติความเป็นมาของ ‘จิ๋นซีฮ่องเต้’ และความเป็นมาก่อนและหลังราชวงศ์ฉิน

    ต้นกำเนิดของความยิ่งใหญ่เริ่มต้นมาตั้งแต่ราชวงศ์โจวตะวันออก ในยุคสมัยนั้นฉินเป็นเพียงกลุ่มคนเร่ร่อนที่ชำนาญการขี้ม้าและเป็นไมตรีกับอาณาจักรจ้าว โดยกษัตริย์จ้าวได้ยกพื้นที่เล็กๆ ให้กับชาวฉินเป็นที่อยู่อาศัยและแต่งตั้งให้ผู้นำของชาวฉินเป็นกษัตริย์จนเกิดเป็นแคว้นฉินจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงเติบโตมาในฐานะขององค์ประกันว่าแคว้นฉินจะภักดีต่ออาณาจักรจ้าว

    เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 13 พรรษา จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของแคว้นฉิน แต่ยังคงอยู่ใต้อิทธิพลของผู้สำเร็จราชการ หลู่ ปู่เหว่ย จนกว่าจะมีพระชนมายุครบ 22พรรษา จึงจะสามารถเป็นกษัตริย์ได้เต็มตัว จากนั้นพระองค์ก็ดำเนินการรวมทั้ง 6 แคว้นให้เป็นหนึ่งเดียวจนทำให้เกิดเป็นจักวรรดิฉินในปี พศ.722

    เพื่อเป็นการประกาศว่าจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นผู้รวมแผ่นดินจีนและสถาปนาตนเองเป็นปฐมจักรพรรดิผู้ผนึกโลกและสวรรค์เป็นหนึ่งเดียว แม้พระองค์จะครองความยิ่งใหญ่ได้เพียง 11 ปี แต่ในช่วงเวลานั้นพระองค์ได้สร้างความยิ่งใหญ่ไว้ให้แผ่นดินจีนมากมายจนเป็นที่เล่าขานความยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบันนี้

    Time Line การกำเนิดราชวงศ์ก่อนและหลังราชวงศ์ฉิน

      ราชวงศ์โจวตะวันออก

     ราสชวงศ์ฉิน

     ราชวงศ์ฮั่น

     

     

     

    ‘นักรบดินเผา’ ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายและความสวยงามของอารยธรรม

    ชาวจีนมีความเชื่อในเรื่องโลกหลังความตาย การสร้างสุสานหรือการฝังสิ่งของมีค่าเอาไว้กับศพถือเป็นการนำสิ่งของเหล่านั้นไปยังโลกหน้าด้วย จิ๋นซีฮ่องเต้จึงได้มีการสร้างกองทัพทหารดินเผาเป็นจำนวนมากแล้วฝังไว้ในสุสานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อที่ทหารเหล่านั้นจะได้เป็นค่ารับใช้จิ๋นซีหลังจากที่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว

    แต่สิ่งที่น่าจดจำมากกว่าความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายก็คือศิลปะในการสร้างหุ่นทหารดินเผาเหล่านี้ต่างหาก การออกแบบและการสร้างล้วนบอกได้เลยว่าเป็นเอกลักษณ์ในแบบจีนขนานแท้ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นมากกว่าความสวยงามก็คือสิ่งที่คนสมัยนั้นสวมใส่ เหล่าชุดเกราะ เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงหน้าตาของทหารในยุคสมัยนั้น

    การสร้างหุ่นพวกนี้ทำให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ถึงลักษณะทางกายภาพที่ไม่สามารถหาดูได้ในสมัยนี้แต่หุ่นพวกนี้เหมือนพาเราย้อนเวลากลับไปยังยุคสมัยแห่งจิ๋นซี นับเป็นความสุขในการรับรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำจริงๆ

    ขั้นตอนการสร้างกองทหารดินเผา เป็นศิลปะขั้นสูงในยุคนั้น

     

    เครื่องสำริด นวัตกรรมและศิลปะแห่งอดีต

    ‘สำริด’ คือโลหะผสมระหว่าง แร่ทองแดง จากธรรมชาติมาหลอมรวมกับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ดีบุก ตะกั่ว ในอัตราส่วนที่เท่าเทียมกัน จึงออกมาเป็นวัตถุที่มีความแข็งและทนทานสำริดถูกทำมาสร้างเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาวุธ  เครื่องครัว  ภาชนะ เป็นต้น

    และนอกจากตัวคุณสมบัติในการทำประโยชน์แล้วยังมีการสร้างงานสำริดให้กลายเป็นศิลปะที่สวยงามอีกด้วย นับว่าเป็นวัตถุดิบสารพัดประโยชน์มากๆ ในยุคสมัยนั้น การที่เครื่องสำริดยังหลงเหลือให้เราได้เห็นนับเป็นอีกหนึ่งคุณค่าที่ถูกส่งผ่านกาลเวลามาให้เราได้ชื่นชมความงามและวิถีชีวิตของคนสมัยนั้นได้อย่างดีเยี่ยม

     

     

     

     

     

     

     

     

    ชุดเกราะที่สร้างจากหินล้วนๆ มีลวดลายสวยงามถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการรบวัสดุที่ใช้สร้างมีหินทั้งหมด 400 ชิ้น ที่ถูกทักทอรวมกันจนเป็นเกราะชุดนี้

     

     

     

     

     

    หลังจากเดินชื่นชมความสวยงามของประวัติศาสตร์แล้วในส่วนของทางออก ยังคงฝากปรัชญาของจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่พระองค์นี้เอาไว้ด้วย ‘สรรพสิ่งในโลกหล้า เมื่อถึงที่สุด ย่อมย้อนกลับ’ เราอาจเคยได้ยินประโยคประมานนี้มาหลากหลายยุคสมัย ลองคิดตามกันดูว่าถ้าประโยคนี้กำเนิดจากยุคสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้จริงๆ แสดงว่ามนุษย์ล้วนดำรงอยู่ในวังวนของการพัฒนาแล้วกลับสู่สามัญในที่สุด น่าจะเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนที่สุดในการตอบคำถามที่ว่า ‘ชีวิตคือสิ่งใด’ก็เป็นได้

     

    สิ่งที่ถูกส่งผ่านกาลเวลามาถึงปัจจุบัน

    เรื่องราวความยิ่งใหญ่การรวมแผ่นดินจีนของจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง ‘กำแพงเมืองจีน’ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก วิทยาการทางการทหารที่ยังคงมีการดัดแปลงมาใช้ในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งสิ่งที่พวกเราคุ้นเคยอย่าง ‘นิยาย’ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลจากเรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องแต่อย่างมาก

     

    จิ๋นซีฮ่องเต้และต้นกำเนิดของการเขียนนิยาย

    การเขียนนิยายแต่ละเรื่องส่วนใหญ่ล้วนถูกเขียนขึ้นมาโดยใช้เรื่องราวในประวัติศาสตร์เป็นโครง ยกตัวอย่างนิยายเรื่อง ‘เพอร์ซีย์ แจ็กสัน’ ผลงานสุดโด่งดังของ ‘RICK RIORDAN’ ที่เขียนขึ้นโดยอ้างอิงประวัติศาสตร์ของตำนานกรีกโบราณ

    หรือข้ามมาฝั่งนิยายแปลจีน อย่างนิยายสุดโด่งดัง ‘สยบฟ้า พิชิตปฐพี’ ที่มีการกล่าวถึงชื่อเมืองหรือตำนานการต่อสู้อย่างวิทยายุทธ มาใช้ในการเล่าเรื่องเหนือจินตนาการ เรื่องราวเหล่านั้นล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับยุคสมัยของประเทศจีนในช่วงเวลาหนึ่งไม่มากก็น้อย เราจะสามารถรับรู้กลิ่นอายของประวัติศาสตร์ได้จาก ‘นิยาย’ด้วยการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน ต่างจากการมาท่องผ่านตำราเรียน ‘นิยาย’ นับว่าเป็นหนึ่งในสื่อที่บอกเล่าตำนานวัฒนธรรมของเมืองจีนได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังแฝงปรัชญาคำสอนที่สำคัญสืบทอดส่งต่อกันมาให้กลับคนรุ่นหลังอีกด้วย

     

    กำหนดการเข้าชม

    สำหรับใครที่สนใจไปชื่นชมความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิมังกรองค์นี้ได้

    ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน – 15 ธันวาคม 2562  เวลา 9.00 – 14.00น.

    ปิดทำงานทุกวันจันทร์อังคารและวันหยุดนักขตฤกษ์

    ค่าเข้าคนละ 30 บาท สำหรับชาวต่างชาติ 200บาท นักศึกษาหรือผู้สูงอายุแสดงบัตรประจำตัวกับเจ้าหน้าที่ เข้าฟรี!

     

     

     

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in Uncategorized

    นิยายยอดนิยม

    Facebook