ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราเลือกจะเป็นอะไร???
นี่คงเป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่เรามักถามกับตัวเองและผู้อื่น ทั้งที่เราต่างรู้กันดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่น่าแปลกที่ประโยคนี้กลับเป็นคำถามที่ทำให้เราได้คิดถึงตัวเองอย่างมาก คิดถึงปัจจุบันว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นไม่ว่าจะ การเรียน การงาน เส้นทางในชีวิต เรายินดีกับสิ่งที่ทำอยู่จริงๆ หรือไม่นิยายเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในนิยายที่ทำให้คุณค้นหาและตั้งคำถามถึงความฝันของตัวคุณ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ 7 ปี จะเลือกเป็นอะไร?
‘โชมินจุน’ หนุ่มวัย 30ที่เปลี่ยนอาชีพจากคุณครูที่มั่นคง มาทำตามความฝันในการเป็น ‘เชฟ’ แต่ด้วยอุปสรรคด้านอายุทำให้เขาเริ่มท้อแท้และเอาแต่โทษตัวเองว่าทำไมเขาถึงไม่เลือกเป็น‘เชฟ’ ตั้งแต่ยังเด็กทั้งที่เป็นสิ่งที่เขาชอบ ในระหว่างที่เขาตัดพ้อ เหตุการณ์ประหลาดจึงเกิดขึ้นทำให้เขาย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตเมื่อ 7 ปีที่แล้ว นี่จึงเป็นโอกาสอีกครั้งที่เขาจะได้เดินตามความฝันในการเป็น ‘เชฟ’
ในความเป็นจริงคงไม่มีเหตุการณ์ประหลาดแบบในนิยายหรอก แต่เนื้อเรื่องมันทำให้เราเกิดการตั้งคำถามว่า‘แล้วถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ล่ะ เราจะทำอะไร’ ช่วงชีวิตที่ผ่านพ้นมาทำให้เราเห็นอะไรมากขึ้นกว่าตอนยังเด็กทางเลือกที่มีข้อจำกัดและความจริงต่างๆ ที่ได้เจอ ทำให้เราอดบ่นไม่ได้ว่า ‘รู้งี้’
เลือกที่จะเป็นเหมือนเดิม หรือไม่?
สำหรับบางคนคำถามนี้อาจไม่สำคัญอะไรเลยเพราะชีวิตของพวกเขานั้นอาจจะไม่ต้องการแก้ไขอะไร แต่สำหรับบางคนที่ไม่พอใจกับชีวิตในปัจจุบัน เหตุการณ์ย้อนเวลาแบบที่ ‘มินจุน’เจอ คงเป็นทางเลือกที่ดีมากในส่วนนี้จึงแยกความคิดได้ออกเป็น 2 ฝ่าย แต่ในชีวิตปัจจุบันที่มีทั้งเรื่องร้ายๆ และเรื่องดีๆ เราจะเลือกเดินไปยังอดีตเพื่อแก้ไขสิ่งที่ไม่พอใจ หรือเดินไปยังอนาคต ด้วยความหวัง ฝากเป็นคำถามชวนคุยกันนะครับ
สิ่งที่แทรกมากับนิยาย ‘ยอดเชฟเทพนักปรุง’
ต้องขอเกริ่นก่อนว่านอกจากจะได้ย้อนเวลากลับมาแล้ว ‘มินจุน’ยังได้พลังพิเศษที่เรียกว่า ‘ระบบ’ เป็นความสามารถในการมองเห็นข้อมูลของวัตถุดิบที่คนปกติทั่วไปไม่อาจรู้ได้ ทำให้การย้อนกลับมาเดินตามความฝันของเขาง่ายขึ้นไปอีก
เราอาจสูญเสียตัวเองไปกับอำนาจและชื่อเสียงได้เสมอ
เมื่อเราเริ่มต้นทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้มีเพียงอุปสรรคเท่านั้นที่อยู่ระหว่างทาง กลับกันชื่อเสียงที่เพิ่มมากขึ้นความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเราหลงระเริงไปกับมันมากเกินไป มันอาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าอุปสรรคด้วยซ้ำ
เราสามารถเป็นอะไรได้หลายอย่างมากกว่าที่เราคิด
บางคนที่คนพบความชอบความสามารถของตัวเองแล้ว ส่วนมากก็มักจะมุ่งไปยังทางนั้นอย่างไม่ลังเลเพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดี แต่ในบางครั้งที่เราต้องพบเจอกับคนที่เก่งกว่าและดีกว่ามันอาจทำให้เราไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่ว่าเรามีดีพอหรือไม่ กำแพงความคิดรูปแบบนี้มักเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราสามารถก้าวข้ามมันไปได้เราก็จะพัฒนาไปด้านนั้นได้อย่างงดงาม แต่ใช่ว่าทุกคนจะก้าวข้ามกำแพงนี้ได้เสมอไปเพราะโลกเราไม่ได้ใจดีขนาดนั้น เคยไหมต่อให้พยายามมากเท่าไรอดทนมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเป็นในสิ่งที่ชอบได้ มันเป็นกำแพงที่หนายิ่งกว่าเจอคนที่เก่งกว่าอีก
วิธีก้าวข้าม คืออยากให้ผู้อ่านลองทำอย่างอื่นดูครับ ในโลกนี้ยังคงมีอะไรให้เราลองทำอยู่มากมายและไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงสิ่งๆ เดียวด้วย เราอาจจะเป็นได้ในหลายๆ อย่างและสุดท้ายทุกสิ่งที่เราได้ ‘ลอง’ก็จะเป็นตัวขัดเกลาเราเองว่าเราเลือกที่จะเป็นอะไรและเหมาะกับอะไร
เราจงเลือกเสียใจเพราะทำลงไปแล้ว ดีกว่ามาเสียใจที่ยังไม่ได้ทำ
ก่อนที่ ‘มินจุน’ จะได้ย้อนเวลากลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง สิ่งที่อยู่ในหัวเขาคือความเสียใจที่ฝังแน่นอยู่ในหัวที่เขาไม่ได้เลือกเดินตามความฝันในการเป็น‘เชฟ’และทำให้เขาสูญเสียโอกาสหลายๆ อย่าง ถ้าในตอนเด็กเขาเลือกที่จะทำตามความฝัน ถึงแม้จะไม่มีอะไรการันตีว่าเส้นทาง ‘เชฟ’ ของเขาจะสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาก็คงไม่ได้มานั่งเสียใจภายหลังแน่นอน
คุณผู้อ่านล่ะครับมีความฝันในวัยเด็กที่ยังไม่ได้ทำกันอยู่ไหมมันอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จแต่จงทำมันเถอะเพราะอย่างน้อยเราก็ได้ลองทำมันลงไปแล้ว และเราจะไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่นอน
นิยายทุกเรื่องล้วนมีแนวคิดในการดำเนินเรื่องจากเรื่องราวของมนุษย์จริงๆ อยู่ที่ว่าผู้เขียนจะนำแนวคิดเหล่านั้นมาถ่ายทอดออกมาเป็นรูปแบบยังไง เพื่อสอดแทรก แง่คิด ข้อคิด คำถาม ให้ผู้อ่านได้ประโยชน์จากการอ่านนิยายเรื่องนั้นมากที่สุด หากเราสามารถทำให้การอ่านนิยายมีมุมมองในการมองแง่คิดดีๆ ได้ นับว่าจะเป็นก้าวสำคัญของวงการนิยายเลยทีเดียว ขอให้ทุกคนได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ
ส่วนใครที่อยากพิสูจน์ว่านิยายทำอาหารเรื่องนี้ยังมีแง่คิดอะไรซ่อนอยู่อีก ซื้อไปอ่านกันเองได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย
>>> ลิงก์ <<<