• Connect with us

    Enter Books

    สยบฟ้า พิชิตปฐพี

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 12 ตอนที่ 2

    ซังซังซุกแก้มเข้ากับหมอนเย็นเฉียบ มองแสงดาวที่นอกหน้าต่าง รำพึงขึ้นมาว่า

    “แต่ข้าก็อยู่กับท่านมานานหลายปีแล้ว พวกเราก็แค่ไม่ให้ใครรู้เหมือนเดิมก็แล้วกัน”

    “ได้ยินว่าพวกมันกำลังเล่นหมากล้อมกัน”

    “พวกมันเล่นจบกระดานไปแล้วเมื่อตอนพลบค่ำ”

    “แต่พวกเรายังเล่นไม่จบ เจ้าต้องเล่นเป็นเพื่อนเราก่อน”

    “ฝ่าบาท เดินหมากก็ย่อมต้องมีเวลาเลิกรา”

    “คืนนี้เรานอนไม่หลับ ต้องหาทางฆ่าเวลา”

    ภายในห้องทรงพระอักษรของวังต้องห้าม จักรพรรดิต้าถังหลี่จ้งอี้ทอดพระเนตรกระดานหมากเบื้องหน้าพระพักตร์พลางตรัสอย่างหงุดหงิดพระทัย หมากกระดานนี้เริ่มเดินตั้งแต่ตอนกลางวัน ยามนี้ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว ยังเพิ่งเล่นไปได้ครึ่งหนึ่ง พระองค์จึงทรงรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง

    หลวงจีนหวงหยางยิ้มเฝื่อนๆ กล่าวว่า

    “ฝ่าบาท ด่านฌานระดับจ้าวบัลลังก์แสงสว่างกับเหยียนเซ่อต้าซือตอนนี้นับได้ว่าเป็นยอดคนในโลกุตระแล้ว คนในโลกิยะอย่างอาตมาไม่ว่าจะรับมืออย่างระมัดระวังรอบคอบเพียงใด ก็มิได้บังเกิดผลอะไรมากนัก”

    ค่ำคืนนี้บรรยากาศในเมืองฉางอันเต็มไปด้วยความตึงเครียด นอกจากร้านเหล่าปี่ไจในซอยสี่สิบเจ็ดแล้ว วังต้องห้ามย่อมเป็นสถานที่ที่มีการคุ้มกันเข้มงวดที่สุด ตามกฎที่วางไว้ หากราชครูหลี่ชิงซานไม่อยู่ หลวงจีนหวงหยางในฐานะพระอนุชาแห่งต้าถังจะต้องคอยติดตามอารักขาไม่ห่างพระวรกายแม้แต่ชุ่นเดียว

    จักรพรรดิทรงยื่นพระหัตถ์ปัดตัวหมากในกระดานจนกระจัดกระจาย ก่อนทรงพระดำเนินออกจากห้องทรงพระอักษรไปหยุดอยู่ตรงหน้าต้นไม้ที่ยังมีหิมะหลงเหลืออยู่ตามกิ่ง ทอดพระเนตรเมืองฉางอันภายใต้แสงดาว แล้วจู่ๆ ก็ตรัสขึ้นว่า

    “เจ้าเชื่อคำเล่าลือที่ว่าโลกแห่งความมืดจะมาเยือนหรือไม่”

    หลวงจีนหวงหยางพนมมือเงียบไปสักครู่ ก่อนส่ายหน้า

    ลมเย็นพัดโชยมาหอบหนึ่ง จักรพรรดิทรงพระกาสะ เสียงพระกาสะดังขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายทรงเจ็บพระอุระ พระวรกายถึงกับงองุ้ม แต่ก็ทรงโบกพระหัตถ์ขับไล่เหล่าขันทีและนางกำนัลที่ต่างรีบเดินเข้ามาให้ถอยออกไป แล้วทรงหยิบผ้าซับพระพักตร์ออกมาเช็ดที่มุมพระโอษฐ์ สายพระเนตรกราดมองสีสันของราตรีที่ปกคลุมอยู่ทั่ว รับสั่งว่า

    “เราเพียงแต่คิดว่า หากโลกแห่งความมืดมีอยู่จริง มิใช่เป็นเพียงคำเล่าลือ เช่นนั้นถ้าต้องมาก็ขอให้มาเร็วหน่อย”

    หลวงจีนหวงหยางฟังความหมายอันไม่เป็นมงคลที่ซ่อนอยู่ในพระราชดำรัสออก ยิ่งพอนึกถึงเสียงพระกาสะเมื่อครู่ ก็ขมวดคิ้วกล่าวอย่างเป็นกังวล

    “อาการพร่องเย็นของฝ่าบาทกำเริบ ตรงนี้มีลม ทรงกลับเข้าห้องเถิด”

    จักรพรรดิทรงส่ายพระพักตร์ ตรัสว่า

    “จอมปราชญ์เคยบอกว่า อาการพร่องเย็นภายในตัวเรามิได้หนักหนาสาหัส ขอเพียงควบคุมเอาไว้ได้ ก็จะไม่กระโดดออกมาสร้างปัญหา แต่หากเราไม่สามารถคุมได้ นั่นเท่ากับเป็นชะตาชีวิตของเรา”

    หวงหยางแม้จะมีตำแหน่งเป็นพระอนุชาแห่งต้าถัง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เหมือนกับราชครูหลี่ชิงซานที่อยู่ใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดิมานาน จึงไม่รู้เรื่องราวระหว่างโอรสสวรรค์แห่งต้าถังกับดรุณีจากพรรคมารที่เกิดขึ้นเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ดังนั้นพอได้ยินถ้อยรับสั่งนี้ ไม่เพียงเป็นกังวล ยังรู้สึกงุนงงไม่น้อย คิดในใจ หรือแม้แต่จอมปราชญ์ก็ไม่มีหนทางรักษาอาการพร่องเย็นในพระวรกายของฝ่าบาทให้หายขาด?

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in สยบฟ้า พิชิตปฐพี

    นิยายยอดนิยม

    Facebook