Uncategorized
ทดลองอ่านนิยาย ล่า ตอน รังอินทรีเหนือขุนเขา บทที่ 1
พอกลับมาถึงร้าน ผมก็ครุ่นคิดถึงคำพูดสุดท้ายของเจวียนจื่อ แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ไม่อาจเข้าใจ ลางสังหรณ์ไม่สู้ดีเข้าครอบงำใจผม ผมได้แต่นอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่อาจข่มตาหลับ จนรุ่งเช้าผมถึงได้ผล็อยหลับไป
กว่าจะตื่นขึ้นมาก็เที่ยงพอดี ผมโทรหาบอดใหญ่จ้าว บอดใหญ่จ้าวบอกว่าเขาพาเจวียนจื่อกลับไปแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองคงกระต่ายตื่นตูมไปเอง ไม่แน่ว่าเจวียนจื่ออาจแค่คิดมากไปก็ได้ เลยโพล่งพูดเหลวไหลออกมาแบบนั้น
นึกไม่ถึง เช้าวันถัดมาบอดใหญ่จ้าวโทรมาหาผม เขาตื่นตระหนกตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้แต่บอกว่าจบกันๆ เจวียนจื่อหายตัวไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ข้อความบนกระดาษ บอกว่าจะออกไปตามหาพี่ชาย
ผมใจหายวาบ ไม่แม้แต่จะเสียเวลาล้างหน้าล้างตา รีบขับรถตรงดิ่งไปที่ทุ่งล่าสัตว์ ถามบอดใหญ่จ้าวว่าตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
บอดใหญ่จ้าวหน้าตาตื่น รีบร้อนจนสวมกางเกงผิดด้าน เขาถอดกางเกงออกมาถือไว้ในมือพลางบอกกับผมว่าตั้งแต่กลับมาถึงทุ่งล่าสัตว์ เจวียนจื่อก็ไม่ยอมพูดยอมจา เอาแต่ก้มหน้าครุ่นคิดเรื่องในใจ เขารู้สึกว่าเธออาจแค่เป็นห่วงเสี่ยวหม่าเลยไม่ได้คิดอะไรมาก พอเช้าก็ไปเคาะประตูเรียกเธอกินข้าว เขาเคาะอยู่เป็นนานแต่กลับไม่มีคนขานรับ หลังจากกระแทกประตูเปิด เขาก็พบว่าเจวียนจื่อทิ้งจดหมายเอาไว้ บอกว่าจะไปตามหาพี่ชาย พวกเราไม่ต้องเป็นห่วง ขอบคุณที่หลายวันมานี้พวกเราคอยดูแลเธอเป็นอย่างดี
ผมบอกบอดใหญ่จ้าวว่าไม่ต้องร้อนใจไป เห็นเจวียนจื่อยังเด็กแบบนั้น แต่ความจริงแล้วเธอกลับรู้ดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ไม่ต้องเป็นห่วง
ถึงปากจะบอกบอดใหญ่จ้าวไปแบบนั้น แต่ใจผมกลับร้อนรนยิ่งกว่า รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เตือนสติเธอให้ดีๆ ยิ่งพอนึกโยงไปถึงคำพูดที่เธอพูดกับผมเมื่อคืนวาน ผมก็ยิ่งเป็นห่วง หรือเธอจะเชื่อว่าอินทรียักษ์จับตัวพี่ชายเธอไปจริงๆ เลยตั้งใจจะออกไปตามหามัน?
แต่ว่าต่อให้อินทรียักษ์จับตัวพี่ชายเธอไปจริงๆ แล้วเธอรู้หรือว่าจะไปตามหามันได้ที่ไหน
ผมไปยังห้องของเจวียนจื่อ พอเปิดประตูก็เห็นที่นอนหมอนมุ้งถูกพับจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ โต๊ะหนังสือสะอาดสะอ้านเรียบร้อย บนโต๊ะมีหนังสือ ‘พจนานุกรมจีนโบราณ’เล่มหนึ่ง กับ ‘คดีปริศนา’อีกเล่มกับ ‘ตามรอยอารยธรรมโบราณหวงเหอ’ อีกสองเล่ม เฮ้อ นึกไม่ถึงว่าเด็กสาวอย่างเธอจะชอบนิยายสยองขวัญแบบนี้
ผมหยิบเอาหนังสือชื่อ ‘คดีปริศนา’ขึ้นมาพลิกดู แต่แล้วจู่ๆ บอดใหญ่จ้าวก็ผลักประตูตามเข้ามา ผมสะดุ้งโหยง หนังสือหลุดมือหล่นลงไปอยู่กับพื้น
ผมด่าบอดใหญ่จ้าวออกมาสองสามประโยค ให้วันหน้าอย่าเข้ามาเสียงดังแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นยังไม่ทันหาตัวเจวียนจื่อพบ ผมมีหวังได้ตกใจตายเพราะเขาก่อน!
ขณะค้อมเอวลงไปเก็บหนังสือ ผมก็พบว่าบนพื้นมีขนนกสีน้ำตาลเทาเส้นหนึ่ง ขนของมันยาวมาก ใหญ่ประมาณหนึ่งฝ่ามือ เดิมผมคิดว่าเจวียนจื่อสอดมันไว้ในหนังสือเพื่อใช้มันเป็นที่คั่น แต่พอหยิบขึ้นมาดูผมก็พบว่าขนนกนี้เพิ่งหลุดออกมาจากตัวได้ไม่นาน บนขนยังมีขนอ่อนละเอียดติดอยู่อีกชั้น
ผมโพล่งถามบอดใหญ่จ้าว “ทุ่งล่าสัตว์เลี้ยงนกกระจอกเทศไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินว่าเจ้านั่นชอบเตะคน จริงหรือเปล่า”
บอดใหญ่จ้าวตอบ “นายห้างหายสาบสูญ ยังจะเอานกกระจอกเทศมาจากไหน ถ้าแค่ขนนกยังพอว่า!”
ผมพูด “ก็ขนนกจริงๆ นี่!เฮียมาดูนี่!นี่มันขนนกอะไร”
บอดใหญ่จ้าวหัวเราะเยาะ “เอ็งอยากให้มันเป็นขนนกอะไรก็ตามใจเอ็ง เอาเป็นว่าไม่ใช่ขนนกกระจอกเทศก็แล้วกัน!ทางที่ดีไม่ควรเลี้ยงเจ้านั่น หัวล้านตูดโล้น โคตรทุเรศ!ข้าว่าทุ่งล่าสัตว์น่าจะทำสวนอินทรี รับรองคนต้องชอบแน่!”
“อินทรี?”จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ผมเรียกบอดใหญ่จ้าว “เฮียรีบเข้ามาดูเลย นี่ใช่ขนนกอินทรีหรือเปล่า”
บอดใหญ่จ้าวจีบปาก “ขนนกอินทรีอะไร!นกอินทรีบ้านเอ็งขนยาวขนาดนี้หรือไง!”เขารับมันไปอย่างไม่ใส่ใจ แต่หลังจากกวาดตามองปราดหนึ่งก็เป็นอันตะลึง ละล่ำละลักพูด“นี่…นี่ ใช่ขนปีกนกอินทรีจริงๆ ด้วย!ไม่ เป็นไปไม่ได้ โลกนี้มีนกอินทรีตัวใหญ่ขนาดนี้ที่ไหนกัน!”
ผมนึกสนอกสนใจขึ้นมาทันที ผมรีบถามบอดใหญ่จ้าว “เฮียแน่ใจนะว่าใช่ขนนกอินทรี”
บอดใหญ่จ้าวพูดมั่นอกมั่นใจ “ลายนี่ ริ้วรอยพวกนี้ รับรองว่าต้องใช่ขนนกอินทรีแน่!แต่ว่า…เป็นไปไม่ได้ ขนนกนี่ต้องมีปัญหาแน่ๆ”
“ปัญหาอะไร”
“เสี่ยวชี ขนนี้ไม่ใช่ขนหางนกอินทรี หากแต่เป็นขนบนลำคอของมัน เอ็งลองคิดดู คอนกอินทรีที่ไหนจะใหญ่โตพอสำหรับขนขนาดยักษ์นี่”
ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง ขนนี้ใหญ่เท่าฝ่ามือ ถ้ามันใช่ขนเล็กๆ ที่อยู่รอบลำคออินทรีนั่นแล้วล่ะก็ งั้นส่วนคอของนกอินทรีตัวนี้ก็ต้องใหญ่กว่าตัวคนคนหนึ่งแล้ว
จะเป็นไปได้ยังไงกัน บอดใหญ่จ้าวต้องกำลังล้อเล่นอยู่แน่ๆ!
บอดใหญ่จ้าวไม่ได้ล้อเล่น เขาถามอย่างจริงจัง “เสี่ยวชี เอ็งไปเก็บมันมาจากไหน เจ้านี่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ มันต้องตัวใหญ่เท่าบ้าน จับคนตัวเป็นๆ ไปได้สบายๆ!”
คำพูดของบอดใหญ่จ้าวแทงใจดำผมเข้าเต็มๆ
ผมฟังคำพูดของเขาหลังจากนั้นไม่เข้าหูแม้แต่ประโยคเดียว
ในหัวผมมีก็แต่ภาพใบหน้าจริงจังไร้เดียงสาของเจวียนจื่อกับคำพูดที่เธอบอกกับผม
ที่เธอพูดเป็นความจริง
เสี่ยวหม่าถูกอินทรียักษ์จับตัวไป
ไม่แน่ตอนนี้พวกมันอาจจะจับเจวียนจื่อที่ออกตามหาเสี่ยวหม่าไปอีกคนแล้วก็ได้
ผมเล่าเรื่องในคืนวันนั้นให้บอดใหญ่จ้าวฟัง หัวคิ้วเขาขมวดเข้าหากันแน่น ไม่มีทีท่ายั่วเย้าเหมือนเก่า เรื่องนี้ทำเอาผมนึกกังวลขึ้นมาเหมือนกัน
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็เปิดปาก น้ำเสียงร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
เขาบอก “เสี่ยวชี เอ็งต้องรู้ไว้ นกอินทรียาวขนาดเมตรกว่าก็ดิ่งลงมาจับเหยื่ออย่างละมั่งหรือหมาป่าขึ้นไปบนฟ้าได้ ถ้าอินทรีตัวนี้ตัวใหญ่เท่าบ้าน อย่าว่าแต่คนเลย ต่อให้เป็นวัวมันก็จับขึ้นไปบนฟ้าได้!คำพูดของเจวียนจื่อใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”
ผมใจหายวาบ นั่งเหมือนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง “เฮ้อ ดูท่าเสี่ยวหม่าคงถูกอินทรียักษ์นั่นจับตัวไปจริงๆ แล้วคราวนี้จะทำยังไงกันดี ใช่แล้ว เฮียเติบโตในหมู่บ้านที่เชี่ยวชาญการจับอินทรีนี่ มีวิธีจับอินทรียักษ์หรือเปล่า นี่มันเรื่องอะไรกัน เฮียเคยบอกกับผมไม่ใช่หรือไงว่าโลกนี้นกล่าเหยื่อที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือแร้งคอนดอร์แอนดีส”
บอดใหญ่จ้าวไม่พูดไม่จา เขาหยิบบุหรี่ออกมาสองมวน โยนส่งให้ผมมวนหนึ่งและจุดบุหรี่อีกมวนให้ตัวเอง สูดควันเข้าปอดเต็มแรงสองสามคำ ก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ “เสี่ยวชี ดูท่าครั้งนี้พวกเราจะเจองานช้างเข้าให้แล้ว คราวนี้เกรงว่าเสี่ยวหม่าจะไม่มีทางรอดกลับมาได้อีก เจ้านี่ไม่ใช่อินทรี หากแต่เป็นไห่ตงชิง (เจ้าเขียวครามแห่งบูรพาทิศ)!”
ผมไม่เข้าใจ “ไห่ตงชิงคืออะไร ไม่ใช่อินทรี หรือว่าจะเป็นเหยี่ยว?”
บอดใหญ่จ้าวอธิบายให้ผมฟัง “มีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่าอินทรียักษ์กับอินทรีทองคือไห่ตงชิง แต่ความจริงพวกมันไม่เหมือนกันสักนิด เอ็งว่างูกับมังกรเหมือนกันหรือเปล่า”
ไห่ตงชิงเป็นสัตว์ในตำนาน ถูกขนานนามให้เป็น ’เทพแห่งอินทรี’ เป็นนกที่บินได้เร็วที่สุดและสูงที่สุดในโลก ในหมู่พญาอินทรีแสนตัวจะมีไห่ตงชิงขนานแท้แค่ตัวเดียวเท่านั้น
ไห่ตงชิงคือเทพแห่งอินทรี ก็เหมือนกับทิเบตัน มาสทิฟฟ์ของทิเบตกับหมาคนเลี้ยงทั่วไป ไม่มีอะไรเทียบกันได้ ไห่ตงชิงจัดเป็นสัตว์ในตำนาน ไม่เคยมีใครพบเห็น ดังนั้นบอดใหญ่จ้าวถึงไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง
บอดใหญ่จ้าวยิ่งเล่าก็ยิ่งออกทะเลมากขึ้นทุกที ผมโมโห “เลิกพูดเรื่องอื่นได้แล้ว ผมถามเฮียคำเดียว เสี่ยวหม่าถูกอินทรีจับตัวไป เฮียจะช่วยหรือไม่ช่วย”
บอดใหญ่จ้าวตอบ “ไม่ต้องถาม แน่นอนว่าต้องช่วยอยู่แล้ว!”
ผมตบไหล่เขาอย่างพึงพอใจ “ดี งั้นพวกเราก็มาปรึกษากันว่าจะช่วยยังไง”
บอดใหญ่จ้าวลำบากใจ “เสี่ยวชี ข้าพูดกับเอ็งแบบนี้แล้วกัน ไห่ตงชิงเป็นสัตว์ในตำนาน ไม่มีใครรู้ว่ามันพำนักอาศัยอยู่ที่ไหน มีคนบอกว่าพวกมันอาศัยอยู่บนหน้าผาสูงบนที่ราบสูงทิเบต ในสถานที่อันเป็นแหล่งพำนักของเซียนเทพ คนธรรมดามองไม่เห็น!”
ผมว้าวุ่นขึ้นมาทันที “แล้วจะทำยังไง!”
บอดใหญ่จ้าวส่ายหน้า “คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอ!”
“รออะไร”
“รอให้เสี่ยวหม่าติดต่อมา หรือไม่…หรือไม่ก็อินทรียักษ์นั่นส่งเขากลับ…”
ผมทั้งโมโหทั้งนึกขำ “เป็นไปได้ยังไงที่มันจะส่งเขากลับมา!”
บอดใหญ่จ้าวพูดอย่างจริงจัง “มันก็ไม่แน่!ก็เหมือนกับที่ไม่มีใครนึกว่าเขาจะถูกอินทรียักษ์จับตัวไปนั่นแหละ!”
จะว่าไปที่บอดใหญ่จ้าวพูดมาก็มีเหตุผลอยู่ “บอดใหญ่ เฮียว่าทำไมอินทรียักษ์ต้องจับตัวเสี่ยวหม่าไปด้วย เฮียเคยได้ยินเรื่องทำนองนี้บ้างหรือเปล่า”
Related
Comments
