• Connect with us

    Enter Books

    Uncategorized

    ทดลองอ่าน ยอดเชฟเทพนักปรุง เล่ม 1 ตอน 1

    [สูตรแกงเต้าเจี้ยวที่คุ้นเคยของลีฮเยซอน]

    ผสมเต้าเจี้ยวข้นกับเต้าเจี้ยวธรรมดาในอัตราส่วนสองต่อหนึ่ง จากนั้นใส่น้ำในปริมาณสามเท่า ตามด้วยมันฝรั่ง ต้มและเคี่ยวจนข้นแล้วค่อยใส่หัวหอมครึ่งซีกกับเต้าหู้หนึ่งก้อน ตามด้วยผงปรุงอาหารรสปลากะตัก ผสมให้เข้ากันแล้วต้มจนเดือด

     

    เคยบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ให้ใส่ผงปรุงรส

    เขาบอกไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าถ้ายังใส่ผงปรุงรสแบบนี้ก็ไม่มีทางได้รสชาติที่แท้จริง แต่ฮเยซอนก็เอาแต่ปฏิเสธเสียงแข็ง เขาจึงหันไปมองผู้เป็นแม่อย่างเซ็งๆ

    “ทำไมไม่รีบกินล่ะ มัวนั่งทำอะไรอยู่ เลือกกินจังเลยนะ นึกว่านิสัยเลือกกินจะดีขึ้นหลังปลดประจำการมาซะอีก”

    แล้วความคิดหนึ่งก็ลอยขึ้นมาในหัว เขาน่าจะย้อนกลับไปยังอดีตที่นานกว่านี้อีกนิด สักอายุยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง ตอนที่กำลังอยู่ในกรมทหาร

    ขอบคุณมาก คุณเทพแห่งการทำอาหาร ผมจะมุ่งมั่นในการทำอาหารตามที่ผมได้พูดเอาไว้

     

    เที่ยงแล้ว แต่ความหิวก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาเยือน เพราะเมื่อเช้ากว่าจะได้กินข้าวก็ปาเข้าไปสิบโมง มินจุนครุ่นคิดอีกครั้ง ก่อนที่จะย้อนกลับมายังอดีต เขาอายุสามสิบ เคยเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมัธยมปลาย มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟ แต่ในตอนนี้ที่ตื่นขึ้นมาเขาอายุยี่สิบสาม เป็นนักศึกษาที่เพิ่งปลดประจำการและกำลังรอเวลากลับไปเรียน

    “เอาล่ะ”

    หลังครุ่นคิดได้สักพักมินจุนก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ นี่ถือเป็นโอกาสสุดท้าย เขาไม่อยากให้ชีวิตตัวเองสายเกินไปสำหรับการเป็นเชฟอีกแล้ว แต่ครั้นจะให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วมาเป็นเชฟอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยล่ะก็ พ่อแม่คงจะไม่ยอมง่ายๆ อย่างแน่นอน ดังนั้นต้องแสดงฝีมือให้พ่อแม่เห็นเสียก่อน

    มินจุนเดินออกไปยังห้องนั่งเล่นแล้วพูดกับฮเยซอนที่กำลังรีดผ้าว่า

    “แม่ เดี๋ยวผมทำของว่างให้กินเอามั้ย”

    “แกน่ะนะจะทำ”

    “พอดีอยากฝึกมือน่ะ”

    “เอาสิ อยากลองชิมฝีมือลูกชายเหมือนกัน”

    พอพูดจบเขาก็ตรงดิ่งไปที่ตู้เย็น ถึงแม้ว่าฮเยซอนจะไม่ค่อยชอบทำอาหารสักเท่าไหร่ แต่ที่บ้านก็มีตู้เย็นถึงสามเครื่องรวมถึงตู้แช่กิมจิด้วย จึงมีวัตถุดิบสำหรับทำอาหารถูกแช่ทิ้งเอาไว้จนหมดอายุมากมาย ซึ่งโชซูย็อบพ่อของเขามักบ่นอยู่เสมอ

    “วัตถุดิบ…”

     

    [ไข่]

    ความสด : 35%

    แหล่งที่มา : นัมยางจู เกาหลี

    คุณภาพ : กลาง

     

    มินจุนสะดุ้งเพราะตกใจกับหน้าต่างข้อมูลที่เด้งขึ้นมา คงอีกสักพักกว่าจะชิน ทันทีที่เห็นไข่ในตู้เย็นเขาก็นึกถึงเมนูหนึ่งที่จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก นั่นคือซูเฟล่ที่หน้าตาคล้ายมัฟฟิน แต่เนื้อนุ่มยิ่งกว่าคัสตาร์ด เขาเริ่มตอกไข่ใส่ชาม จากนั้นก็เตรียมเลมอน น้ำตาล เนย และแป้ง

    ซูเฟล่เป็นเมนูที่ขึ้นอยู่กับฝีมือของเชฟจริงๆ จนมีคำกล่าวที่ว่าถ้าร้านไหนทำซูเฟล่อร่อย ไม่ว่าเมนูไหนๆ ก็อร่อย มีช่วงหนึ่งที่เขาเคยคลั่งไคล้ซูเฟล่มาก ถึงขั้นต้องกินซูเฟล่เป็นของหวานหลังอาหารสามมื้อเลยทีเดียว แน่นอนว่าการทำกินเองทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์นั้นเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนมาทำสัปดาห์ละวันแทน

    หลังจากวอร์มเตาอบรอเอาไว้ก็แยกไข่ขาวออกมา โดยใช้ไข่ขาวทั้งหมดสองฟอง จากนั้นใส่น้ำตาลหนึ่งช้อนพูนๆ แล้วตีให้เข้ากัน

    เสียงที่ดังออกมาจากในครัวดึงดูดความสนใจของฮเยซอนเป็นอย่างมากจนถึงกับต้องตะโกนถามเสียงดัง

    “ทำอะไรเสียงดังลั่นขนาดนี้”

    “ขนม”

    “ขนม? ทำเป็นด้วยเหรอ”

    “รอชิมได้เลย อร่อยแน่นอน”

    มินจุนตีไข่ขาวกับน้ำตาลจนเกิดฟองฟูขึ้นมา ไข่ขาวกับน้ำตาลที่ถูกตีให้เข้ากันแบบนี้เรียกว่าเมอแรงก์

    บางคนอาจจะคิดว่าแค่ตีไข่ขาวกับน้ำตาลมันจะไปยากอะไร แต่ถ้าได้ลองทำก็จะรู้ว่ามันเหนื่อยถึงขั้นทำให้แขนแทบเป็นตะคริวได้เลย และยังต้องตีไปในทิศทางเดียวกันด้วยแรงสม่ำเสมอ เพราะถ้าตีกลับไปกลับมา ฟองที่ฟูขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็จะยุบหายหมด

    แค่ตีเมอแรงก์ก็กินเวลาเกือบสี่นาทีแล้ว มินจุนถอนหายใจยาวๆ พร้อมมองไปที่เมอแรงก์

     

    [เมอแรงก์]

    ความสด : 85%

    แหล่งที่มา : (เนื่องจากใช้วัตถุดิบหลายชนิดจึงไม่เปิดเผยแหล่งที่มา)

    คุณภาพ : กลาง (เฉลี่ยวัตถุดิบ)

    คะแนน : 5/10

     

    ตีจนปวดแขน แต่ได้แค่ห้าคะแนนเท่านั้น อ๊ะ เข้าใจแล้ว คงเป็นเพราะใส่น้ำตาลไปจนหมดตั้งแต่แรก ไม่ได้ค่อยๆ ใส่ระหว่างตีนั่นเอง

    มินจุนลองชิมรสชาติ ก่อนจะหั่นเลมอนออกเป็นสองซีก นำซีกหนึ่งมาคั้นน้ำโดยใช้ตะแกรงกรอง จากนั้นก็ค่อยๆ เทใส่เมอแรงก์ทีละนิดแล้วคนให้เข้ากันจนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนและส่งกลิ่นหอมฟุ้ง พอมาถึงขั้นตอนนี้ก็ถือว่าทำเสร็จไปครึ่งทางแล้ว

    จากนั้นก็ทาเนยกับน้ำตาลที่แก้วมัคแล้วเทเมอแรงก์ลงไปอย่างระวัง หลังจากเทออกมาได้สองแก้วก็เหลืออีกนิดหน่อยจึงเทใส่แก้วกาแฟเล็กๆ จนหมด ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ง่ายแล้ว เขานำแก้วมัคและแก้วกาแฟไปใส่ในเตาอบที่วอร์มรอเอาไว้ ระหว่างนั้นก็ใส่แป้งกับน้ำตาลลงไปในเครื่องปั่นเพื่อทำน้ำตาลไอซิ่ง แล้วรอสักพัก พอเสียงกริ๊งดังมาจากเตาอบเขาก็นำซูเฟล่ออกมาแล้วโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งที่กรองด้วยตะแกรง

    ในที่สุดก็ได้ซูเฟล่เลมอนสีเหลืองหอมละมุนโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งสีขาวนวลราวกับหิมะ มินจุนมองดูหน้าต่างข้อมูลที่ลอยอยู่บนซูเฟล่เลมอนของเขา

     

    [ซูเฟล่เลมอน]

    ความสด : 98%

    แหล่งที่มา : (เนื่องจากใช้วัตถุดิบหลายชนิดจึงไม่เปิดเผยแหล่งที่มา)

    คุณภาพ : กลาง (เฉลี่ยวัตถุดิบ)

    คะแนน : 6/10

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in Uncategorized

    นิยายยอดนิยม

    Facebook