ชวนมาทำความรู้จักกับเหล่าแม่มดที่ได้ขึ้นปกเรื่อง ‘ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ’

นิยายแปลจีนแฟนตาซีอย่าง ‘ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ’ ได้เดินทางเข้าสู่ครึ่งหลังของเรื่องมาสักพักแล้ว ตลอดสิบกว่าเล่มที่ผ่านมาเราได้รู้จักแม่มดมากหน้าหลายตา แต่พอผ่านไปนานวันเข้าก็อาจหลงๆ ลืมๆ กันไปบ้าง วันนี้ทางเราเลยขอพาแม่มดที่ได้ขึ้นปกมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักพวกเธอกันอีกครั้ง

แน่นอนว่าคนที่เปิดประเดิมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอันนา แม่มดที่ทุกคนในสโมสรต่างให้ความเคารพ เรียกได้ว่าถ้าไม่มีเธอ ชะตาชีวิตอันน่าอดสูของเหล่าแม่มดคงไม่พลิกผันได้ถึงขนาดนี้

พลังของอันนาจัดอยู่ในประเภทเรียกใช้ เธอสามารถเสกไฟที่ร้อนถึงหนึ่งพันห้าร้อยองศาขึ้นมาได้ในชั่วพริบตา มิหนำซ้ำหลังอ่านทฤษฎีอนุภาคที่โรแลนด์เขียนแล้ว พลังของเธอก็ได้รับการพัฒนาจนเกิดความสามารถใหม่อย่าง ‘ไฟสีดำ’ ที่ช่วยให้เธอปรับแต่งอุณหภูมิและรูปร่างของไฟได้ตามใจ ความสามารถนี้ถือเป็นประโยชน์ต่องานอุตสาหกรรมขอโรแลนด์อย่างมาก

นอกจากฝีมือการควบคุมไฟได้อย่างแม่นยำแล้ว อันนายังถือเป็นแม่มดผู้เฉลียวฉลาดที่สุดอีกคนหนึ่ง เธอทำความเข้าใจแนวคิดและทฤษฎีของโลกยุคใหม่ได้แทบจะในทันที เป็นเหตุให้โรแลนด์สบายใจที่จะนำแผนพัฒนาเมืองของเขามาบอกเล่าให้เธอฟัง

แม่มดคนถัดมาคือไนติงเกล ในอดีตเธอเคยถูกบังคับให้เป็นมือสังหาร หลังจากเข้ายอมสวามิภักดิ์ต่อโรแลนด์และเข้าร่วมสโมสรแม่มด เธอจึงเป็นคนคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายโรแลนด์แทบจะตลอดเวลา

พลังของไนติงเกลมีชื่อว่า ‘หมอกมายา’ ถูกจัดอยู่ในประเภทเรียกใช้เช่นเดียวกัน เมื่อเข้าสู่หมอกมายาแล้วไนติงเกลจะหายไปจากการมองเห็นของทุกคนทันที นับว่าเป็นพลังที่เหมาะกับการลอบโจมตีและสอดแนมอย่างมาก แต่การใช้หมอกมายาย่อมมีความเสี่ยง เพราะทุกสิ่งในหมอกมายาไม่เพียงจะกลายเป็นสีขาวดำ แต่โครงร่างต่างๆ ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ หากเธอก้าวย่างพลาดก็อาจโดนเส้นสายของโครงร่างเหล่านั้นตัดตัวขาดได้

ความสามารถของไนติงเกลยังไม่หมดแค่นี้ เธอยังมีพลังจับโกหกที่แสนจะเป็นประโยชน์ (และโทษ) ต่อโรแลนด์อีกด้วย! ด้วยเหตุนี้เอง ไนติงเกลจึงได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในหน่วยรักษาความสงบของดินแดนตะวันตก

ทีนี้ก็มาถึงคิวของสาวน้อยนักผจญภัยแห่งสโมสรแม่มด ไลต์นิ่งเป็นแม่มดที่ไม่ยึดติดอยู่ในกรอบและมีหัวใจรักอิสระไม่ต่างจากบิดาของเธอ และนั่นทำให้เธอเป็นแม่มดที่ได้รับการลงโทษที่ฝ่าฝืนคำสั่งบ่อยที่สุด

ไลต์นิ่งมีพลังวิเศษที่ช่วยให้เธอบินได้ไวถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกได้ว่าไวกว่ายานพาหนะทุกชนิดที่มีในยุคนั้นเลยทีเดียว มิหนำซ้ำยังลอยตัวสูงได้ถึงหนึ่งร้อยเมตรและแบกน้ำหนักได้อีกห้าสิบกิโลกรัม ภารกิจหลักๆ ของเธอจึงมักเป็นการสำรวจและโจมตีทางอากาศ

แน่นอนว่าพลังของสาวน้อยไลต์นิ่งไม่ได้มีแค่นี้ ขอให้ทุกคนจับตารอดูกันว่าหลังบรรลุนิติภาวะแล้ว ความสามารถของเธอจะแข็งแกร่งหรือพัฒนาขึ้นกว่าเดิมหรือไม่

ต่อกันด้วยบุ๊ก แม่มดผู้เคยเป็นหนึ่งในสามผู้ก่อตั้งสมาคมแม่มด พลังของเธอจัดอยู่ในประเภทเสริมสร้างตัวเองซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากศิลาลงทัณฑ์แห่งพระเจ้า

เดิมทีพลังวิเศษเพียงช่วยให้บุ๊กมีความทรงจำที่เป็นเลิศกว่าคนทั่วไป แต่หลังบรรลุนิติภาวะแล้วพลังก็เสถียรจนเธอสามารถจดจำเนื้อหาในหนังสือได้โดยการกวาดตาอ่านเพียงครั้งเดียว มิหนำซ้ำบุ๊กยังถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาเป็นวัตถุที่เรียกกันว่า ‘หนังสือมหัศจรรย์’ แม้หนังสือจะคงสภาพอยู่ได้แค่ชั่วระยะหนึ่ง แต่ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดทำให้บุ๊กได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้ากองการศึกษาประจำเมืองเนเวอร์วินเตอร์

แม่มดคนนี้เคยอยู่ในสมาคมแม่มดเช่นเดียวกัน และในระหว่างการออกเดินทางตามหาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ลีฟได้มีส่วนในการสังหารปีศาจเพื่อปกป้องพวกพี่น้องแม่มดของเธอ ซึ่งนั่นถือเป็นการประจันหน้าระหว่างแม่มดกับปีศาจครั้งแรกในรอบหลายปีเลยทีเดียว

รู้แบบนี้แล้วหลายคนอาจสงสัยว่าลีฟเป็นแม่มดสายต่อสู้หรือเปล่า อันที่จริงพลังของเธอถูกจัดอยู่ในประเภทเรียกใช้และโดดเด่นเรื่องการควบคุมพืชพรรณ เธอสามารถเร่งให้ต้นไม้ใบหญ้าเติบโตได้เร็ว รวมถึงตัดแต่งพันธุกรรมให้ผลผลิตเพิ่มพูน ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นแม่มดสายสนับสนุน แต่เนื่องจากลีฟมีพลัง ‘หัวใจแห่งป่า’ ที่ช่วยให้เธอควบคุมป่าได้เกือบทั้งผืน เวลามีศัตรูหลุดเข้ามา เธอจึงสามารถแจ้งเตือนพวกโรแลนด์ล่วงหน้า ซ้ำยังสั่งการให้ต้นไม้ในป่าโจมตีศัตรูได้ด้วย ดังนั้นจะบอกว่าเธอเป็นแม่มดสายต่อสู้ที่ทรงพลังมากคนหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก

มาถึงคู่หูคู่ฮาของไลต์นิ่งอย่างเมซี เธอเคยเป็นส่วนหนึ่งของแม่มดแห่งเกาะสลีปปิง แต่หลังบินมาเยือนดินแดนตะวันตกของเกรย์คาสเซิลครั้งแรก เธอก็กลายเป็นสหายรักนักกินกับไลต์นิ่งไปโดยปริยาย

พลังของเมซีเรียกว่าเป็นที่เห็นกันได้ชัดเจน สาวน้อยผู้มีผมยาวสีขาวคนนี้สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ปีกที่เธอเคยเห็นได้ทุกประเภท แม้แต่อสูรสยองที่มีปีกก็กลายเป็นแม่แบบในการแปลงร่างของเธอ นอกจากนี้เมซียังสามารถใช้คุณสมบัติเฉพาะของสัตว์ปีกแต่ละประเภทได้ด้วย อย่างถ้าแปลงร่างเป็นเหยี่ยว การมองเห็นของเธอก็จะแจ่มชัดยิ่งขึ้น

ความจริงแล้วเมซีอายุมากกว่าไลต์นิ่ง แต่ด้วยรูปร่างและอุปนิสัยที่ดูคล้ายเด็ก ทำให้เธอดูเหมือนเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับไลต์นิ่งเสียมากกว่า

คราวนี้สลับมาที่แม่มดของศาสนจักรกันบ้าง หลายคนคงเดาได้แล้วว่าต้องเป็นซีโร่แน่นอน เธอเป็นหนึ่งในแม่มดผู้บริสุทธิ์ที่ช่วงชิงตำแหน่งพระสันตะปาปามาจากเมน แถมยังถือว่าเป็นศัตรูคนสำคัญของสโมสรแม่มดผู้มีผลต่อชีวิตของโรแลนด์มากทีเดียว

ซีโร่มีพลังอันแกร่งกล้าและน่าสะพรึง เธอสามารถดึงเป้าหมายเข้าสู่ ‘สมรภูมิจิตวิญญาณ’ ที่ผู้ชนะจะได้ทุกสิ่ง ส่วนผู้แพ้จะเสียทุกอย่าง ถึงความตายในสมรภูมิแห่งนี้จะไม่ส่งผลต่อร่างในโลกแห่งความจริง แต่ถ้าฝ่ายไหนถูกบั่นทอนจิตวิญญาณและพละกำลังจนหมด ฝ่ายนั้นก็จะต้องติดอยู่ในที่แห่งนี้ไปตลอดกาล ส่วนผู้ชนะจะได้รับความทรงจำและความสามารถของผู้แพ้ไป โรแลนด์เองก็เคยถูกดึงเข้าสู่สมรภูมิจิตวิญญาณเช่นกัน ส่วนผลแพ้ชนะจะเป็นอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ใน ‘ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ เล่ม 10’

ถัดมาคือหนึ่งในแม่มดอาวุโสของเมืองเนเวอร์วินเตอร์ อกาธาผู้หลับใหลอยู่ในโลงน้ำแข็งมานานหลายร้อยปีนั่นเอง ในอดีตเธอเป็นถึงแม่มดระดับสูงของคณะค้นคว้าศาสตร์ลึกลับผู้ได้รับฉายาว่าอัจฉริยะแห่งทาคิลา เมื่อตื่นมาอีกครั้งในยุคของโรแลนด์ เธอก็หมกมุ่นอยู่กับการค้นคว้าทางเคมีจนแทบไม่อยากปลีกตัวออกจากห้องทดลอง

พลังวิเศษของเธอเรียกได้ว่าคล้ายคลึงกับอันนา แต่เป็นในทางตรงกันข้ามเพราะเธอสามารถลดอุณหภูมิโดยรอบและทำให้สสารแข็งตัวได้ นอกจากนี้อกาธายังสามารถเรียกน้ำแข็งให้มาเป็นโล่ป้องกันหรืออาวุธโจมตีได้ นับว่าเป็นแม่มดที่มีทักษะในการต่อสู้คนหนึ่งเลยทีเดียว

เห็นหญิงสาวผมสีทองผู้มาพร้อมธนูแบบนี้ จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่แอนเดรีย ควินน์ ในเรื่องจะเห็นเธอคอยจิกกัดและแข่งขันกับแอชเชสอยู่เสมอแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

พลังของแอนเดรียจัดอยู่ในประเภทเรียกใช้ เธอสามารถใช้อาวุธประเภทยิงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำราวกับจับวาง นอกจาก ‘คันธนูเวท’ สีทองที่มักเรียกออกมาใช้เป็นประจำแล้ว แอนเดรียยังได้รับปืนไรเฟิลที่โรแลนด์ผลิตขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ นั่นทำให้เธอกลายเป็นพลซุ่มยิงคนแรกของเมืองเนเวอร์วินเตอร์

สิ่งที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับแอนเดรียไม่ได้มีแค่เรื่องพลังเท่านั้น พื้นเพของเธอเองก็น่าสนใจมากไม่แพ้กัน มิหนำซ้ำยังอาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนบางอย่างด้วย

ไหนๆ พูดถึงแอชเชสแล้วจะไม่แนะนำต่อก็คงไม่ได้ เธอเป็นหนึ่งในแม่มดอมนุษย์ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากศิลาลงทัณฑ์แห่งพระเจ้า ซ้ำยังมองเห็นพลังวิเศษที่อยู่ในตัวแม่มดได้รางๆ แอชเชสถือเป็นแม่มดคนแรกๆ ที่ติดตามทิลลีไปยังเกาะสลีปปิง ความรักและความจงรักภักดีที่เธอมีต่อทิลลีเรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้

เดิมทีแอชเชสมีฝีมือด้านการต่อสู้อยู่แล้ว หลังพบกับทิลลีก็ได้เรียนรู้การใช้ดาบมากขึ้น พลังวิเศษของเธอจัดอยู่ในประเภทเสริมสร้างตัวเองไม่ต่างจากบุ๊ก แอชเชสจึงมีสมรรถภาพทางกายแข็งแกร่งกว่าแม่มดส่วนใหญ่ การโจมตีเองก็รวดเร็วและทรงพลัง จะกองทัพของศาสนจักรหรือว่าปีศาจก็ไม่อาจทำอะไรเธอได้ อาวุธประจำตัวของแอชเชสคือดาบแอชบริงเกอร์ที่โรแลนด์วานให้อันนาช่วยตีขึ้นให้เธอ

ขอปิดท้ายด้วยแม่มดผู้ตื่นรู้ในวังหลวงของอาณาจักรเกรย์คาสเซิล ทิลลี วิมเบิลดันผู้เป็นน้องสาวของโรแลนด์นั่นเอง เธอเป็นผู้บุกเบิกเกาะสลิปปิงให้เหล่าแม่มดที่หนีการไล่ล่าของศาสนจักรได้พักพิง ซ้ำยังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่พอจะเดาได้ว่าโรแลนด์ผู้นี้ไม่ใช่คนเดียวกับเจ้าชายลำดับที่สี่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เปิดโปง แถมยังคอยให้ความร่วมมือกับโรแลนด์มาตลอดด้วย

ทิลลีเป็นหนึ่งในแม่มดอมนุษย์ที่มีพลังจัดอยู่ในประเภทเสริมสร้างตัวเอง ศิลาลงทัณฑ์แห่งพระเจ้าย่อมทำอะไรเธอไม่ได้ ทิลลีค่อนข้างเชี่ยวชาญการกรอกพลังใส่หินเวทมนตร์ ทำให้เธอสามารถลอยขึ้นสู่ฟ้าโดยอาศัยศิลาโบยบิน มิหนำซ้ำยังมีสติปัญญาที่ฉลาดปราดเปรื่องเหนือมนุษย์ทั่วไป ทิลลีจึงเป็นหนึ่งในแม่มดที่มักมีส่วนในการวางแผนและช่วยงานเรื่องการศึกษาอยู่บ่อยครั้ง

เอาละ ทีนี้คงพอจำประวัติคร่าวๆ ของแม่มดทั้ง 11 คนได้แล้ว แต่แน่นอนว่าหลังจากนี้ยังมีแม่มดที่รอให้ทุกคนได้พบเจอและตื่นตากับพลังของพวกเธออีกมาก ส่วนแม่มดคนไหนจะได้ขึ้นปกในเล่ม 16 คงต้องขอให้ทุกคนช่วยติดตามกันแล้ว ถ้าใครยังขาดเล่มไหนอยู่ สามารถจับจองได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลย

ช่องทางการช้อป
Jamsai Store / JamClub  คลิกเลย!
Line Official : @Jamsai
Shopee : Enterbooks_Official  คลิกเลย!
Fanpage : Jamsai Store / ENTER BOOKS
ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ