• Connect with us

    Enter Books

    Uncategorized

    10 ตำนานอาวุธขั้นเทพ! ของเหล่าเทพเจ้า

    ในโลกของเรามีตำนานเทพเจ้าอยู่มากมายในแต่ละพื้นที่บนโลก บางตำนานถูกนำไปดัดแปลงเป็นนิยายปกรณัมที่เล่าเกี่ยวกับเทพเจ้าเหล่านั้นอย่างเช่น‘เพอร์ซีย์ แจ็กสัน’ (ปกรณัมกรีก)‘แม็กนัส เชส’ (ปกรณัมนอร์ส)หรือจะเป็นตำนานโบราณของเทพเจ้าฝั่งเอเชียอย่างเช่น ญี่ปุ่น จีน เป็นต้น

    นอกจากพลังระดับเทพเจ้าแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเทพซ่าทั้งหลายมีอำนาจมากกว่ามนุษย์นั่นก็คือ‘อาวุธ’ เทพเจ้าแต่ละองค์ต่างก็มีอาวุธที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติที่แตกต่างกัน และเรื่องราวของอาวุธเหล่านี้ก็น่าสนใจไม่แพ้เรื่องราวของพวกเทพเลย

    วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ ‘10 ตำนานอาวุธขั้นเทพ’ ของเหล่าเทพเจ้าให้อ่านกัน

     

    1. ‘สายฟ้า’ ของซูส

    ถ้าจะกล่าวถึงอาวุธของเทพเจ้าที่ทรงพลังมากที่สุด ‘สายฟ้าของซูส’คงเป็นหนึ่งใน TOP 5 อย่างไม่ต้องสงสัย ตามประวัติศาสตร์ไม่ได้ระบุไว้ว่าใครเป็นคนสร้างสายฟ้าของซูสแต่จากเรื่องเล่าตำนานโบราณได้กล่าวว่า สายฟ้าของซูสเป็นพลังที่ออกมาจากตัว

    ซูสเองเพียงแต่ถูกทำให้อยู่ในรูปลักษณ์ของอาวุธเท่านั้น ความสามารถของมันคือสามารถเรียกสายฟ้าทำให้เกิดฟ้าคะนองและสามารถใช้โจมตีได้อีกด้วย

     

    2. ‘ตรีศูล’ แห่งโพไซดอน

    ลองลงมาจากสายฟ้าของซูส จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘ตรีศูลโพไซดอน’ในความหมาย ‘ตรี’แปลว่า สาม ส่วนคำว่า ‘ศูล’แปลว่า ปัญหาหรือความทรมาน

    ตรีศูลทั่วไปเป็นอาวุธที่เป็นเหมือนหอกสามแฉก ส่วนใหญ่เป็นอาวุธของนักรบชั้นสูง

    ตรีศูลโพไซดอนสามารถควบคุมน้ำได้ทุกที่อีกทั้งยังเป็นที่กักเก็บคำสาปแห่งท้องทะเลที่อยู่ในเรื่อง‘เดอะไพเรท ออฟ เดอะ แคริบเบียน’ นับว่าเป็นอาวุธของเทพเจ้าที่โกงพอๆ กับสายฟ้าของซูสเลยทีเดียว

     

    3. ‘โล่อีจีส’ แห่งอาธีน่า

    คราวนี้เรามากันที่อาวุธของเทพเจ้าเพศหญิงกันบ้าง อาธีน่าเทพีแห่งสติปัญญาและการศึก

    อาวุธคู่กายของนางคือ ‘โล่อีจิส’ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก โล่อีจิสเป็นสิ่งที่อาธีน่าได้รับสืบทอดมาจากซูสผู้เป็นพ่อ นามว่า Aegis มาจากภาษาละตินโบราณแปลว่า ‘โล่แห่งเทพซูส’ แต่ในภาษาอังกฤษจะมีความหมายว่า ‘การป้องกันสูงสุด’

    อาธีน่าเคยใช้โล่อีจิสนี้ในการต่อสู้กับเมดูซ่าที่มีความสามารถสาปให้ผู้ที่มองตากลายเป็นหินนางจึงใช้วิธีมองผ่านโล่ที่ใสเหมือนกระจกและชนะเมดูซ่าได้ในที่สุด

     

    4. ‘หอกกุงนีร์’ ของมหาเทพโอดิน

    หอกกุงนีร์ถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มลูกหลานของอีวัลดี โดยช่างดวาร์ฟชื่อ ‘ดวาลิน’

    เป็นหอกประจำตัวของเทพเจ้าโอดินราชาแห่งเหล่าทวยเทพ ชื่อ‘กุงนีร์’มีความหมายว่า ‘เจ้าแห่งการกวัดแกว่ง’ ความสามารถของมันคือ เมื่อผู้ใช้ได้ปาหอกไปยังเป้าหมายมันจะไม่มีทางพลาดเป้าเพราะมันจะทำหน้าที่เหมือน GPSที่จะตามเป้าหมายไปจนกว่าจะเข้าเป้า

     

    5. ‘ค้อนโยเนียร์’ ของเทพเจ้าสายฟ้าธอร์

    คงไม่มีใครไม่รู้จักอาวุธชนิดนี้ เพราะถ้านับจากอาวุธเทพเจ้าทั้งหมดแล้ว ‘ค้อนโยเนียร์’ นับว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะด้วยชื่อเสียงจากภาพยนตร์ นิยาย  หรือตำนานโบราณ เรื่องเล่าเกี่ยวกับค้อนนี้ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำให้มันเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

    ‘ค้อนโยเนียร์’ เป็นอาวุธคู่กายของเทพเจ้าธอร์ จากตำนานเล่าว่าค้อนอันนี้ถูกสร้างขึ้นจากช่างตีเหล็กชาวดวาร์ฟมอบให้แก้โอดินเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการ และถูกส่งต่อมาให้ธอร์ต่อไปในภายหลัง ค้อนนี้สามารถเรียกลมฝนฟ้าคะนองได้ อีกทั้งยังสามารถเรียกสายฟ้ามาเป็นอาวุธในการต่อสู้ได้อีกด้วย

     

    6. ‘ดาบบัลมุงก์’ ดาบสายฟ้าของโอดิน

    มีค้อนสายฟ้าไปแล้วทำไมจะมีดาบสายฟ้าไม่ได้ ดาบบัลมุงก์ปรากฏในตำนานชาวเยอรมัน ดาบเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเวย์แลนและโอดิน ตามตำนานเล่าว่าโอดินได้นำดาบเล่มนี้ไปปักไว้กับต้นโอ๊กในพระราชวังโวลซังและได้ร่ายมนต์คาถาเอาไว้เวลาผู้ใดก็ตามที่ดึงดาบเล่มนี้ได้เขาผู้นั้นจะชนะในการศึกและผู้ที่ดึงดาบเล่มนี้ได้ก็คือน้องคนสุดท้องแห่งโวลซังมีนามว่าซิกมัลและส่งต่อให้ลูกของเขาจนกลายเป็นตำนานอัศวินซิกฟรีด ครั้งหนึ่งโอดินได้ทำลายดาบเล่มนี้ทิ้งไปและก็ได้ผู้กล้านามว่าฟลัฟเนียร์หลอมขึ้นมาใหม่ในที่สุด

     

    7. ‘ดาบคุซานางิ’ ของเทพวายุซูซาโนโอะ

    ครั้งนี้เราข้ามมาที่ฝั่งเอเชียกันบ้าง ดาบคุซานางิมีความหมายว่า ‘ดาบตัดหญ้า’ เป็นหนึ่งในเครื่องราชศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่นที่มีอยู่3 ชิ้น ได้แก่ กระจกยาตะ  แก้วยาซากะนิ  และดาบคุซานางินั่นเอง

    ตำนานเล่าว่าเทพซูซาโนโอะถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์ได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวจาก

    งูยักษ์ 8 หัว นามว่ายามาตาโนะโอโรจิ และเมื่อปราบมันได้ซูซาโนโอะสังเกตเห็นแสงสว่างที่หางของยามาตาโนะโอโรจิ เมื่อผ่าออกมาดูก็ได้พบกับดาบคุซานางิ จึงนำดาบไปคืนให้แก่เทพีอามาเทราสุเพื่อไถ่โทษ ว่ากันว่าเทพีอามาเทราสุเป็นต้นตระกูลของจักรพรรดิญี่ปุ่นจึงได้มีการสืบทอดดาบคุซานางิมาจนถึงปัจจุบัน

     

    8. ‘กระบองกายสิทธิ์’ ของซุนหงอคง

    หลายคนคงคุ้นเคยกระบองคู่กายของซุนหงอคงเทพเจ้าวานรของเราเป็นอย่างดี แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นกระบองซะทีเดียวกระบองกายสิทธ์ของหงอคงมีชื่อว่า ‘ยูอี่’ซึ่งเคยเป็น ‘เสาค้ำมหาสมุทร’ แต่ว่าหงอคงได้ไปชิงมาจากเทพมังกรแห่งทะเลใต้ในสมัยที่หงอคงไปป่วนสวรรค์และทดสอบพละกำลังเขาก็ได้ถูกใจเสาต้นนี้และนำมาเป็นอาวุธประจำตัว กระบองยูอี่มีความสามารถในการยืดหดอีกทั้งยังสามารถขยายหรือย่อขนาดเท่าไรก็ได้อีกด้วย

     

    9. ‘เอกซ์แคลิเบอร์’ แห่งกษัตริย์อาเธอร์

    เอกซ์แคลิเบอร์เป็นดาบในตำนานที่ว่ากันว่าผู้ใดที่สามารถดึงดาบเล่มนี้ออกจากศิลาได้จะมีสิทธิ์อันชอบธรรมในการครองแผ่นดินอังกฤษ ในบางครั้งดาบเล่มนี้จึงถูกเรียกว่า ‘ดาบศิลา’แต่ในบางตำนานได้กล่าวว่าดาบเอกซ์แคลิเบอร์เป็นของกษัตริย์อาเธอร์มาตั้งนานแล้วและกษัตริย์อาเธอร์ไม่ได้เอาดาบมาจากศิลาแต่มีท่านหญิงแห่งทะเลสาบเป็นผู้มอบดาบให้หลังจากที่กษัตริย์อาเธอร์ได้ครองบัลลังก์แล้ว ดาบเอกซ์แคลิเบอร์มีความสามารถในการตัดได้ทุกสิ่งแม้แต่เหล็กกล้าที่เป็นแร่ที่แข็งแกร่งก็ไม่ใช่ปัญหาของเอกซ์แคลิเบอร์

     

    10. ‘ง้าวมังกรเขียว’ ของเทพเจ้ากวนอู

    มาถึงอาวุธชิ้นสุดท้ายของเหล่าเทพเจ้านั่นก็คือ ‘ง้าวมังกรเขียว’ ของเทพเจ้ากวนอูหนึ่งในห้าทหารเสือของจ๊กก๊ก ตัวง้าวมีขนาดใหญ่ประดับด้วยลายรูปมังกรยาว 3 เมตร และมีน้ำหนักถึง 45 กก. เป็นง้าวที่กวนอูใช้ในการสังหารขุนพลฝ่ายตรงข้ามมากมาย จนเมื่อกวนอูถึงแก่ความตายง้าวอันนี้ได้ตกไปเป็นสมบัติของซุนกวนแห่งง่อก๊กและได้มอบให้แก่พัวเจี้ยง ต่อมาพัวเจี้ยงได้ใช้ง้าวอันนี้เข้าต่อสู้กับกวนหินลูกชายของกวนอูและพ่ายแพ้ สุดท้ายกวนหินจึงได้ง้าวมังกรเขียวของผู้เป็นบิดากลับมา

     

    ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของอาวุธเทพเจ้าที่ปรากฎในภาพยนตร์และนิยายทั่วไป อาวุธเป็นสิ่งที่มาคู่กับเทพเจ้าเสมอตั้งแต่อดีตไม่ว่าจะเป็นตำนานที่มีตัวตนอย่าง ‘ง้าวมังกรเขียว’ของกวนอู ไปจนถึงสิ่งที่ถูกส่งต่อมายังยุคปัจจุบันอย่าง ‘ดาบคุซานางิ’ เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวของอาวุธเหล่านี้มีที่มาที่ไปและความสนุกไม่ต่างจากเรื่องของเหล่าเทพเจ้าเลย

     

    ท้ายที่สุดแล้วตำนานเหล่านี้ยังคงเป็นที่นิยมในการนำมาดัดแปลงในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือภาพยนตร์ ใครที่สนใจนิยายเกี่ยวกับเทพเจ้าและอาวุธกับตำนานที่ถูกเล่าขานผ่านการเล่าเรื่องสมัยใหม่ก็สามารถหาอ่านได้ที่ENTER BOOKS ของเรานี่เอง

     

    ขอขอบคุณรูปภาพอาวุธทั้งหมดจาก

    สายฟ้าของซุส : http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2012/09/A12721987/A12721987.html

    ตรีศูลโพไซดอน : https://peeseaw.blogspot.com/2017/02/poseidon.html

    โล่อีจิส : http://www.dj-i-robot.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB/

    หอกกุงเนียร์ : https://www.online-station.net/pc-console-game/view/60032

    ค้อนโยเนียร์ : http://www.majorcineplex.com/news/about-Mjolnir

    ดาบบัลมุงก์ : https://syndicasian.com/wp-content/uploads/2018/01/Mtxc-Fate-Apocrypha-Cosplay-SiegfriedSaber-Balmung-Prop-Sword-Sliver-0-3.jpg

    ดาบคุซานางิ : https://www.buyingasword.com/kusanagi-sword

    กระบองหงอคง : http://zanagun.blogspot.com/2018/02/ruyi-jingu-bang.html

    ดาบเอกคาลิเบอร์ : http://www.metalbridges.com/wp-content/uploads/2015/02/Excalibur-sword-4.jpg

    ง้าวมังกรเขียว : https://dynasty-warriors-mobile-thai.fandom.com/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B9

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in Uncategorized

    นิยายยอดนิยม

    Facebook