Chivalry ธรรมะแห่งอัศวิน

ก่อนอื่น อัศวินคืออะไร

อัศวินคือบรรดาศักดิ์อย่างหนึ่ง พื้นฐานดั้งเดิมของพวกเขา ‘นักรบ’ และไม่ใช่นักรบธรรมดาแต่เป็นนักรบบนหลังม้า ซึ่งในยุคสมัยนั้นถือว่าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในสงครามเลยก็ว่าได้ บรรดาอัศวินในยุคนั้นจะเป็นเสมือนทหารรับจ้างไปประจำอยู่ตามปราสาทต่างๆ ตามแต่จะถูกขุนนางคนไหนจ้างไป แต่ถึงจะบอกว่าเป็นนักรบบนหลังม้า แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เก่งถ้าไม่มีม้า เพราะคนที่ต้องสวมเกราะเหล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าสะพายดาบ รวมๆ หลายสิบกิโลออกไปฟาดฟันในสนามรบเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันๆ ได้ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่พวกเขาจะแข็งแกร่งมากเมื่ออยู่บนหลังม้า เพราะนักรบและม้าติดเกราะในยุคสมัยนั้นไม่ต่างอะไรจากรถที่วิ่งชนคนให้กระเด็นได้ง่ายๆ เมื่ออัศวินได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ (แบบมีชีวิตกลับมา) ก็อาจได้รับเงินทอง ที่ดิน ตามแต่รางวัลที่ตกลง หรืออาจได้แต่งงานเข้าตระกูลขุนนาง เพราะใครๆ ก็อยากมีนักรบที่เก่งกล้าไว้ใกล้ตัวในยามมีศึกสงคราม ทำให้มีนักรบมากมายที่ใช้สงครามดันตัวเองจากการเป็นชนชั้นล่างขึ้นเป็นกลุ่มชนชั้นกลางในยุคสมัยนั้น ในภายหลังอัศวินจึงไม่ใช่แค่ทหารรับจ้าง แต่อาจเป็นได้ถึงขุนนางผู้ครองที่ดินมีปราสาทมีเขตแดนของตัวเอง

แล้วระบบวีรคติมาจากไหน

อย่างที่เรารู้กันดีว่าแผ่นดินยุโรปในยุคสมัยนั้นมีสองสิ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนทั่วไป นั่นคือศาสนาคริสต์และสถาบันกษัตริย์ ซึ่งทั้งสองอย่างต่างก็มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และใช้อัศวินเป็นเครื่องมือในการทำสงครามเหมือนกัน อัศวินในสังกัดจึงเป็นทั้งหน้าตาของกษัตริย์และศาสนาด้วย จึงต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาชนทั่วไป ระบบวีรคติจึงถูกสร้างมา (แน่นอนว่ามันถูกใช้เพื่อควบคุมพฤติกรรมอัศวินด้วย) โดยอัศวินที่ดีจะต้องเก่งกาจ กล้าหาญ เด็ดขาด มีวินัยในฐานะนักรบ แต่ก็ต้องมีความสุภาพ เมตตา เสียสละ ให้เกียรติแก่ข้าศึกเมื่ออีกฝ่ายยอมแพ้ ช่วยเหลือเมื่อสตรีตกอยู่ในอันตราย ปกป้องคนชรา เด็ก หญิงหม้าย เป็นที่พึ่งพิงให้แก่คนอ่อนแอ

ด้วยเหตุนี้จึงมีบรรดาตำนานเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับอัศวินที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญอยู่เต็มไปหมด เพราะมันคือเงื่อนไขสำคัญในการเป็นอัศวินนั่นเอง และชุดเกราะกับม้าก็เป็นเครื่องแบบที่ทุกคนต้องมี จึงกลายเป็นภาพจำของทุกคนว่ากองทัพอัศวินขี่ม้าคือผู้ผดุงคุณธรรมที่แสนกล้าหาญ แต่ภายหลังการที่นักรบทั่วไปจะก้าวไปเป็นอัศวินด้วยตนเองจะไม่ง่ายอีกแล้ว เพราะบรรดาขุนนางจะให้ลูกหลานตนเองมาฝึกเป็นอัศวินตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบปี โดยให้ฝึกกับอัศวินตัวจริงเลย และการหาม้าและชุดเกราะที่ดีก็เกินกำลังกว่าคนยากจนจะหาได้

แต่ถึงอัศวินทุกคนจะผ่านการฝึกการคัดเลือกมาอย่างดี อย่างไรมนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ เมื่อเผชิญสงครามและความกดดันแม้จะเป็นอัศวินก็ไม่อาจไว้วางใจได้ แต่เอ็นเธอร์บุ๊คมีนิยายเกี่ยวกับอัศวินเรื่องหนึ่งที่เรารับประกันทั้งใจว่าอัศวินบนหลังม้าผู้นี้จะไม่สนไม่แคร์ธรรมะอัศวินอะไรนั่นแน่นอน!

เพราะถึงจะเป็นระดับหัวหน้ากองพันอัศวิน แต่ลูเธอร์ก็เป็นปีศาจเชียวนะ!

แล้วปีศาจมาเป็นอัศวินได้ยังไง หากอยากรู้ลองไปติดตามกันได้ในเรื่อง ‘Knight of Darkness ปีศาจอัศวิน’ ซึ่งเรื่องนี้มีถึงสองภาค และยังมีเล่มพิเศษอีกมากมาย เรียกว่าอ่านได้ยาวจุใจแน่นอน!