• Connect with us

    Enter Books

    มุมชงกาแฟ

    มหากาพย์จอมขุด (สุสาน) ภาคต้น

    หนึ่งในพล็อตหลักของนวนิยายหรือภาพยนตร์เห็นจะไม่พ้นการล่วงล้ำเข้าไปในสถานที่พิเศษแล้วพบเจอสิ่งแปลกประหลาดอัศจรรย์จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา โดยในบรรดาสถานที่พิเศษที่ตามปกติไม่ค่อยจะมีใครย่างกรายเข้าไปที่ว่า ‘สุสาน’ ก็เป็นสถานที่ยอดฮิตซึ่งหากเอาไปจัดอันดับล่ะก็คงไม่พ้นติดท็อป 3 และหากกล่าวถึงดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสุสานแล้วล่ะก็ เชื่อว่าในหัวทุกคนต้องผุดชื่อประเทศจีน แลนด์ออฟเอเวอรี่ติงขึ้นมาอย่างแน่นอน

    ด้วยว่าจีนเป็นแหล่งอารยธรรมลำดับต้นของโลก มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ชาวจีนและชนเผ่าน้อยใหญ่ในภูมิลำเนาหรือก็มากมาย ผ่านการปกครองมาแล้วหลายราชวงศ์ ดังนั้นจึงปรากฏสุสานขนาดใหญ่ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์อยู่หลายแห่ง โดยมากจะเป็นสุสานของบูรพกษัตริย์ทั้งหลายอันมีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่ของการศึกษาประวัติศาสตร์โบราณคดี ตลอดจนภูมิทัศน์สถาปัตยกรรม ซึ่งสุสานสำคัญที่ควรค่าแก่การพูดถึงนั้นจะมีที่ไหนบ้าง เรามาขุดดูกันดีกว่า

    สุสานราชวงศ์หมิง (The Ming Tombs)

    สุสานนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ ราว 40 ตารางกิโลเมตร บรรจุสุสานของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงไว้มากถึง 13 พระองค์ (จากทั้งหมด 16 พระองค์) จึงสมควรเรียกว่า ‘หมู่สุสาน’ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง เป็นสุสานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีความโดดเด่นด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แล้วยังเป็นสุสานที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับนำมาอ้างอิงถึงแผนผังการจัดวางโครงสร้างของสุสานหลวงตามคติชนจีน ซึ่งแน่นอนว่าต้องให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย

     

    ไฮไลท์ของสุสานราชวงศ์หมิงก็คือถนนสายยาวเชื่อมสุสานทั้ง 13 แห่งที่ตั้งกระจัดกระจัดทั่วทั้งหุบเขาเข้าด้วยกัน ได้รับการตั้งชื่อว่า เส้นทางศักดิ์สิทธิ์ (sacred path) เอาไว้ใช้ขนศพของจักรพรรดิเวลาที่จะนำไปฝัง ตลอดสองข้างทางของถนนความยาว 7 กิโลเมตร เรียงรายไว้ด้วยรูปปั้นแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ทหารในชุดเกราะ ขุนนาง หรือสัตว์ในตำนาน

    ในบรรดาสุสานย่อยทั้ง 13 แห่ง ที่มีความสำคัญที่สุดก็คือสุสานฉางหลิง อันเป็นสุสานของหย่งเล่อจักรพรรดิองค์ที่สามในราชวงศ์หมิง เป็นสุสานแรกในหมู่สุสานนี้ จึงมีขนาดใหญ่ที่สุดและได้รับการบูรณะดูแลอย่างดีที่สุด อีกทั้งยังตั้งอยู่สุดปลายเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ด้วย กล่าวถึงจักรพรรดิหย่งเล่อนั้น ทรงเป็นจักรพรรดิที่มีความสำคัญที่สุดของราชวงศ์หมิง ทรงสร้างผลงานเด่นๆ เอาไว้มากมาย อาทิ ย้ายเมืองหลวงจากหนานจิงมาที่ปักกิ่ง สร้างพระราชวังต้องห้าม แต่งตั้งเจิ้งเหอให้นำกองเรือออกไปสำรวจโลกภายนอก ฯลฯ

    สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี (The Mausoleum of the First Qin Emperor)

    สุสานแห่งนี้ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะทันทีที่มีการขุดพบที่เมืองซีอาน ก็ได้กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ตัวสุสานเป็นเนินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดูคล้ายปิรามิดอียิปต์ แต่ฐานกว้างกว่าและยอดไม่แหลม กลับเป็นที่ราบกว้างขวาง ถือเป็นสุสานที่เก่าแก่ที่สุดก็ว่าได้ เพราะเป็นที่ฝังพระศพของปฐมกษัตริย์จีน ผ่านกาลเวลาอันยาวนานสองพันกว่าปี ตัวห้องพระศพนั้นถูกขุดลึกลงไปใต้ดิน ส่วนตัวปิรามิดก็ไม่ได้มีอื่นใดนอกจากเนินดินที่ใช้แรงงานผู้คนเรือนแสนพูนขึ้นมาคลุมครอบไว้

    สุสานแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างยาวนาน 36 ปี ไฮไลท์คือรูปปั้นกองทัพทหารดินเผา ม้า และรถศึก ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ดิน เรียงเป็นแถวเป็นแนวอย่างเป็นระบบระเบียบ เป็นภาพที่อลังการน่าตื่นตะลึงอย่างมาก ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งขึ้นไปอีกก็คือหากสังเกตใบหน้าของทหารดินเผาแต่ละนายให้ละเอียดแล้วจะพบว่าไม่มีใบหน้าไหนที่ซ้ำกันเลย แน่นอนว่าสัดส่วนรูปร่างก็เท่ากับไซส์คนเรา ราวกับเป็นมนุษย์จริงๆ ก็ไม่ปาน

     

    มีตำนานเล่าถึงจักรพรรดิฉินสื่อหวงตี้ (จิ๋นซี) ว่าทรงแสวงหาความเป็นอมตะ ประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ระหว่างเสด็จประพาสไปยังชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเพื่อค้นหาเกาะเซียนในตำนาน ด้วยมุ่งหวังจะครอบครองโอสถทิพย์ (ยาอายุวัฒนะ) ดังนั้นพระองค์จึงมองตนเป็นดังเทพเซียน อยู่เหนือผู้ใดในหล้า มีบริวารเรือนหมื่นแสนที่ต้องติดตามรับใช้พระองค์แม้เป็นในโลกหลังความตาย จึงสะท้อนออกมาเป็นสุสานที่เหนือล้ำเกินกว่าความเป็นสถานที่เก็บพระศพไปมากแห่งนี้นั่นเอง

    สุสานเม่าหลิง (Maoling Mausoleum)

    เป็นสุสานของจักรพรรดิฮั่นอู่แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ชื่อสุสานนี้ไม่ได้ตั้งตามพระนามของพระองค์ แต่ตั้งตามสถานที่ตั้งนั่นคือหมู่บ้านเม่า ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซีอาน มณฑลส่านซี

    จักรพรรดิฮั่นอู่หรือพระนามเดิมว่าหลิวเช่อครองราชย์ยาวนานถึง 54 ปี (เป็นรองเพียงจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิงเท่านั้น) ซึ่งนับว่าหาได้ยากมาก พระองค์ทรงได้รับยกย่องว่าเป็นยอดกษัตริย์ที่ปรีชาในทุกๆ ด้าน ด้านการปกครองทรงปรับปรุงระบบการรับตำแหน่งขุนนางจากที่สืบทอดทางสายเลือดเป็นให้แต่ละท้องที่ส่งคนเก่งคนดีเข้ามาในวัง ด้านการทหารก็ขยายดินแดนไปได้ไกล ก่อเกิดวีรบุรุษหลายคนในยุคสมัยนี้ เช่น ฮั่วชวี่ปิ้ง (สุสานของฮั่วชวี่ปิ้งถูกสร้างไว้ใกล้ๆ กันกับสุสานเม่าหลิง) ด้านการค้าก็ทรงมองการณ์ไกลและบุกเบิกเส้นทางสายไหม นอกจากนี้ยังทรงโปรดปรานวรรณคดีและศิลปะหลากหลายประเภทอีกด้วย

    กล่าวกันว่าหลังจักรพรรดิฮั่นอู่ขึ้นครองราชย์ได้ไม่นานก็ทรงใช้เงินภาษีถึง 1 ใน 3 มาก่อสร้างสุสานของพระองค์ ภายในสุสานเต็มไปด้วยสมบัติพัสถานล้ำค่ามหาศาล ทั้งเครื่องเงินเครื่องทอง ข้าวของเครื่องใช้ รูปปั้นตุ๊กตา และบรรณาการจากต่างแดน จึงไม่แปลกใจเลยที่สุสานแห่งนี้จะถูกโจรขโมยขุดอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีข้าวของมีค่าอีกมากมายนักจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ของสุสานเม่าหลิง แสดงให้เห็นได้อย่างดีถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของอาณาจักรจีนในรัชสมัยของพระองค์ โดยสมบัติจัดแสดงชิ้นสำคัญก็คือรูปหล่อทองคำม้าโลหิต อันมีความประณีตสวยงามและถูกต้องตามหลักสรีระของม้าชั้นเลิศ

    สุสานทั้งสามที่นำเสนอไปนี้คือที่ฝังพระศพของจักรพรรดิผู้เป็นมหาบุรุษแห่งยุคสมัย แต่ยังมีสุสานน่าสนใจอีกมากมายนักในแดนมังกร ในครั้งหน้าเราจะมาว่ากันต่อถึงสุสานของสตรี!

     

    To be continued…

    ภาพประกอบจาก

    National Geographic
    crystalinks.com
    Pinterest
    brainexplor.blogspot.com
    Wikipedia
    travel china guide.com

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in มุมชงกาแฟ

    นิยายยอดนิยม

    Uncategorized

    สุดมันกับนิยายเรื่องใหม่ เล่มต่อ และเล่มจบ ที่ทุกท่านรอคอย… บูธ ENTER BOOKS Q02

    บูธ ENTER BOOKS Q02 งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 21 ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย...

    Facebook