• Connect with us

    Enter Books

    หนังสือเอ็นเธอร์

    Stockholm Syndrome หลง-ลัก-อาชญากร

    คนเราจะหลงรักคนเลวได้หรือเปล่า? คนจะรักและอดทนยอมให้คนที่เคยทำร้ายเราได้ไหม?

    หากคำถามนี้ถูกถามในสถานการณ์ปกติเชื่อเหลือเกินว่าคำตอบที่ได้คงออกมาในทิศทางเดียวกัน…คือไม่มันมีความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างหลงรักก่อนพบว่าร้าย และพบว่าร้ายก่อนจะรัก ซึ่งเรากำลังพูดถึงประเภทหลัง ถ้าหากคนคนนั้นถูกตีตราว่า ‘โจร’ ถึงจะยังไม่รู้ว่าคดีอะไร แต่เราก็คงไม่อยากจะเข้าใกล้แล้ว แต่...โลกนี้ก็ยังมีที่ว่างให้ความแปลกประหลาดเสมอ ฉะนั้นเราจะขยายคำถามให้ชัดเจนขึ้นอีกสักนิด

    ท่านผู้อ่านคิดว่าคนเราจะหลงรักและแต่งงานกับโจรที่เคยจับเราเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองกับตำรวจได้ไหม

    คำตอบคือ...ได้ เพราะมันเคยเกิดขึ้นแล้ว!

    แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุการณ์ปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป ทำให้บรรดานักจิตวิทยาต้องหันมาวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนได้ชื่อกลุ่มอาการนี้ว่า Stockholm Syndrome (สตอกโฮม ซินโดรม)

    ขอบคุณภาพจาก http://www.freeimages.com/photo/bullets-1-1544922

    ชื่อ Stockholm Syndrome ก็มีจากชื่อเมืองที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนั่นเอง โดยใน ค.ศ.1973 เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ได้เกิดคดีปล้นธนาคารขึ้น ซึ่งคนร้ายได้จับตัวประกันไว้ในนั้นนานเกือบ 5 วัน แต่ขณะที่ตำรวจจะบุกเข้าไปจับกุม ตัวประกันกลับเข้าปกป้องคนร้าย และหลังจากนั้นยังมีตัวประกันบางคนถึงขั้นแต่งงานกับคนร้ายเสียอีก

    ว่ากันอย่างง่ายๆ Stockholm Syndrome คือ อาการทางจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งมักเกิดกับตัวประกันหรือเชลยที่ถูกจับตัวไป และได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนร้ายจนเกิดความผูกพันขึ้นมาและเอนเอียงเห็นด้วยไปกับคนร้ายแต่ Stockholm Syndrome ไม่ได้มีความหมายในทางความผูกพันอย่างเดียว เพราะการถูกข่มขู่ว่าจะทำร้าย ให้อดอาหาร หรือฆ่าทิ้ง จนทำให้ตัวประกันรู้สึกหวาดกลัวจนร่วมมือ ก็จัดเป็น Stockholm Syndrome เช่นกัน

    ขอบคุณภาพจาก http://www.freeimages.com/photo/shadow-kiss-1464496

    เคสของ Stockholm Syndrome ที่มีชื่อเสียงมักเกี่ยวกับคดีลักพาตัวต่างๆ เราอาจเคยได้ยินว่าเหยื่อบางคนถูกจับตัวไปหลายปี และแม้จะมีอิสระพอสมควร แต่พวกเขาหรือเธอไม่กลับไม่ยอมหนี เพราะเหยื่อที่ถูกจับจะถูกปลูกฝังความคิดว่าหนีไปก็ไร้ประโยชน์ หรือหากพยายามหนีก็จะถูกทำร้ายหรือกักขัง หรือถูกฆ่า หากไม่ร่วมมือก็จะถูกทำร้ายอีก บรรดาเหยื่อจึงต้องอยู่ในสภาพจำยอมเหมือนกับทาส และบางครั้งจำต้องยอมร่วมมือก่ออาชญากรรมไปด้วย

    เคยมีคดีที่แม้คนร้ายมีเพียงคนเดียว แต่เหยื่อที่ถูกจับมามีหลายคน ก็ไม่มีใครคิดหนีหรือพยายามร่วมมือกันหาทางออกไป เพราะถูกปลูกฝัง Stockholm Syndrome เข้าไปแล้ว ทำให้รู้สึกไม่เชื่อใจกันคิดว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกับคนร้ายชวนให้คิดว่ากำลังถูกจับตาไม่มีทางหนีไม่มีทางออก จนหมดพลังใจที่จะต่อสู้หรือดิ้นรน และบางคนอาจทนอยู่ได้นานนับสิบปี ก็เพราะยอมรับได้ว่าคนร้ายก็มีด้านที่ทำดีต่อตนเองอยู่บ้าง (ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นคนลักพาตัวมานี่แหละ)

    ขอบคุณภาพจาก http://www.freeimages.com/photo/chain-1173519

    แน่นอนว่าพูดถึงตรงนี้ ก็คงจะพอมองออกกันแล้วว่าในนวนิยายหรือละครไทยก็มี Stockholm Syndrome แฝงอยู่หลายเรื่อง ที่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายตบตี ย่ำยี หรือกักขังไว้อย่างไรแต่สุดท้ายก็รักซึ่งเป็นมุมมองที่คนภายนอกยากจะเข้าใจ จึงมักเกิดคำถามและความเห็นว่า ทำไมถึงรักลง ทำไมมีโอกาสแล้วไม่หนีออกมา การถูกขังแบบนั้นให้ตายเสียยังดีกว่า แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่มีอาการ Stockholm Syndrome ก็เหมือนผู้มีป่วยทั่วไปที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น

    หรือบางคนแม้จะอยากตายแค่ไหนก็ทำไม่ได้ และไม่ใช่เพราะไม่มีวิธีด้วย แต่เพราะต้องอยู่ให้ได้ เหมือนอย่าง ‘เกรซ’ ในนวนิยายเรื่อง ‘Behind closed doors ปิด ประตู ตาย’ ที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องทนและห้ามยอมแพ้ แต่เป็นเพราะอะไรนั้น ท่านผู้อ่านทั้งหลายคงต้องไปตามหาเฉลยกันในเล่มเท่านั้น!

    Behind closed doors ปิด ประตู ตาย

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in หนังสือเอ็นเธอร์

    นิยายยอดนิยม

    Uncategorized

    สุดมันกับนิยายเรื่องใหม่ เล่มต่อ และเล่มจบ ที่ทุกท่านรอคอย… บูธ ENTER BOOKS Q02

    บูธ ENTER BOOKS Q02 งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 21 ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย...

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน เพลงยุทธ์ก้องหล้า เซียนสุราไร้เทียมทาน เล่ม 1 ครั้งที่ 2

      บทที่ 4 แม่น้ำแห่งอั้นเหอ   ความหนาวเย็นอ่อนๆ มาเยือนเมืองที่งดงามประณีตแห่งนี้ด้วยสายฝนที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อน กลิ่น...

    Facebook