• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 1

    หน้าที่แล้ว1 of 10

    บทนำ

     

    นางรู้ คนเหล่านั้นสามารถบุกเข้ามาได้ทุกเวลา

    ประสาทการฟังของนางไม่เคยว่องไวเท่านี้มาก่อน ได้ยินเสียงแผ่วเบาที่แว่วดังอยู่รอบด้านทุกเสียง ด้านนอกตำหนักฉางเซิงลมอุดรโหมกระหน่ำ กิ่งสนถูกหิมะตกกองค้างหนักจนบังเกิดเสียงเอียดอาด ในตำหนักมีเสียงเปรี๊ยะปร๊ะของไส้เทียนที่กำลังเผาไหม้จวนหมด เสียงเต้นถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ของหัวใจนางเอง และยังมี…ลมหายใจเข้าออกไม่เป็นจังหวะบนพระแท่นบรรทม องค์จักรพรรดินีผู้ประชวรกำลังถูกฝันร้ายเคี่ยวกรำหรือ

    “หว่านเอ๋อร์…”

    ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์หนาวยะเยือกไปทั่วร่าง เข็มปักทิ่มนิ้วชี้ นางไม่ทันคำนึงถึงความเจ็บปวด ผ้าเช็ดหน้าแพรไหมกับเข็มด้ายร่วงลงที่ข้างกาย พุ่งร่างไปยังข้างพระแท่นบรรทมอย่างว่องไวและเงียบเชียบราวกับแมว คุกเข่าที่เบื้องหน้าจักรพรรดินี

    นานหลายปีเหลือเกิน นางใช้ชีวิตลักษณะนี้จนกลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว

    “ฝ่าบาทมีพระประสงค์ใด”

    อู่เจ๋อเทียนดำรัสแผ่วเบา “อู่หลาง* …ลิ่วหลาง…”

    “พวกเขาอยู่ในวังอิ๋งเซียน กำลังอธิษฐานขอพรให้ฝ่าบาทหายประชวร” ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น แต่รู้สึกถึงมือเหี่ยวแห้งข้างหนึ่งลูบแก้มนาง จากข้างใบหน้าเลื่อนช้าๆ มาถึงหว่างคิ้ว นางมิอาจไม่เงยหน้าขึ้น

    พระเนตรทั้งสองของอู่เจ๋อเทียนครึ่งหลับครึ่งลืม “เจ้ากำลังทำอะไร”

    “หม่อมฉัน…กำลังทำงานปัก…”

    “งานปัก…ไม่ควรเลย มือของหว่านเอ๋อร์ต้องร่างหนังสือเขียนราชโองการให้เรา ไฉนหยิบเข็มด้ายขึ้นมาเล่า”

    ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ไร้วาจาตอบกลับ

    นิ้วพระหัตถ์ของอู่เจ๋อเทียนยังคงกดอยู่ที่ดอกเหมยบนหน้าผากนาง และทอดถอนพระทัยแผ่วเบาคราหนึ่ง “ดอกไม้นี้อยู่บนใบหน้าเจ้าจึงจะงามที่สุด”

    สายตาซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เลือนพร่าแล้ว ความเจิดจ้าและความงดงามทั้งหมดในชีวิตนี้ของนางล้วนใช้ความอัปยศและโลหิตแลกมา เรื่องนี้นอกจากตัวนางเองก็มีเพียงองค์จักรพรรดินีที่เข้าใจดีที่สุด กล่าวจากจุดนี้แล้ว หญิงชราเบื้องหน้าสายตาเป็นทั้งเจ้าชีวิตและที่พึ่งพาของหว่านเอ๋อร์ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้รู้ใจเพียงหนึ่งเดียวของนาง

    “หว่านเอ๋อร์เหตุใดเจ้าจึงตื่นกลัวเช่นนี้”

    หัวใจของซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เต้นตึกๆ คราหนึ่ง สายพระเนตรของจักรพรรดินีคล้ายกระบี่แหลมคมทิ่มแทงตรงเข้ามา ในขณะที่นางหลบเลี่ยงจนมิอาจหลบเลี่ยงแล้ว ทันใดนั้นประตูตำหนักพลันถูกคนผลักเปิดออกรุนแรง!

    ลมหนาวพัดหอบเอาเสียงฝีเท้าสับสนวุ่นวาย เสียงดาบกระบี่ปะทะ กระทบกับเสียงหวีดร้องของนางกำนัลดังแว่วเข้ามาพร้อมกัน

    เลือดหยดเป็นทางจากประตูตำหนักเข้ามาด้านใน จากนั้นซั่งกวนหว่านเอ๋อร์จึงเห็นศีรษะมนุษย์สองหัวที่หลี่ตัวจั้วแม่ทัพราชองครักษ์หน่วยอวี่หลินถืออยู่ในมือชัดเจน

    อู่หลาง ลิ่วหลาง

    * หลาง เป็นคำเรียกบุรุษในสมัยโบราณ ใช้ต่อท้ายชื่อ บางสมัยมีนัยเชิงให้เกียรติยกย่อง บางท้องถิ่นแสดงถึงความเอ็นดูและเป็นกันเอง

    หน้าที่แล้ว1 of 10

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook