บทที่ 2
ขณะกำลังคุยกัน หม่าซานก็โทรมาหาผม บอกว่ามีไปรษณีย์ช้าพิเศษสำคัญฉบับหนึ่งส่งมาถึงผม พนักงานยืนกรานว่าผมต้องไปเซ็นรับต่อหน้า คนอื่นรับแทนไม่ได้
ผมจึงได้แต่ต้องขอตัวกลับก่อน แต่ก่อนไปผมได้บอกบอดใหญ่จ้าวว่าให้คอยสังเกตดู ถ้าพวกเจวียนจื่อไม่ได้กลับมาให้เขารีบแจ้งความ
อีกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุอินทรียักษ์มาลักคนไปอีก จึงให้วางตาข่ายดักนก ตั้งแท่นนกอินทรีในทุ่งล่าสัตว์ ถ้ามันมาอีกก็ต้องจับเจ้าระยำนั่นให้ได้!
ผมรีบขับรถกลับ พอไปถึงข้างร้าน ผมก็เซ็นรับเอกสารฉบับดังกล่าว
ใช่ไปรษณีย์ช้าจริงๆ!
วันเวลาที่ระบุไว้หน้าซองคือเมื่อห้าปีก่อน เป็นจดหมายที่ส่งมาเมื่อห้าปีที่แล้ว
ผมโมโห จดหมายนี้เป็นจดหมายเมื่อห้าปีก่อน แต่พวกเขาเพิ่งส่งมาถึง หนำซ้ำยังยืนกรานให้ต้องมาเซ็นรับต่อหน้าอีก แบบนี้จงใจแกล้งกันชัดๆ!
ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่ขนาดไหน ผ่านไปห้าปีทุกอย่างย่อมกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปหมดแล้ว ยังจะมีอะไรสำคัญอีก!
ผมกวาดตามองดูชื่อผู้ส่ง แต่แล้วผมก็ต้องตะลึง คนที่ส่งมาชื่อ “กู่เทียนอี…” นี่มันชื่อน้าเล็ก!
เมื่อห้าปีก่อนน้าเล็กส่งจดหมายฉบับนี้มาหาผม!
ผมไม่อยากเสียเวลาทะเลาะกับบริษัทขนส่งจึงรีบแกะจดหมายออกอ่าน อยากรู้ว่าในจดหมายเขียนอะไรเอาไว้ แต่หลังเปิดจดหมายออกดู ผมกลับพบว่าด้านในมีเพียงความว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยแม้แต่น้อย
นี่มันเรื่องอะไรกัน ใครขโมยเอาจดหมายที่อยู่ข้างในไป!
ผมโมโห ลากตัวพนักงานมาถาม “นี่มันอะไรกัน แล้วจดหมายที่อยู่ข้างในหายไปไหน หรือว่าพวกนายแอบฉีกอ่านก่อนแล้ว?”
พนักงานขนส่งอธิบายอยู่ครึ่งค่อนวัน ผมถึงเข้าใจว่าตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่
เขาบอกว่าบริษัทของพวกเขาไม่ใช่บริษัทขนส่งทั่วไป หากแต่เป็นบริษัทขนส่งช้า บริการของพวกเขาไม่เหมือนกับบริการขนส่งพวกนั้น บริษัทขนส่งด่วนเป้าหมายอยู่ที่เร็ว ส่วนพวกเขามีเป้าหมายอยู่ที่ช้า พูดง่ายๆ ก็คือคุณสามารถเขียนจดหมายหรือพัสดุบรรจุของอะไรบางอย่างไว้ กำหนดให้พวกเขาส่งของให้ใครบางคนตามวันเวลาที่กำหนดหลายปีให้หลัง หรือจะส่งให้ตัวเองในอนาคตก็ได้
จดหมายที่ผมได้รับฉบับนี้เป็นจดหมายที่ลูกค้าคนหนึ่งมาใช้บริการของพวกเขาเมื่อห้าปีก่อน ส่วนในจดหมายมีอะไร แล้วทำไมต้องส่งถึงผมด้วยนั้น พวกเขาไม่รู้แม้แต่น้อย
ใจผมเต้นโครมคราม ห้าปีก่อนตอนนั้นผมเพิ่งมาอยู่ที่ร้าน
ปัญหาสำคัญของไปรษณีย์ช้าคือตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีนับจากนั้นที่อยู่ของผู้รับต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะไม่มีทางได้รับมัน
นั่นก็หมายความว่าน้าเล็กมั่นใจแต่แรกแล้วว่าผมต้องอยู่ที่ร้านนี้นานถึงห้าปีแน่ และยังล่วงรู้ถึงฐานะของผม ถ้าอย่างนั้นทำไมเข้าต้องส่งจดหมายเปล่าให้ผม
บนจดหมายมีเว็บไซต์ของบริษัทขนส่งอยู่ หลังจากค้นหาอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็พบว่ามันตั้งอยู่ที่ลาซา
ห้าปีก่อนน้าเล็กเข้าไปบริษัทขนส่งช้า ส่งจดหมายมาให้ผมฉบับหนึ่ง
แม่งเอ๊ย ผมสบถออกมาคำหนึ่ง นี่หมายความว่ายังไงกันแน่!
น้าเล็กที่ผมรู้จักจัดได้ว่าเป็นคนละเอียดรอบคอบ เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งของเหลวไหลไร้สาระมาให้ผม หนำซ้ำยังส่งมาตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว
ผมคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรเรียกบอดใหญ่จ้าวให้แวะเข้ามาหาผมที่ร้าน
บอดใหญ่จ้าวพินิจพิจารณาจดหมายอยู่ครู่หนึ่ง พอมั่นใจว่าในจดหมายฉบับนี้เป็นเพียงจดหมายเปล่า เขาก็เริ่มลงมือวิเคราะห์ว่าจะทำยังไงต่อ
วิธีการของเขาไม่มีอะไรยุ่งยาก เขาบอกว่าไม่ต้องสนเรื่องสามเจ็ดยี่สิบเอ็ดอะไรทั้งนั้น พวกเรามุ่งหน้าไปลาซา หาคนของบริษัทขนส่ง ถามดูให้กระจ่างเท่านั้นก็พอ บางทีนายห้างอาจเพราะมีคำพูดบางอย่างที่ไม่อาจเขียนไว้ในจดหมาย เลยไหว้วานให้คนพวกนั้นบอกกับผมต่อหน้าก็เป็นได้