บทที่1การตอบโต้ของชาวนา
ในตำหนักเงียบสนิท ไม่มีใครโต้ตอบคำพูดของหนิงเชวีย
นี่ไม่ได้หมายถึงคำพูดของมันไม่มีพลัง ความจริงคำพูดเหล่านี้เหมือนสายฟ้ามากมายฟาดอยู่ในห้วงสมองของเหล่าขุนนาง ทำให้พวกมันอยู่ในสภาพงุนงง
ขุนนางผู้หนึ่งออกมายืนนอกแถว ชี้นิ้วสั่นระริกไปที่หนิงเชวีย คิดด่ามันว่าเลือดเย็นและไร้ความละอาย
หนิงเชวียมองคนผู้นั้นนิ่ง สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ ขุนนางผู้นั้นโกรธจนริมฝีปากสั่น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา สุดท้ายนิ้วของขุนนางผู้นั้นก็ตกลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ตั้งแต่เรื่องการปลอมแปลงพระราชโองการถูกเปิดโปง ขุนนางของต้าถังก็แบ่งเป็นสองฝ่าย ทว่าเมื่อเห็นแคว้นกำลังจะล่มสลาย ความแตกแยกและความเป็นศัตรูต่อกันจึงถูกบังคับให้สงบลง
ขุนนางหลายคนคำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ เกลี้ยกล่อมให้ตัวเองไม่สนใจเรื่องพระราชโองการเป็นการชั่วคราวเพื่อไม่ให้ต้าถังต้องเกิดสงครามภายในอย่างเต็มรูปแบบ ทว่าใครเลยจะคิด หนิงเชวียเข้าวังมาคุยกับองค์หญิงร่วมคืน ขณะที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าเรื่องราวกำลังจะอยู่ในความควบคุมแล้ว มันกลับ…ชักดาบฟันจักรพรรดิสิ้นพระชนม์!
หลังจากที่โกรธและกลัวอย่างสุดขีด ขุนนางเหล่านี้ที่เคยพบเจอมรสุมมามากมายกลับสงบลงได้อย่างรวดเร็วและต่างตะลึงเมื่อพบว่าสิ่งที่หนิงเชวียพูดคือข้อสรุปที่ดีที่สุด
จักรพรรดิหลี่ฮุยหยวนถูกสังหาร สายเลือดของจักรพรรดิองค์ก่อนจึงเหลือเพียงองค์ชายหก ขุนนางทั้งหลายนอกจากสนับสนุนองค์ชายหกขึ้นครองราชย์แล้วยังเหลือทางเลือกอื่นใดอีกเล่า ขุนนางในราชสำนักและขุนศึกที่สู้รบหลั่งเลือดอยู่ในแนวหน้า รวมถึงราษฎรที่สุดท้ายแล้วต้องรู้เรื่องการปลอมแปลงพระราชโองการอย่างแน่นอนก็ไม่ต้องเลือกฝ่ายแล้ว ต้าถังก็ไม่ต้องแตกแยกแล้ว
ไม่ต้องเลือกคือทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จริงเหตุผลข้อนี้ทุกคนต่างรู้ แต่ไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนต้าถัง มีเพียงหนิงเชวียที่ทำได้ เพราะมีเพียงหนิงเชวียที่กล้าทำ
การปลอมแปลงพระราชโองการของจักรพรรดิองค์ก่อนถือเป็นกบฏ ไม่ว่าใครล้วนต้องถูกประหาร ต่อให้เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่หรือองค์หญิงก็ไม่อาจหนีพ้นการพิพากษาตามกฎหมายของต้าถัง ทว่าเมื่อเรื่องเกิดขึ้นจริง ใครเล่าจะกล้าลงมือ
มีแต่หนิงเชวียที่ไม่ให้โอกาสหลี่ฮุยหยวนแก้ต่างหรือขอร้อง ไม่ให้เวลาผู้ใดได้ไตร่ตรองก็ลงดาบประหาร นี่เรียกว่าไม่สอนสั่งก็ลงโทษ
การตวัดดาบที่เรียบง่ายนี้แสดงให้เห็นความคิดจิตใจที่สงบนิ่งถึงขั้นเลือดเย็นของมัน เป็นตัวแทนของสถานศึกษาที่เพิกเฉยต่ออำนาจของจักรพรรดิ ทำให้ผู้คนหวาดกลัวสุดขีด
บัดนี้ขุนนางและนายทหารทั้งหลายยังจะทำอะไรได้ การกระทำเช่นกบฏของหนิงเชวียย่อมสามารถหาข้ออ้างที่แน่นหนาประดุจเหล็กกล้าจากกฎหมายของต้าถังได้ หากแต่ใครจะกล้าพูดว่ามันปลงพระชนม์ ในเมื่อภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันไม่สมควรยั่วโทสะของสถานศึกษาผู้เป็นที่พึ่งสุดท้ายของต้าถัง
ขุนนางทั้งหลายมองหนิงเชวียที่ยืนอยู่เยื้องบัลลังก์ มองศพของจักรพรรดิที่จมในกองเลือด อารมณ์บนใบหน้าค่อนข้างซับซ้อน…โกรธ เสียใจ งุนงง ระแวง หวาดกลัว…แตกต่างกันไป
ยังไม่มีผู้ใดโต้ตอบคำพูดของหนิงเชวีย ความเงียบสนิทยังดำเนินไปดุจเดิม ล้วนเป็นเพราะอารมณ์ถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และเพราะพวกมันยากจะยอมรับว่าต้าถังถูกหนึ่งดาบที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นนี้กำราบให้สงบลง
สถานศึกษาไม่อาจก้าวก่ายเรื่องการปกครอง นี่คือกฎเหล็กที่จอมปราชญ์กล่าวไว้ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้คืออะไร
ทันใดนั้นพระอัครมเหสีจูงองค์ชายหกเดินเข้ามา
ขุนนางทั้งหลายในตำหนักตกใจอีกครั้ง พวกมันต่างรู้ว่าพระอัครมเหสีและองค์ชายหกถูกองค์หญิงขัดขวางให้อยู่นอกฉางอัน นางเข้าวังมาตั้งแต่เมื่อใด ทำไมไม่ได้ยินข่าวล่วงหน้าเลย
พระอัครมเหสีไม่ได้แต่งตัวเลิศหรู ยังคงสวมชุดธรรมดา ใบหน้าสงบนิ่ง…นางเป็นพระอัครมเหสีของที่นี่เกือบยี่สิบปี ฉางอันจะขวางนางได้อย่างไร และเป็นไปได้หรือที่นางจะเข้าวังไม่ได้
องค์ชายหกใส่ชุดธรรมดาเช่นเดียวกัน เพียงคาดสายคาดเอวสีเหลืองอร่าม เดินตามมารดาของตนมาทีละก้าว พอเห็นภาพอันโหดร้ายที่ด้านในของตำหนัก ใบหน้าเล็กๆ ก็ขาวซีด
องค์ชายหกรู้สึกว่าขาเริ่มอ่อน มือเริ่มสั่น แต่พระอัครมเหสีจับมือไว้แน่น มันจึงไม่กล้าเดินช้าและไม่กล้าแสดงอาการถอยหนี
พระอัครมเหสีพาองค์ชายหกเดินต่อเข้าไปด้านใน เดินไปที่ราชบัลลังก์
จนถึงตอนนี้เหล่าขุนนางในตำหนักจึงค่อยรู้สึกตัว พวกที่จงรักภักดีต่อพระอัครมเหสีต่างคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วที่สุด ตื่นเต้นจนหน้าแดง
ขุนนางฝ่ายหลี่อวี๋คุกเข่าลงช้าๆ แต่สีหน้าของพวกมันยังคงขุ่นเคือง
พระอัครมเหสีจูงองค์ชายหกเดินอ้อมกองเลือดและศพศีรษะขาดหน้าบัลลังก์ หนิงเชวียหลีกไปด้านข้างเพื่อเปิดทาง
พระอัครมเหสีมองหลี่อวี๋ครั้งหนึ่ง
เพราะโกรธแค้นและเสียใจสุดขีด สติสัมปชัญญะของหลี่อวี๋จึงหลุดลอยไปจากร่าง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่มีการตอบสนองใดๆ
พระอัครมเหสีอุ้มองค์ชายหกขึ้นนั่งบนบัลลังก์ จากนั้นทอดตามองเหล่าขุนนางแล้วเอ่ยว่า
“ยังตะลึงอะไร ต้าถังกำลังเฉลิมฉลองความสุขสงบกันอยู่หรือ กรมทหาร ส่งรายงานสถานการณ์การรบล่าสุดมา”