• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 1

    “ทุกคนรู้ว่ากองทัพไม่อนุญาตให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ของเด็กทั้งสองถือว่าไม่ปกติ และไม่มีใครอยากบีบคั้นเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้นให้หมดทางรอด ดังนั้นทุกคนจึง…แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น”

    พอฟังคำอธิบายนี้ สีหน้าหญิงรับใช้ดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่พอเห็นภาพตรงหน้าที่หนิงเชวียกำลังหิ้วไก่ย่างครึ่งตัวแกว่งไปแกว่งมา ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยก็พยายามที่จะลากถังน้ำเดินตามหลังจนแก้มผอมซูบแดงก่ำ อารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นขุ่นมัวขึ้นทันควัน เอ่ยเสียงเยาะๆ ว่า

    “แบบนี้เรียกว่าพึ่งพาอาศัยกันรึ เห็นชัดๆ ว่ามันคิดจะฆ่าเด็กนั่นให้ตายเสียมากกว่า”

    เมืองเว่ยเล็กมาก เดินไปไม่นานผู้สะกดรอยตามกับผู้ถูกสะกดรอยก็มาถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง หน้าบ้านเป็นลานหินเล็กๆ ล้อมรั้วไว้อย่างเรียบง่าย หญิงรับใช้กับนายทหารยืนอยู่ตรงริมรั้วที่ว่านี้ สอดส่องสายตามองเข้าไป

    เห็นเด็กรับใช้ซังซังลากถังน้ำที่สูงกว่าเอวไปไว้ข้างๆ โอ่งใบเล็กอย่างยากลำบาก จากนั้นก้าวขึ้นไปยืนบนม้าเตี้ย แล้วออกแรงทั้งตัวเทน้ำใส่โอ่ง เสร็จแล้วก็เริ่มซาวข้าวล้างผัก ฉวยโอกาสที่ข้าวยังไม่สุกหยิบผ้าขี้ริ้วไปเช็ดถูโต๊ะเก้าอี้ประตูและหน้าต่าง ไม่นานนักข้าวก็เริ่มเดือดส่งไอขาวลอยกรุ่น ปกคลุมร่างเล็กๆ ของนางไว้

    แม้ฝนจะตกเมื่อคืน แต่ปริมาณน้ำฝนยังไม่มากพอ ฝุ่นดินที่เกาะอยู่ตามหน้าต่างประตูจึงมิได้ถูกชะล้างจนหมด กลับเหลือเป็นคราบโคลนไหลเลอะเป็นทางไม่น่าดูขึ้นแทนที่ ซึ่งคราบเหล่านี้ไม่นานก็ถูกซังซังน้อยเช็ดถูจนสะอาดสะอ้าน ตัวบ้านและลานแคบพลันเปลี่ยนเป็นสะอาดสดใสน่าอยู่ขึ้นทันตา

    เห็นได้ชัดว่านางคงจะทำงานบ้านเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน จึงดูคล่องแคล่วว่องไวเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง แต่กลับขยันเหมือนมด สาละวนหยิบจับโน่นนี่ไปทั่วราวกับเป็นศรีภรรยา เหน็ดเหนื่อยจนใบหน้ารูปไข่แดงก่ำ ให้ความรู้สึกทั้งน่าขำและน่าเห็นใจ

    แต่หนุ่มน้อยที่ชื่อหนิงเชวียแสดงออกชัดว่าขาดแคลนความรู้สึกอย่างหลังนี้ มันกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้ไม้ไผ่อย่างสบายอารมณ์ มือซ้ายพลิกตำราเก่าๆ เล่มหนึ่งอ่าน ในขณะที่มือขวาก็ใช้กิ่งไม้ขีดเขียนบนพื้นดินแฉะ มีบางเวลาขณะขบคิดจนเคลิบเคลิ้มก็จะโยนกิ่งไม้ทิ้งอย่างไม่ไยดี พร้อมกับหงายฝ่ามือขึ้นกลางอากาศ สักครู่ก็จะมีน้ำชาที่ร้อนกำลังพอเหมาะหนึ่งป้านวางลงบนฝ่ามือ

    พวกทหารในเมืองเว่ยคุ้นเคยกับภาพชีวิตประจำวันของสองนายบ่าวนี้มานานแล้วจึงวางเฉยได้ ทว่าแววตาหญิงรับใช้ที่ยืนเม้มปากอยู่ริมรั้วกลับเย็นยะเยียบขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เห็นเด็กหญิงระหว่างยุ่งอยู่กับการปัดกวาดเช็ดถูและทำกับข้าว ยังต้องคอยสังเกตสังกาใส่ใจในการเคลื่อนไหวและความต้องการของผู้เป็นนาย พร้อมที่จะต้มน้ำชงชา ทุบไหล่นวดขาให้ทุกเมื่อ ยิ่งมองสีหน้าก็ยิ่งเย็นชาจนแทบจับเป็นน้ำแข็ง

    ถ้าหากนางเป็นสาวใช้ของเจ้าจริงๆ ก็แล้วไปเถอะ แต่นี่เจ้าเก็บนางมาจากกองซากศพมิใช่หรือ ไหนบอกว่าพวกเจ้าทั้งสองพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอย่างไรเล่า หรือต่อให้นางเป็นสาวใช้ของเจ้าจริงๆ เจ้าไม่รู้สึกเลยหรือว่านางยังอายุน้อยเกินไป ไม่สมควรต้องมาทำงานหนักเกินกำลังแบบนี้ อายุเจ้าก็น้อย ไฉนจึงเพาะนิสัยขี้เกียจจนตัวเป็นขนเสียแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมลงมือทำเองบ้าง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook