• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 1

    นอกจากลูกศิษย์ที่อาจารย์ของสถานศึกษารับมาจากชาวบ้านธรรมดาแล้ว ผู้สมัครที่มาจากการแนะนำของหน่วยงานราชการหรือราชสำนักล้วนต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อกรุยทาง ไม่ทราบว่ามีพ่อค้าคหบดีกี่ตระกูลแทบจะสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะการสอบนี้…ข้ารู้ว่าสองปีมานี้เจ้าเก็บเงินไว้ได้บ้าง แต่ก็เป็นจำนวนน้อยนิด คิดหรือว่าจะพอซื้อคนเหล่านั้นได้”

    หนิงเชวียเกาศีรษะกล่าวเป็นเชิงต่อว่า

    “ต้องใช้เงินหรือ ทำไมถึงไม่มีใครเคยบอกเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟัง”

    “ก็เพราะตอนนี้มีวิธีแก้ปัญหาแล้ว ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึง”

    หม่าซื่อเซียงเห็นอีกฝ่ายหน้ามุ่ยก็พยายามกล่าวโน้มน้าว

    “ขอเพียงระหว่างทางสร้างความดีความชอบให้เข้าตาองค์หญิง ทำให้นางจดจำชื่อเจ้าได้ ถึงตอนนั้นพ่อบ้านของตำหนักองค์หญิงพูดแค่คำเดียว ยังจะมีขุนนางคนใดหลับหูหลับตากล้าไปรีดไถเอาเงินจากเจ้า”

    “นี่เท่ากับว่าข้าจะต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อแลกมาซึ่งคุณสมบัติในการเข้าสอบ ฟังอย่างไรก็รู้สึกว่าไม่คุ้มค่าอยู่บ้าง”

    หนิงเชวียเกาศีรษะแกรกๆ

    หม่าซื่อเซียงถลึงตาใส่ ตวาดด่าว่า

    “เหลวไหล! เจ้าเด็กระยำ! รู้หรือไม่ว่าเพื่อให้ได้เข้าสถานศึกษา มีคนมากน้อยเพียงไรที่แทบจะขายมารดาตัวเอง ฆ่าบิดาตัวเอง! ตอนนี้ให้เจ้าเสี่ยงอันตรายเพียงเล็กน้อย ถึงกับอิดออดบ่ายเบี่ยงอยู่นั่นแล้ว!”

    รอจนสงบสติอารมณ์ดีแล้ว แม่ทัพหม่าก็เกลี้ยกล่อมต่อ

    “ตามที่ข้าวิเคราะห์ดู องค์หญิงน่าจะรู้ว่าการเคลื่อนไหวของนางไม่อาจรักษาเป็นความลับอีกต่อไป เจ้าสามารถเดาฐานะของนางออก คนทั้งเมืองเว่ยก็เดาออก แล้วมีหรือว่าศัตรูในแคว้นจะเดาไม่ออก แต่ในเมื่อนางยังยืนกรานจะเดินทาง แสดงว่าเส้นทางเบื้องหน้าจะต้องมีกำลังสนับสนุนมาช่วย หน้าที่ของเจ้าก็แค่นำทางนางไปตามทางลัดบนเขา จะได้สมทบกับคนเหล่านั้นเร็วขึ้น นี่เป็นเรื่องเสี่ยงชีวิตอะไรที่ไหนกัน”

    หนิงเชวียก้มหน้าเงียบ ดีดลูกคิดไปมาอยู่ในสมองว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนจากการนี้

    หม่าซื่อเซียงคอยสังเกตสีหน้าเด็กหนุ่มอยู่ตลอด คิดถึงนิสัยที่น่ากวนโมโหของอีกฝ่าย รู้ดีว่าหากไม่หยิบยกผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมออกมาพูดบ้างคงยากที่จะโน้มน้าวใจได้สำเร็จ จึงถอนใจเฮือก ลดเสียงกล่าวว่า

    “ในขบวนขององค์หญิงมีชายชราอยู่คนหนึ่ง แซ่หลี่ว์ ได้ยินว่าฝึกวิชาของนิกายเฮ่าเทียนฝ่ายใต้”

    ได้ผล เพราะเพียงแค่ได้ยินประโยคหลัง หนิงเชวียก็เงยหน้าขวับ แววตาที่ปกติสงบนิ่งและดื้อรั้นอยู่บ้างเจิดจ้าเป็นประกายขึ้นทันทีทันใด

    หม่าซื่อเซียงกล่าวอย่างปลงๆ

    “เจ้ายังเป็นเด็กเหลือขออยู่เลยตอนมาถึงเมืองเว่ย อาศัยคำพูดป้อยอหวานหูและความมีฝีมือเอาชนะใจลูกผู้ชายทั้งเมือง ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ ทหารผลัดเปลี่ยนไปกองแล้วกองเล่า แม้แต่ร้านขายเนื้อย่างทางทิศตะวันออกของเมืองยังเปลี่ยนเถ้าแก่ไปแล้วสองคน แต่เจ้าก็ยังคงเป็นเด็กเหลือขอที่ได้รับความรักความเอาใจใส่ที่สุดในรังโจรที่ชื่อว่าเมืองเว่ยนี้”

    มันลูบศีรษะหนิงเชวีย สายตาเหมือนกำลังมองเด็กที่ถูกตามใจจนเคยตัวคนหนึ่ง

    “ปีนั้น ก่อนที่ท่านแม่ทัพคนก่อนจะป่วยตายได้หาช่องทางใส่ชื่อเจ้าไว้ในทะเบียนทหารจนสำเร็จ ฤดูสารทต่อมาพวกที่ไป ‘เก็บฟืน’ ในทุ่งหญ้าเกือบถูกคนเถื่อนล้อมสังหาร ล้วนอาศัยเจ้าจึงฝ่าวงล้อมหนีออกมาได้ 

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook