• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 1

    ล้อไม้หุ้มเหล็กบดพื้นดินอ่อนเปียก ขบวนรถขององค์หญิงเริ่มเดินทางออกจากเมืองเว่ย ภาพรถม้าห้าคันที่ผูกเชือกต่อกันเป็นแถว ยามวิ่งอยู่ในพื้นที่แถบชายแดนดึงดูดสายตาผู้คนไปตลอดทาง วันนี้ตามข้างทางนับว่ามีคนคอยยืนส่งอยู่มากจริงๆ แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจกลับมิใช่รถม้าคันหรูของผู้สูงศักดิ์ หากแต่เป็นเด็กหนุ่มและเด็กหญิงที่นั่งอยู่บนรถม้าคันแรก ประเดี๋ยวเป็นต้องมีคนโยนไข่ต้มมาให้ ประเดี๋ยวเป็นต้องมีสตรีวัยกลางคนใช้ผ้าเช็ดหน้าสกปรกเช็ดน้ำตาไปพลางพูดเสียงเจือสะอื้นไปพลาง จับเนื้อความได้คล้ายๆ กันว่า

    “หนิงเชวีย เจ้าเด็กอุบาทว์ หลานชายห่างๆ ของข้าดีออกจะตาย เจ้ากลับไม่ยอมยกซังซังให้แต่งงานด้วย คราวนี้เป็นอย่างไรเล่า ต้องพานังหนูแสนดีของข้าติดตามเจ้าไปยังที่ที่มีแต่คนโหดเหี้ยมใจดำแบบนั้น! ข้าขอเตือนเสียก่อน เจ้าต้องดูแลซังซังของข้าให้ดีนะ ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่!”

    หนิงเชวียที่นั่งอยู่บนแอกรถตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ

    “อาหญิง ตอนท่านมาสู่ขอ ซังซังเพิ่งจะแปดขวบ เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้”

    เสียงหัวเราะปนด่าดังฮือฮา แล้วจู่ๆ ท้องฟ้าก็โปรยปรายเม็ดฝนลงมา สายฝนละเอียดยิบยิ่งกว่าเส้นด้ายยามพร่างพรมโดนตัวชวนให้หนาวเย็นอยู่บ้าง แต่ผู้ที่มารอส่งกลับไม่ยอมแยกย้ายกลับไป เหล่าทหารประจำเมืองเว่ยก็วุ่นอยู่กับการกล่าวคำอำลาหนิงเชวีย พร้อมทั้งชำระสะสางหนี้สินที่มีอยู่ระหว่างกันเป็นครั้งสุดท้าย ผู้คนจึงชุลมุนสับสนส่งเสียงเอะอะวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นสักที

    ที่ด้านหลัง ม่านประทุนรถม้าคันที่ตกแต่งอย่างหรูหรางดงามที่สุดถูกเลิกขึ้น หญิงรับใช้ผู้เย่อหยิ่งชะโงกหน้าออกมามอง พอเห็นภาพชุลมุนตรงหน้า คิ้วเรียวงามก็ขมวดแน่นทันที

    ผ่านไปพักใหญ่ ก่อนที่ขบวนรถม้าจะออกจากตัวเมือง หนิงเชวียผุดลุกขึ้นยืนบนรถ ยกมือคารวะไปรอบทิศ

    ภาพหนุ่มน้อยสะพายดาบสามเล่มยกมือคารวะท่ามกลางสายฝน บอกไม่ถูกว่าดูโอ่อ่าห้าวหาญเพียงไร

    “ท่านลุง ท่านอา ท่านน้า ท่านป้า และพี่สาวพี่ชายทั้งหลาย คำขอบคุณคงไม่ต้องพูดแล้ว”

    พูดจบก็กางสองแขนออกกว้างจนสุดเหยียด เผยให้เห็นแผ่นอกและท่อนแขนที่ยังไม่บึกบึนล่ำสันเต็มวัยหนุ่ม ท่าทางมันทั้งน่าขันน่าเอ็นดู

    “ไปฉางอันคราวนี้ หากไม่สำเร็จเป็นผู้เป็นคน ข้าจะไม่กลับมาให้พวกท่านเห็นหน้าอีก!”

    พอขาดคำ บรรยากาศคล้ายกับตอนที่นักเล่านิทานเคาะไม้ก่อนจะเริ่มเรื่อง และก็คล้ายกับตอนเห็นศีรษะคนถูกฟันหลุดกระเด็น ทั้งตื่นเต้นและฮึกเหิม พวกชาวบ้านและทหารที่ยืนรอส่งอยู่สองข้างทางต่างก็พากันโห่ร้องสนับสนุนเป็นเสียงเดียว

    ภายในร้านสุราที่มีสภาพดูเข้าท่าเพียงแห่งเดียวของเมืองเว่ย หม่าซื่อเซียงกับเซี่ยวเว่ยคู่ใจหลายคนกำลังนั่งดื่มสุรา องค์หญิงไม่ต้องการให้พวกมันอารักขาตามส่ง และพวกมันก็คร้านจะไปส่งเจ้าเด็กน้อยหนิงเชวีย แต่จากร้านสามารถมองเห็นภาพขบวนรถ เซี่ยวเว่ยคนหนึ่งฟังประโยคที่หนิงเชวียประกาศบนรถม้า อดถอนใจกล่าวมิได้

    “หากไม่สำเร็จเป็นผู้เป็นคนจะไม่กลับมารึ ถ้าอย่างนั้นเจ้าเด็กน้อยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวหาความเป็นคนไม่ได้คนนี้คงยากที่จะกลับมาแล้ว”

    หม่าซื่อเซียงนึกถึงคำพูดที่หนิงเชวียโต้ตอบกับมันเมื่อคืนวานนี้ก็อดลูบเคราสีดอกเลามิได้ ยิ้มอย่างปลาบปลื้มประโลมใจ สายตามองตามขบวนรถม้าที่เคลื่อนพ้นตัวเมืองอย่างช้าๆ กล่าวเสียงเบาจนคล้ายพูดกับตัวเอง

    “ไม่กลับมาก็ดี คนเกเรไร้คุณธรรมอย่างเจ้าออกไปสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนแก่โลกภายนอกให้สนุกเถอะ”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook