• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 1

    การต่อสู้ตรงปากทางเข้าดินแดนเป่ยซานกำลังดุเดือดเลือดพล่าน แต่บริเวณขบวนรถม้ากลับสงบนิ่งเงียบเชียบอย่างประหลาด ทหารองครักษ์สิบกว่าคนซึ่งติดตามขบวนสมรสขององค์หญิงไปยังดินแดนแห่งทุ่งหญ้าน่าจะเป็นทหารที่เก่งกล้ามีความสามารถโดดเด่น แต่ทุกคนกลับเอาแต่คุกเข่าข้างเดียวล้อมรอบรถม้าสองคันราวกับรูปปั้นศิลา

    หนึ่งในรถม้าสองคันนั้น ด้านหน้านั่งไว้ด้วยชายชราในชุดเสื้อคลุมสกปรกที่กำลังหลับตาขัดสมาธิหันหน้าไปทางป่าลึกที่ยิ่งนานก็ยิ่งมืดทะมึนลงทุกที โดยมีเหล่าองครักษ์ให้การคุ้มครองอย่างแน่นหนา

    หนิงเชวียเลียริมฝีปากอย่างตื่นเต้น แบมือที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อไปทางซังซัง ซังซังเหลือบมองแวบหนึ่งก่อนส่งคันธนูในมือให้ จากนั้นก็ปลดร่มดำลงจากหลังวางไว้บนพื้นข้างกายโดยระมัดระวังมิให้เกิดสุ้มเสียง

    การปะทะยังคงดำเนินต่อไป ระหว่างพวกหนิงเชวียทั้งสามกับสมรภูมิการต่อสู้มีขบวนรถม้าขวางอยู่ ดูจากรูปการณ์ ในเวลาอันสั้นคงจะยังไม่ลามมาถึงบริเวณนี้ แต่ไม่ทราบว่าทำไม หนิงเชวียกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหงื่อที่เปียกชื้นตามฝ่ามือก็ไม่ทราบว่าแห้งเหือดไปตั้งแต่เมื่อไหร่

    องครักษ์สิบกว่าคนที่อารักขาอยู่รอบๆ รถม้าใช้สายตาเย็นยะเยียบมองเข้าไปในป่าลึก ใบหน้าที่คร้ามแดดเต็มไปด้วยความเยือกเย็นหนักแน่น แม้จะตื่นตัวระแวดระวัง แต่ก็ไม่ประหวั่นพรั่นพรึง

    องครักษ์ต้าถังสิบกว่าคนนี้สังกัดกองกำลังอวี่หลิน ถูกคัดเลือกเป็นพิเศษให้ติดตามขบวนอภิเษกขององค์หญิงสี่ไปยังดินแดนแห่งทุ่งหญ้า เป็นทหารที่ห้าวหาญเกรียงไกรที่สุดในกองทัพ แต่ในการสู้รบหน้าปากทางเข้าดินแดนเป่ยซานในวันนี้ การกระทำของพวกมันกลับดูแปลกพิกล

    ตอนลูกธนูพุ่งออกจากป่าราวห่าฝน พวกมันกระจายตัวออกเป็นแนวป้องกันรูปวงกลม หลบเงียบอยู่หลังโล่ และเมื่อบรรดามือสังหารดาหน้าบุกเข้ามา พวกมันก็ยังรักษาอากัปกิริยาเหมือนเดิมไม่ขยับเขยื้อน ไม่สนใจการเข่นฆ่านองเลือดที่เกิดขึ้นตรงหน้า

    ประเดี๋ยวก็มีพวกเดียวกันล้มหงายนอนตายอยู่ตรงหน้า ประเดี๋ยวก็มีร่างอันไร้วิญญาณกระแทกใส่รถม้าจนเกิดเสียงดังสนั่น แต่ถึงกระนั้นพวกมันแม้แต่ขนตาก็ไม่กะพริบ ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้เอาแต่จ้องเขม็งเข้าไปในป่าลึกด้วยสีหน้าเย็นชา ใจและกายคล้ายกับหล่อหลอมด้วยเหล็กหรือศิลาก็มิปาน

    พวกมันล้วนสวมเสื้อผ้าฝ้าย แต่ตรงชายเสื้อเผยให้เห็นเกราะอ่อนแลบออกมา มือขวาแต่ละคนเอื้อมจับด้ามดาบที่สะพายเฉียงอยู่ด้านหลังอย่างเตรียมพร้อม สองตาจับจ้องตรงไปข้างหน้า อารักขารถม้าสองคันอย่างเหนียวแน่น

    รถม้าคันหรูนั้นไร้สุ้มเสียง ส่วนอีกคันที่หน้าประทุนรถ ชายชราคนเดียวในขบวนกำลังนั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่ด้วยท่าทีผ่อนคลาย บนตักวางพาดไว้ด้วยกระบี่เล่มหนึ่ง ฝักกระบี่ดูเก่าโทรมเช่นเดียวกับเสื้อคลุมบนตัว

    เหล่าองครักษ์อารักขาอยู่รอบๆ ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก มีบางครั้งที่ศัตรูบุกฝ่าเข้ามาเกือบถึงวงล้อมจึงจะมีองครักษ์คนหนึ่งชักกระบี่วิ่งโถมออกไป

    เป็นเพราะมีมันเข้าโรมรันพันตูอยู่คนเดียว ไม่นานตามร่างก็อาบไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น พรรคพวกที่เหลือก็ไม่มีท่าทีสงสารเห็นใจ ยังคงนิ่งเงียบกระทั่งขนตาก็ไม่กะพริบ ไม่ยอมออกห่างจากชายชราแม้แต่ก้าวเดียว

    หนิงเชวียไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดพวกมันถึงทำเช่นนั้น ไม่ทราบว่าท่ามกลางดงไม้มืดทึบที่พวกมันจับจ้องอย่างตื่นตัวซุกซ่อนอะไรอยู่ รู้แต่เพียงว่าจะต้องเป็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว

    หนิงเชวียคาดเดาได้รางเลือน ความงดงามแต่ทว่าเย็นชาไร้น้ำใจในโลกใบใหม่กำลังจะเปิดม่านขึ้นกระตุ้นให้มันตื่นเต้นสุดขีด หนังศีรษะชาหนึบ นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วกลางลูบสายธนูไม่หยุด ผ่านไปสักพักลมหายใจของมันจึงค่อยเปลี่ยนเป็นเชื่องช้า สีหน้ายิ่งเปลี่ยนเป็นสุขุม

    การรอคอยอันตรายและความน่ากลัวที่กำลังจะมาเยือนทำให้บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนเป็นตึงเครียดอย่างรุนแรง การต่อสู้อันดุเดือดและเสียงอาวุธปะทะกันคล้ายจะถอยห่างออกไปไกลแสนไกล

    ขณะที่บรรยากาศเข้าสู่ภาวะตึงเครียดจนถึงขีดสุด หน้าต่างรถม้าคันหรูพลันถูกผลักออกดังเอี๊ยด สตรีสาวรูปโฉมงดงามคนหนึ่งยื่นหน้าออกมา มวยผมดูคลายหลวมเล็กน้อย สีหน้าแฝงความกังวลใจ

    แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร หัวหน้าองครักษ์ก็กล่าวเตือน ‘องค์หญิงโปรดระวังตัว’ แล้วยื่นมือดึงหน้าต่างปิดใส่หน้าอย่างรวดเร็ว แม้จะด้วยสีหน้าท่าทีนอบน้อม แต่หากมิใช่เป็นเพราะสถานการณ์กำลังล่อแหลม การกระทำเช่นนี้ดูเหมือนจะหยาบคายอยู่บ้าง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook