• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย สยบฟ้าพิชิตปฐพี เล่มที่ 27 ตอนที่ 1

    หน้าที่แล้ว1 of 3

    บทที่1การตอบโต้ของชาวนา

    ในตำหนักเงียบสนิท ไม่มีใครโต้ตอบคำพูดของหนิงเชวีย

    นี่ไม่ได้หมายถึงคำพูดของมันไม่มีพลัง ความจริงคำพูดเหล่านี้เหมือนสายฟ้ามากมายฟาดอยู่ในห้วงสมองของเหล่าขุนนาง ทำให้พวกมันอยู่ในสภาพงุนงง

    ขุนนางผู้หนึ่งออกมายืนนอกแถว ชี้นิ้วสั่นระริกไปที่หนิงเชวีย คิดด่ามันว่าเลือดเย็นและไร้ความละอาย

    หนิงเชวียมองคนผู้นั้นนิ่ง สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ ขุนนางผู้นั้นโกรธจนริมฝีปากสั่น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา สุดท้ายนิ้วของขุนนางผู้นั้นก็ตกลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

    ตั้งแต่เรื่องการปลอมแปลงพระราชโองการถูกเปิดโปง ขุนนางของต้าถังก็แบ่งเป็นสองฝ่าย ทว่าเมื่อเห็นแคว้นกำลังจะล่มสลาย ความแตกแยกและความเป็นศัตรูต่อกันจึงถูกบังคับให้สงบลง

    ขุนนางหลายคนคำนึงถึงส่วนรวมเป็นสำคัญ เกลี้ยกล่อมให้ตัวเองไม่สนใจเรื่องพระราชโองการเป็นการชั่วคราวเพื่อไม่ให้ต้าถังต้องเกิดสงครามภายในอย่างเต็มรูปแบบ ทว่าใครเลยจะคิด หนิงเชวียเข้าวังมาคุยกับองค์หญิงร่วมคืน ขณะที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าเรื่องราวกำลังจะอยู่ในความควบคุมแล้ว มันกลับ…ชักดาบฟันจักรพรรดิสิ้นพระชนม์!

    หลังจากที่โกรธและกลัวอย่างสุดขีด ขุนนางเหล่านี้ที่เคยพบเจอมรสุมมามากมายกลับสงบลงได้อย่างรวดเร็วและต่างตะลึงเมื่อพบว่าสิ่งที่หนิงเชวียพูดคือข้อสรุปที่ดีที่สุด

    จักรพรรดิหลี่ฮุยหยวนถูกสังหาร สายเลือดของจักรพรรดิองค์ก่อนจึงเหลือเพียงองค์ชายหก ขุนนางทั้งหลายนอกจากสนับสนุนองค์ชายหกขึ้นครองราชย์แล้วยังเหลือทางเลือกอื่นใดอีกเล่า ขุนนางในราชสำนักและขุนศึกที่สู้รบหลั่งเลือดอยู่ในแนวหน้า รวมถึงราษฎรที่สุดท้ายแล้วต้องรู้เรื่องการปลอมแปลงพระราชโองการอย่างแน่นอนก็ไม่ต้องเลือกฝ่ายแล้ว ต้าถังก็ไม่ต้องแตกแยกแล้ว

    ไม่ต้องเลือกคือทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จริงเหตุผลข้อนี้ทุกคนต่างรู้ แต่ไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนต้าถัง มีเพียงหนิงเชวียที่ทำได้ เพราะมีเพียงหนิงเชวียที่กล้าทำ

    การปลอมแปลงพระราชโองการของจักรพรรดิองค์ก่อนถือเป็นกบฏ ไม่ว่าใครล้วนต้องถูกประหาร ต่อให้เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่หรือองค์หญิงก็ไม่อาจหนีพ้นการพิพากษาตามกฎหมายของต้าถัง ทว่าเมื่อเรื่องเกิดขึ้นจริง ใครเล่าจะกล้าลงมือ

    มีแต่หนิงเชวียที่ไม่ให้โอกาสหลี่ฮุยหยวนแก้ต่างหรือขอร้อง ไม่ให้เวลาผู้ใดได้ไตร่ตรองก็ลงดาบประหาร นี่เรียกว่าไม่สอนสั่งก็ลงโทษ

    การตวัดดาบที่เรียบง่ายนี้แสดงให้เห็นความคิดจิตใจที่สงบนิ่งถึงขั้นเลือดเย็นของมัน เป็นตัวแทนของสถานศึกษาที่เพิกเฉยต่ออำนาจของจักรพรรดิ ทำให้ผู้คนหวาดกลัวสุดขีด

    บัดนี้ขุนนางและนายทหารทั้งหลายยังจะทำอะไรได้ การกระทำเช่นกบฏของหนิงเชวียย่อมสามารถหาข้ออ้างที่แน่นหนาประดุจเหล็กกล้าจากกฎหมายของต้าถังได้ หากแต่ใครจะกล้าพูดว่ามันปลงพระชนม์ ในเมื่อภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันไม่สมควรยั่วโทสะของสถานศึกษาผู้เป็นที่พึ่งสุดท้ายของต้าถัง

    ขุนนางทั้งหลายมองหนิงเชวียที่ยืนอยู่เยื้องบัลลังก์ มองศพของจักรพรรดิที่จมในกองเลือด อารมณ์บนใบหน้าค่อนข้างซับซ้อน…โกรธ เสียใจ งุนงง ระแวง หวาดกลัว…แตกต่างกันไป

    ยังไม่มีผู้ใดโต้ตอบคำพูดของหนิงเชวีย ความเงียบสนิทยังดำเนินไปดุจเดิม ล้วนเป็นเพราะอารมณ์ถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และเพราะพวกมันยากจะยอมรับว่าต้าถังถูกหนึ่งดาบที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นนี้กำราบให้สงบลง

    สถานศึกษาไม่อาจก้าวก่ายเรื่องการปกครอง นี่คือกฎเหล็กที่จอมปราชญ์กล่าวไว้ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้คืออะไร

    ทันใดนั้นพระอัครมเหสีจูงองค์ชายหกเดินเข้ามา

    ขุนนางทั้งหลายในตำหนักตกใจอีกครั้ง พวกมันต่างรู้ว่าพระอัครมเหสีและองค์ชายหกถูกองค์หญิงขัดขวางให้อยู่นอกฉางอัน นางเข้าวังมาตั้งแต่เมื่อใด ทำไมไม่ได้ยินข่าวล่วงหน้าเลย

    พระอัครมเหสีไม่ได้แต่งตัวเลิศหรู ยังคงสวมชุดธรรมดา ใบหน้าสงบนิ่ง…นางเป็นพระอัครมเหสีของที่นี่เกือบยี่สิบปี ฉางอันจะขวางนางได้อย่างไร และเป็นไปได้หรือที่นางจะเข้าวังไม่ได้

    องค์ชายหกใส่ชุดธรรมดาเช่นเดียวกัน เพียงคาดสายคาดเอวสีเหลืองอร่าม เดินตามมารดาของตนมาทีละก้าว พอเห็นภาพอันโหดร้ายที่ด้านในของตำหนัก ใบหน้าเล็กๆ ก็ขาวซีด

    องค์ชายหกรู้สึกว่าขาเริ่มอ่อน มือเริ่มสั่น แต่พระอัครมเหสีจับมือไว้แน่น มันจึงไม่กล้าเดินช้าและไม่กล้าแสดงอาการถอยหนี

    พระอัครมเหสีพาองค์ชายหกเดินต่อเข้าไปด้านใน เดินไปที่ราชบัลลังก์

    จนถึงตอนนี้เหล่าขุนนางในตำหนักจึงค่อยรู้สึกตัว พวกที่จงรักภักดีต่อพระอัครมเหสีต่างคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วที่สุด ตื่นเต้นจนหน้าแดง

    ขุนนางฝ่ายหลี่อวี๋คุกเข่าลงช้าๆ แต่สีหน้าของพวกมันยังคงขุ่นเคือง

    พระอัครมเหสีจูงองค์ชายหกเดินอ้อมกองเลือดและศพศีรษะขาดหน้าบัลลังก์ หนิงเชวียหลีกไปด้านข้างเพื่อเปิดทาง

    พระอัครมเหสีมองหลี่อวี๋ครั้งหนึ่ง

    เพราะโกรธแค้นและเสียใจสุดขีด สติสัมปชัญญะของหลี่อวี๋จึงหลุดลอยไปจากร่าง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่มีการตอบสนองใดๆ

    พระอัครมเหสีอุ้มองค์ชายหกขึ้นนั่งบนบัลลังก์ จากนั้นทอดตามองเหล่าขุนนางแล้วเอ่ยว่า

    “ยังตะลึงอะไร ต้าถังกำลังเฉลิมฉลองความสุขสงบกันอยู่หรือ กรมทหาร ส่งรายงานสถานการณ์การรบล่าสุดมา”

    หน้าที่แล้ว1 of 3

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook