• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน นาโนมาชิน 1 ครั้งที่ 2

    บทที่ 2

    ใครบอกให้ท่องตำรา (1)

     

    แม้ชอนยออุนจะยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม แต่เขาก็ไม่ได้โง่เขลา

    ในช่วงชีวิตสิบห้าปีที่ผ่านมา เขาถูกลอบสังหารและพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดมานับครั้งไม่ถ้วน เขาจึงรู้ซึ้งถึงคุณค่าของความพ่ายแพ้ที่ตัวเองประสบพบเจอได้ดีกว่าใคร และเขาก็ตระหนักรู้โดยสัญชาตญาณว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาจะไม่ยอมให้ใครเห็นความพ่ายแพ้ของเขาอีกต่อไป

    ต้องไม่ให้ใครรู้ว่ามีนาโนแมชชีนอยู่ในตัวข้า

    ชอนยออุนไม่รู้ว่าความรู้ทางการแพทย์ในยุคของเขาไม่อาจตรวจพบนาโนแมชชีนได้ ซึ่งความไม่รู้นั้นก็ทำให้เขาเป็นกังวลกับหมอแพ็กที่กำลังจับชีพจรให้เขาอยู่ เพราะหมอแพ็กเกิดในพรรคมารพิษซึ่งเป็นหนึ่งในหกพรรคเสาหลักของพรรคมาร

    ขอให้ไม่รู้ด้วยเถอะ

    แม้พยายามจะไม่แสดงออก แต่สีหน้าของเขากำลังบ่งบอกถึงความตื่นเต้น เพราะเขาอยู่ในฐานะที่ถูกห้ามไม่ให้เรียนรู้วรยุทธ์ใดๆ จนกว่าจะได้เข้าสำนักมาร

    อืม จะต้องได้รับการช่วยเหลือจากใครบางคนแน่นอน

    หมอมารแพ็กจงอูประหลาดใจในการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของร่างกายชอนยออุน สมัยยังเด็ก ชอนยออุนตัวเล็กมากจนไม่อาจฝึกวรยุทธ์ใดๆ ได้ หมอแพ็กจึงคิดว่าชอนยออุนจะต้องถูกคัดออกจากการต่อสู้ชิงตำแหน่งอย่างแน่นอน แต่จากสภาพร่างกายในตอนนี้หากเทียบกับเหล่าคุณหนูคุณชายของพรรคทั้งหก ชอนยออุนก็สามารถฝึกวรยุทธ์ได้อย่างสบาย แต่แน่นอนว่าจุดที่เสียเปรียบก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะเหล่าคุณหนูคุณชายคนอื่นๆ ผ่านการฝึกวรยุทธ์และสั่งสมกำลังภายในมาตั้งแต่ก่อนเข้าสำนักมาร จึงทำให้พวกเขามีพลังมากมาย

    แกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ความจริงแล้วก็สนใจสินะ

    ในจุดนี้แพ็กจงอูเข้าใจผิดไปเอง เขาเชื่อว่าสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของชอนยออุนมาจากชอนยูจงประมุขพรรคมารคนปัจจุบัน

    หากกัดนิ้วทั้งสิบก็ไม่มีนิ้วไหนที่ไม่เจ็บ*

    หากท่านประมุขแอบยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยตนเองก็ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องประกาศออกไป หมอมารแพ็กจงอูสั่งยาหม้อสมุนไพรที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายก่อนจะกลับไปโดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา

    ทันทีที่แพ็กจงอูเดินออกไป ชอนยออุนก็ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก

    “คุณชาย”

    “องครักษ์จาง”

    ชอนยออุนยังไม่มีโอกาสได้กล่าวขอบคุณองครักษ์จางเลยสักคำ ถึงแม้ว่านาโนแมชชีนจะช่วยรักษาบาดแผลให้ แต่หากองครักษ์จางไม่ตามมาเจอเขาทันเวลาก็ยากที่จะจินตนาการว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหลังจากนั้น

    “ขอบคุณที่พาข้ากลับมาถึงที่พัก…”

    ก่อนที่คำพูดของชอนยออุนจะจบลง องครักษ์จางก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

    “ประทานโทษขอรับ คุณชาย! ก่อนอื่นท่านควรล้างเนื้อล้างตัวเสียก่อน”

    “นั่นสินะ”

    ของเสียที่ขับออกมาจากร่างกายของเขาส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง องครักษ์จางเรียกข้ารับใช้มาเปลี่ยนผ้าปูเตียงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีดำและเตรียมน้ำให้ชอนยออุนล้างตัว

    ขณะแช่ตัวในน้ำอุ่นภายในห้องอาบน้ำ ใบหน้าของชอนยออุนก็เต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย

    สวรรค์เปลี่ยนโชคชะตาของข้าอย่างนั้นรึ

    โชคชะตาของเขาถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่เกิดมาจากมารดาที่เป็นหญิงรับใช้ พรรคมารมีตระกูลทั้งหกหรือก็คือพรรคทั้งหกคอยค้ำชู โดยผู้สืบทอดพรรคมารจะเลือกจากทายาทท่านประมุขที่แข็งแกร่งสุดจากพรรคเหล่านี้เพื่อก้าวขึ้นเป็นรองประมุขพรรคมาร แต่ชอนยออุนเป็นลูกของหญิงรับใช้ในเรือนของท่านประมุข ซึ่งไม่ได้สังกัดอยู่ในพรรคทั้งหก เขาจึงเติบโตขึ้นมาโดยไร้ซึ่งรากฐานใดๆ ตลอดช่วงชีวิตสิบห้าปีของเขาจึงเป็นก้าวเดินที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดและน่าสมเพชยิ่งกว่าใคร

    นี่ เจ้านาโนแมชชีน

    [นายท่าน]

    ชอนยออุนไม่ได้คุยกับนาโนแมชชีนมาเกือบหนึ่งชั่วยามแล้ว หากเขาไม่พูดอะไรนาโนแมชชีนก็จะไม่พูดก่อน ด้วยเหตุนี้ความรู้สึกที่เหมือนถูกจับตามองจึงถูกลบออกไปได้ในระดับหนึ่ง

    เมื่อครู่ที่เจ้าบอกว่าช่วยรักษาร่างกายของข้า มันทำได้ประมาณไหนรึ

    [หากเป็นความเสียหายของอวัยวะภายในหรือบาดแผลที่เกิดจากการกระทบกระเทือนจากภายนอกก็จะรักษาตัวเองในทันที แต่สำหรับการเสียเลือดและอวัยวะฉีกขาดจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากต้องทำการแบ่งเซลล์]

    เช่น…เช่นนั้นเองรึ

    ถึงแม้นาโนแมชชีนจะเคยส่งข้อมูลมากมายเข้ามาในหัวแล้ว แต่มันยากเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจทั้งหมดอยู่ดี เท่าที่เขารู้ก็คือถ้าเนื้อไม่ได้ฉีกขาดหรือไม่ได้เสียเลือดมากก็รักษาได้ทันที

    ข้าขอทดสอบได้หรือไม่

    [ไม่แนะนำให้แทงตัวเอง แต่หากต้องการทดสอบแนะนำให้ทดสอบกับแผลที่มีความเสียหายน้อยกว่า]

    ชอนยออุนหยิบกระบี่สั้นที่วางอยู่บนกองเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้แล้วชักมันออกจากฝัก เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนำคมกระบี่แนบที่มือแล้วกรีด

    ฉัวะ!

    “โอ๊ย!”

    แม้จะกรีดมือของตัวเองโดยไร้ซึ่งความกลัว แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก

    [เปิดโหมดรักษาตัวเองสำหรับบาดแผลที่ฝ่ามือซ้าย]

    น้ำเสียงแข็งทื่อของนาโนแมชชีนดังขึ้นพร้อมความรู้สึกคันยุบยิบบริเวณฝ่ามือซ้าย ไม่นานนักเลือดก็หยุดไหล จากนั้นบาดแผลก็หายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

    โอ้ ถึงเห็นด้วยตาตัวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลย

    แค่รักษาฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็วก็เหลือเชื่อมากแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นนั่นก็คือการใช้งานอื่นๆ ที่นาโนแมชชีนถ่ายโอนข้อมูลเข้ามาในหัวของเขา

    นอกจากความสามารถในการรักษาและฟื้นตัวแล้วยังทำอะไรต่างๆ ได้ตามข้อมูลที่ส่งเข้ามาในหัวของข้าด้วยรึ

    [นายท่านสามารถใช้งานทุกอย่างได้ตามข้อมูลที่ถ่ายโอน]

    ดีล่ะ ถ้าเช่นนั้นหลังอาบน้ำเสร็จ ข้าจะต้องทดสอบดูสักหน่อย

    [รับทราบ]

    เมื่อคำตอบของนาโนแมชชีนจบลง ชอนยออุนก็แช่ตัวในน้ำอุ่นอีกครั้งและกำสองมือแน่น หากเขาใช้งานนาโนแมชชีนได้ทุกอย่างตามที่บอกจริงๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งรองประมุขพรรคมารมากกว่าใครในบรรดาผู้ท้าชิง ถึงแม้ว่ามันจะไม่อาจชดใช้การถูกดูหมิ่นเหยียดหยามตลอดที่ผ่านมาก็ตาม

     

    อีกด้านหนึ่ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของป้อมปราการพรรคมาร ที่นั่นคือฐานที่มั่นของพรรคมารปีศาจซึ่งเป็นหนึ่งในหกพรรคเสาหลักของพรรคมาร

    ด้านข้างของอาคารกลางของพรรคมารปีศาจได้ถูกจัดเตรียมเป็นที่พักสำหรับผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประมุขพรรคมาร เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอายุประมาณสิบหกปีและมีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยกระกำลังยืนอยู่ตรงลานหน้าที่พัก โดยข้างๆ ของเขามีชายสวมหน้ากากกำลังคุกเข่าหมอบอยู่กับพื้น

    “คิดว่ากำลังเล่าเรื่องตลกอยู่รึ คิดว่ามันฟังดูสมเหตุสมผลอย่างนั้นรึ”

    เด็กหนุ่มเลิกคิ้วพร้อมตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว ชายสวมหน้ากากได้แต่ตัวสั่นโดยไม่ได้ตอบกลับไป

    “ข้าสั่งให้ไปกำจัดไอ้เวรนั่นที่ข้าเกลียดเข้ากระดูกดำ แต่คนของเรากลับตายไปทั้งหมดห้าคนงั้นรึ”

    “น่าจะมียอดฝีมือแอบช่วยเหลือมันอยู่ขอรับ คุณชายมูกึม”

    “ใครสั่งให้เจ้าเรียกชื่อข้า!”

    “ขอประทานอภัยขอรับ คุณชายชอน”

    เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าชอนมูกึม

    พรรคฝ่ายมารดาของชอนมูกึมคือพรรคมารปีศาจ เขาจึงอยู่ในลำดับที่สามของการจัดลำดับผู้ชิงตำแหน่งรองประมุขพรรคมาร เขาผู้มีนิสัยก้าวร้าวและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมได้ระดมมือสังหารของพรรคมารปีศาจไปกำจัดชอนยออุนก่อนที่จะถึงวันเข้าสำนักมาร แต่ทั้งหมดกลับล้มเหลวอย่างไม่คาดคิด

    “ตอนแรกคิดว่าพวกเลือดชั้นต่ำจะไม่มีน้ำยา แต่มันต้องมีอะไรซ่อนไว้แน่ๆ”

    มันเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เขาอุตส่าห์กันองครักษ์ที่คอยคุ้มครองชอนยออุนออกไปแล้ว แต่ภารกิจกลับล้มเหลว นั่นหมายความว่าต้องมีใครคอยปกป้องชอนยออุนอยู่อย่างแน่นอน

    หรือจะเป็นฝีมือของท่านพ่อนะ

    คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือท่านประมุข แต่ชอนมูกึมก็ไม่อาจพูดออกไปส่งเดชแม้เขาจะเป็นคนอวดดีและมีอำนาจมากแค่ไหนก็ตาม เพราะท่านประมุขคือผู้มีอำนาจสูงสุดในพรรคมาร

    “ฝากไว้ก่อนเถอะ รอเข้าสำนักเมื่อไหร่ข้าค่อยจัดการ”

    ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ท่านประมุขได้ส่งองครักษ์มาคอยปกป้องคุ้มครองผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประมุขพรรคมารตลอด แต่หลังจากเข้าสำนักมารแล้วก็จะไม่มีเหล่าองครักษ์มาคอยติดตามอีกต่อไป

    “ข้าไม่อยากให้มือของตัวเองต้องแปดเปื้อน แต่ดูเหมือนข้าจะต้องลงมือฆ่ามันด้วยตัวเองในสำนักมารเสียแล้ว”

    แม้ชอนมูกึมยังเป็นแค่เด็กหนุ่ม แต่สายตาของเขากลับเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น

     

     

    บทที่ 2

    ใครบอกให้ท่องตำรา (2)

     

    พรรคมารตั้งอยู่บนเขาสิบหมื่น

    พวกเขาบูชาปีศาจและการต่อสู้ โดยภายในพรรคมารจะประกอบด้วยพรรคย่อยมากมายที่เชี่ยวชาญวรยุทธ์ต่างกัน แต่ในบรรดาพรรคเหล่านั้นมีอยู่หกพรรคที่เป็นดั่งเสาหลักของพรรคมาร ได้แก่ พรรคมารทมิฬ พรรคมารกระบี่ พรรคมารปีศาจ พรรคมารพิษ พรรคมารดาบ และพรรคมารเสียง โดยหนึ่งในทายาทของท่านประมุขจากพรรคทั้งหกจะกลายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคมารต่อไป

    ตามคำปฏิญาณประมุขพรรคมารจะต้องแต่งงานกับสตรีจากพรรคทั้งหกเพื่อให้กำเนิดทายาท จากนั้นทายาทจะถูกเลี้ยงดูจากครอบครัวฝั่งมารดาจนกว่าอายุจะถึงกำหนด และผู้สืบทอดทั้งหกที่เติบโตจากครอบครัวฝั่งมารดาจะได้เข้าสำนักมารที่เปิดทุกสิบปีเพื่อฝึกฝนและเรียนรู้จนกลายเป็นยอดฝีมือ

    สำนักมารเป็นสถานฝึกวรยุทธ์ที่สร้างขึ้นเพื่อบ่มเพาะยอดฝีมือรุ่นใหม่ของพรรคมาร โดยปกติแล้วสถานฝึกวรยุทธ์ของสำนักมารจะเปิดฝึกนักรบระดับสูง กลาง และล่างทุกห้าปี และมีการจัดการแข่งขันหนึ่งขึ้นทุกสิบปี

    จุดประสงค์ของสำนักมารก็คือการยกระดับวรยุทธ์ของศิษย์ใหม่ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดโดยจัดให้เหล่ายอดฝีมือผู้เก่งกาจในพรรคมารเป็นครูฝึก

    นี่คือเป้าประสงค์ที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการภายในสำนักมาร ซึ่งทุกสิบปีการแข่งขันอันดุเดือดจะเกิดขึ้น เพราะมันคือช่วงเวลาที่เหล่าผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประมุขพรรคมารจะเข้ามาร่วมฝึกฝน โดยชาวพรรคมารเรียกช่วงเวลานี้ว่าศึกชิงตำแหน่งรองประมุขพรรคมาร เพราะเหล่าผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประมุขจากทั้งหกพรรคจะเข้ามาในสำนักมารเพื่อแข่งขันและสร้างรากฐานอำนาจของตน

    แต่นอกเหนือจากพรรคทั้งหกแล้วก็ยังมีคนจากตระกูลนักรบและพรรคอื่นๆ อีกมากมายในพรรคมารที่มาเข้าร่วมการฝึกด้วย โดยเหล่าผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประมุขจำเป็นต้องหาผู้สนับสนุนคนอื่นนอกพรรคของตน โดยผู้ที่ชนะในศึกครั้งนี้จะได้ครองตำแหน่งรองประมุขพรรคมาร

    ฟุ่บๆ!

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชอนยออุนก็เช็ดเนื้อเช็ดตัว แล้วมองเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกสำริด การตกเป็นเป้าสังหารบ่อยครั้งทำให้เขาออกจากเขตที่พักไม่ได้เลย และไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ฝึกวรยุทธ์ใดๆ ทำได้เพียงการออกกำลังกายขั้นพื้นฐานอย่างดันพื้นอยู่ในเรือนเท่านั้น แต่ร่างกายของเขาตอนนี้กลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อราวกับผ่านการฝึกกำลังภายนอกมาเป็นเวลานาน

    นาโนแมชชีน นี่มันอะไรกัน

    [เป็นการเสริมสร้างร่างกายของนายท่านขึ้นมาใหม่]

    เสริมสร้างใหม่?

    [การสร้างบางสิ่งจากความว่างเปล่าเป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ แต่การเสริมสร้างร่างกายก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีอยู่แล้ว ก่อนจัดแต่งให้เข้าที่เข้าทาง]

    พูดอะไรเข้าใจยากอีกแล้ว

    ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำเรียนวรยุทธ์ แต่เขาก็ไม่ละเลยที่จะเรียนรู้ด้านวิชาการ กระนั้นสิ่งที่นาโนแมชชีนพูดก็ยังมีแต่ภาษาที่ยากและหลากหลายซึ่งเขาไม่เคยพบจากตำราวิชาการทั่วไป

    ชอนยออุนสวมเสื้อผ้าแล้วออกมาจากห้องอาบน้ำในสภาพที่เนื้อตัวสะอาดสะอ้านขึ้น จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังห้องตำราที่อยู่ในเรือนพัก

    ทุกครั้งที่ข้าเรียกเจ้าว่านาโนแมชชีน มันออกเสียงยากแล้วก็ยาวไปหน่อย เจ้ายังมีชื่ออื่นอีกไหม

    [นายท่านสามารถตั้งชื่อให้ฉันได้ตามต้องการ]

    ข้าคิดชื่ออะไรไม่ออก อย่างนั้นขอเรียกว่านาโนเฉยๆ ก็แล้วกัน

    พอลองคิดดูแล้วมันก็ไม่ผิดอะไร หากเปลี่ยนคำว่านาโนเป็นตัวจีน ตัว ‘นา (¿Æ)’ แปลว่าพูด ส่วน ‘โน (勞)’ แปลว่าทำงาน ซึ่งดูจะเป็นชื่อที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะนาโนแมชชีนทั้งพูดและทำงานอยู่ในร่างกายของเขา

    [ลงทะเบียนด้วยชื่อนาโน]

    ข้าอุตส่าห์ตั้งชื่อให้ เจ้าจะไม่ขอบคุณสักคำเลยรึ

    ชอนยออุนหวังจะได้รับคำขอบคุณจากการตั้งชื่อที่ตัดเพียงคำข้างหลังออก แต่นาโนแมชชีนที่ไม่ใช่มนุษย์กลับตอบด้วยน้ำเสียงแบบเครื่องจักรเพราะไม่เข้าใจการพูดล้อเล่นเช่นนั้น

    [ขอบคุณนายท่าน]

    อืม

    ตอนนี้นาโนแมชชีนได้ชื่อเป็นของตัวเองแล้ว แต่ทุกครั้งที่พูดคุยกันนาโนก็จะพูดอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ชอนยออุนเองก็เริ่มคุ้นเคยกับความเป็นเครื่องจักรที่ไม่ใช่มนุษย์ของนาโนมากขึ้นเรื่อยๆ

    ภายในห้องตำราส่วนตัวของเขาไม่มีตำรามากมายนัก ที่มีส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวข้องกับวิชาความรู้ ไม่มีตำราวรยุทธ์เลยสักเล่ม ตำราที่ดูใกล้เคียงที่สุดก็เห็นจะเป็นตำราที่เกี่ยวกับการฝังเข็มและตำราที่เกี่ยวกับหลักไตรภูมิ ซึ่งมันเป็นความรู้พื้นฐานที่เหล่าจอมยุทธ์ในจงหยวนรู้กันหมดแล้ว

    หลักไตรภูมิเป็นวิธีกำหนดลมหายใจพื้นฐานในลัทธิเต๋าที่กุ่ยกู่จื่อ* ผู้รอบรู้ได้คิดค้นขึ้น แต่ถึงจะฝึกเคล็ดวิชานี้ไปชั่วชีวิตก็สั่งสมกำลังภายในได้แค่ไม่กี่ปี

    การกำหนดลมหายใจถูกนำมาใช้เพื่อฝึกจิตมากกว่าการฝึกวรยุทธ์ตั้งแต่แรก ดังนั้นการรู้แค่หลักไตรภูมิอย่างเดียวก็ยากที่จะขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับที่สามได้

    ไอ้พวกเฮงซวย

    นี่เป็นเล่ห์เหลี่ยมของฮูหยินจากพรรคทั้งหก

    ชอนยออุนถือกำเนิดจากมารดาที่เป็นหญิงรับใช้ไม่ใช่ฮูหยินจากพรรคทั้งหก แต่กลับมีคุณสมบัติเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประมุขพรรคมาร เขาจึงเปรียบเสมือนเป็นหนามยอกอกในสายตาของพวกฮูหยินเหล่านั้น แต่ถึงจะมีชาติกำเนิดเช่นนี้ชอนยออุนก็ยังถือว่ามีสายเลือดของท่านประมุข พวกนางจึงไม่อาจตามรังควานอย่างเปิดเผย ได้แต่เฝ้ารอจนถึงวันที่ชอนยออุนจะเข้าสำนักมารและร่วมศึกชิงตำแหน่งรองประมุข

    แต่ก็เป็นเรื่องยากที่พรรคทั้งหกจะอดทนรอได้นานเป็นสิบปี ฮูหยินของพรรคทั้งหกเคยให้ชอนยออุนลั่นวาจาต่อหน้าฮูหยินฮวาผู้เป็นมารดาที่กำลังจะสิ้นลมเพราะถูกลอบวางยาพิษว่าก่อนที่ชอนยออุนจะเข้าสำนักมารเขาจะไม่ฝึกฝนวรยุทธ์ใดๆ

    ต้องขอบคุณการกระทำของพวกนางที่ทำให้ชอนยออุนไม่ได้เรียนรู้สิ่งอื่นใดนอกจากหลักไตรภูมิจนกระทั่งอายุสิบห้าปี ยิ่งไปกว่านั้นท่านประมุขก็ยังแอบส่งคนมาดูแลเขาอีกด้วย

    หากเขาไม่ได้ฝึกกำหนดลมหายใจพื้นฐานจนกระทั่งถึงอายุสิบห้า เส้นเลือด เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อของเขาก็คงจะแข็งตึงจนไม่อาจฝึกวิชากำลังภายในใดๆ ได้เลย แม้จะเข้าไปอยู่ในสำนักมารแล้วก็ตาม

    แม้คนของพรรคทั้งหกจะคอยจับตาดูที่พักของชอนยออุนอยู่ตลอด แต่พวกเขาก็ยังปล่อยให้ชอนยออุนฝึกฝนหลักไตรภูมิไปเพราะรู้ว่ามันไม่ได้มีประโยชน์มากมายนัก

    เอาล่ะ ลองดูสักครั้งดีกว่า

    ชอนยออุนหยิบตำราฝังเข็มออกมาจากชั้นวาง

    ต้องทำยังไงนะ

    [ถือตำราเอาไว้ตรงหน้าแล้วเปิดดูทีละหน้าไปจนถึงหน้าสุดท้าย]

    แค่ดูผ่านๆ ก็ได้ใช่ไหม

    [ได้นายท่าน เริ่มเลย]

    แม้จะรู้สึกเหมือนกำลังข้ามขั้นตอน แต่ชอนยออุนก็พลิกตำราจุดฝังเข็มไปทีละหน้าพร้อมมองเนื้อหาด้วยแววตาไม่ค่อยวางใจนัก จนในที่สุดเขาก็พลิกไปจนถึงหน้าสุดท้ายโดยไม่ได้อ่านมันเลย มาจนถึงตรงนี้เขาก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่รูม่านตาของเขาก็ขยับไปมาอย่างรวดเร็ว

    เปิดจนหมดแล้ว

    [สแกนเนื้อหาในตำราจุดฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะถ่ายโอนไปยังสมองของผู้ใช้งาน จะอนุญาตหรือไม่]

    สแกน? อ๊ะ! หมายถึงคัดลอกเนื้อหาใช่ไหม

    [ใช่แล้ว นายท่านจะอนุญาตให้ถ่ายโอนหรือไม่]

    “อนุญาต”

    ทันทีที่พูดออกไปความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่นาโนแมชชีนถ่ายโอนคู่มือใช้งานให้ก็กลับมาอีกครั้ง

    ติ๊ด!

    ภายในหัวของเขาพลันแสบร้อนเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ข้อมูลต่างๆ พรั่งพรูเข้ามาจนคล้ายเห็นภาพสะท้อนอยู่ในหัว เขารู้สึกวิงเวียนจนคว้ามุมโต๊ะที่อยู่ในห้องตำราเอาไว้โดยไม่รู้ตัว แม้อาการจะไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังรู้สึกเวียนหัวเหมือนเดิม

    [ถ่ายโอนเนื้อหาที่สแกนเสร็จสมบูรณ์]

    “แฮก…แฮก…”

    [เดี๋ยวนายท่านก็ชิน]

    เป็นห่วงข้ารึ

    [ฉันบอกความจริงกับนายท่านให้นายท่านทราบ]

    ไม่มีทางที่เครื่องจักรกลอย่างนาโนจะเข้าใจคำว่าเป็นห่วง แต่ก็เหมือนอย่างที่นาโนบอก ไม่นานอาการวิงเวียนก็บรรเทาลง ต่างจากตอนถ่ายโอนข้อมูลครั้งก่อน

    เสร็จแล้วรึ

    [นายท่านต้องพยายามนึกถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องเหมือนกับตอนถ่ายโอนคู่มือการใช้งาน]

    ชอนยออุนพยายามนึกข้อมูลที่เกี่ยวกับการฝังเข็มตามที่นาโนบอก ทันใดนั้นข้อมูลเกี่ยวกับการฝังเข็มก็ปรากฏขึ้นในหัวทั้งที่เขาไม่เคยอ่านเลย

    การฝังเข็มเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญในเส้นลมปราณซึ่งไหลเวียนอยู่ทั่วร่างกายมนุษย์ โดยทั่วไปมีสองวิธีคือการกดที่จุดฝังเข็มและการรมยาที่จุดฝังเข็ม หากใช้นิ้วกดไปที่จุดฝังเข็มก็ทำให้กลายเป็นอัมพาตได้ชั่วขณะ ซึ่งอาจเรียกว่าจุดที่ทำให้เกิดอาการชาก็ได้…ไม่นะ! อา?

    มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ นี่คือการใส่เนื้อหาทั้งหมดของตำราที่เขาไม่ได้อ่านเข้ามาในหัวซึ่งไม่ใช่แค่การคัดลอกข้อมูลธรรมดา แต่เขายังเข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

    [มีการแก้ไขข้อผิดพลาดของเนื้อหาในตำราก่อนโอนถ่ายไปยังสมองของนายท่าน]

    ข้อผิดพลาด? ตรงไหนผิดรึ

    [มีการเขียนข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับจุดฝังเข็ม จึงมีการแก้ไขตามข้อมูลที่มีอยู่ในโปรแกรม]

    ข้อมูลจำนวนมากที่ถูกบันทึกไว้ในนาโนแมชชีนมาจากโลกอนาคตอันไกลโพ้น ในตำราจุดฝังเข็มที่ชอนยออุนนำมาทดสอบสแกนและถ่ายโอนข้อมูลมีข้อมูลกายวิภาคของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์และมีความถูกต้องน้อยกว่าในโลกอนาคต ดังนั้นนาโนแมชชีนจึงทำการแก้ไขให้โดยอัตโนมัติ

    “นี่มันเรื่องโกหกชัดๆ”

    ชอนยออุนคิดว่าความสามารถในการถ่ายโอนที่ทำให้คุ้นเคยกับเนื้อหาในตำราได้อย่างง่ายดายนั้นเป็นเรื่องที่ดูเหลือเชื่อยิ่งกว่าการที่นาโนแมชชีนแก้ไขข้อมูลผิดๆ ที่เกี่ยวกับจุดฝังเข็มให้ถูกต้องเสียอีก การเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับศาสตร์ต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจและการท่องจำ แต่หากใช้วิธีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรให้ลำบากเลย

    แค่จับใส่ไปทั้งหมดเช่นนี้น่ะหรือ!

    เมื่อได้สัมผัสกับความสามารถอันเก่งกาจของนาโนแมชชีนด้วยตัวเอง รอยยิ้มก็ไม่หายไปจากปากของชอนยออุน

    แม้ในห้องตำราของเขาตอนนี้จะไม่มีอะไร แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในสำนักมาร ในหอตำราของสำนักมารมีตำราวรยุทธ์ทั้งหมดของพรรคมาร และยังมีตำราวรยุทธ์ที่ขโมยมาจากฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรมอีกด้วย

    พอเข้าไปในสำนัก ต่อให้เจอผู้สืบทอดจากพรรคทั้งหกเข้ามาขัดขวาง แต่หากเขาเข้าไปยังหอตำราของสำนักได้ นั่นก็หมายความว่าเขาจะจดจำและเรียนรู้วรยุทธ์ได้เร็วกว่าใคร

    ข้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้เร็วกว่าใครและอยู่รอดต่อไปในสำนัก! นี่คือเป้าหมายของข้า!

    เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคว้าชัยชนะจากศึกชิงตำแหน่งในตอนนี้ เพราะคนพวกนั้นฝึกวรยุทธ์ขั้นสูงในแต่ละประเภทมาอย่างโชกโชนตั้งแต่ยังไม่หย่านมจนถึงตอนนี้ คนอื่นล้วนเก่งกาจต่างกับเขาที่ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น การแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นหนทางเดียวที่เขาจะเอาชีวิตรอดในการต่อสู้กับผู้สืบทอดจากพรรคทั้งหกได้

    แต่สิ่งที่ชอนยออุนยังไม่รู้ก็คือความสามารถที่แท้จริงของนาโนแมชชีนไม่ได้มีแค่การถ่ายโอนข้อมูลเท่านั้น

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook