ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน หอดับจิต บทที่ 3
…
กว่าผมจะมาถึงสถานีตำรวจก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผู้กำกับซ่งก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน พวกเขาจับผู้ต้องสงสัยได้หนึ่งคน เสี่ยวหลี่บอกผมว่าคนคนนี้คือมู่เหรินจิ้ว เป็นหัวโจกจากตงเป่ยที่เข้ามาเปิดบ่อนพนันที่นี่ ขณะที่ตำรวจบุกเข้าจับกุม มู่เหรินจิ้วพยายามช่วยเหลือลูกน้องโดยการยิงปืนเพื่อดึงความสนใจของตำรวจและทำได้สำเร็จ แต่กลับถูกจับเสียเอง ดูๆ แล้วน่าจะเป็นคนที่ค่อนข้างปากแข็งพอสมควร คงยากที่จะเค้นเอาคำตอบอะไรจากเขา หลังจากนั้นผู้กำกับซ่งก็พาผมเข้าไปในห้องสอบปากคำเพื่อคุยกับมู่เหรินจิ้ว
ผู้กำกับซ่งจ้องตามู่เหรินจิ้วอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “พวกเราคุยกันแบบตรงๆ ดีกว่า วันนี้ที่คุณใช้ความรุนแรงต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับเรื่องที่เปิดบ่อนพนันผิดกฎหมาย ไม่ทำให้คุณพ้นจากคุกหรอก แต่ตอนนี้ผมอยากจะถามคุณอีกเรื่อง หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือนะ ไม่อย่างนั้นผมคงต้องใช้ความรุนแรงเข้าดำเนินการ”
มู่เหรินจิ้วหัวเราะทันทีที่ฟังจบแล้วพูดขึ้น “นั่นก็ขึ้นอยู่กับคำถามของพวกคุณแล้วล่ะ” เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นพวกหัวแข็ง
ผู้กำกับซ่งพูดอย่างเย็นชา “ผมอยากถามเรื่องเกี่ยวกับเฉินหย่วนจาง”
“เฉินหย่วนจางเหรอ” มู่เหรินจิ้วประหลาดใจ “จะคุยอะไรเกี่ยวกับไอ้นั่น มันก็แค่ขี้พนันห่วยๆ”
“งั้นคุณก็ยอมรับว่าคุณรู้จักเขาใช่ไหม”
“แน่นอน แล้วไง” สีหน้ามู่เหรินจิ้วแสดงออกถึงความไม่แยแสสักนิด
“เขาตายแล้ว” ผมพูดแทรก
“ฮะ!” มู่เหรินจิ้วตกใจจนหลุดพูดออกมา จากนั้นก็เข้าใจว่าทำไมผู้กำกับซ่งถึงสอบสวนเขา แต่ก็ไม่ได้เป็นกังวล “ผมไม่ได้เป็นคนฆ่า ผมไม่รู้ว่าจะฆ่ามันไปเพื่ออะไร”
ผู้กำกับซ่งหัวเราะพร้อมกับให้เสี่ยวหลี่ไปห้องข้างๆ เพื่อพาตัวหูเอ๋อร์ฮุยเข้ามา พอหูเอ๋อร์ฮุยเข้ามาในห้องและสบตากับมู่เหรินจิ้ว หน้าของเขาก็ซีดเผือด มู่เหรินจิ้วเห็นว่ามีคนเข้ามาใหม่จึงทักทาย
“อ้าว แกเองน่ะเหรอ ต้องเป็นแกแน่ๆ ที่พูดว่าฉันเป็นคนฆ่าเฉินหย่วนจาง”
“ถูกต้อง เขาเป็นคนพูดเอง ตอนนั้นเป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าถ้าพวกเขาไม่คืนเงิน คุณก็จะฆ่าพวกเขาทิ้ง” ผู้กำกับซ่งส่งสัญญาณบอกเสี่ยวหลี่ให้พาตัวหูเอ๋อร์ฮุยออกไป ในเมื่อมู่เหรินจิ้วบอกว่าเขารู้จักหูเอ๋อร์ฮุย หูเอ๋อร์ฮุยก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อเพิ่มความบาดหมางให้แก่กันและกัน
มู่เหรินจิ้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ผมไม่ได้เป็นคนฆ่าจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ฝีมือลูกน้องของผมด้วย ฟังที่ผมพูดให้จบก่อนแล้วพวกคุณจะรู้ว่าการฆ่าไอ้นั่นมันไม่คุ้มหรอก”
เรื่องถูกจับได้ว่าโกงในบ่อนพนันนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่หูเอ๋อร์ฮุยบอกในตอนแรก แน่นอนว่าหูเอ๋อร์ฮุยก็ไม่ได้โกหกเช่นกันเพราะเขาเองก็ถูกหลอกทั้งหมด เมื่อก่อนเฉินหย่วนจางติดหนี้พนันอยู่เยอะมาก และมู่เหรินจิ้วก็รู้ดีว่าเฉินหย่วนจางไม่มีทางหาเงินมาคืนได้ จึงตกลงทำสัญญาขึ้น โดยให้เฉินหย่วนจางหาแพะรับบาปใช้หนี้แทน วิธีหาแพะก็เหมือนกับที่หูเอ๋อร์ฮุยโดน คือเฉินหย่วนจางจะหลอกนักพนันคนอื่นว่าตนจะโกงในบ่อน จากนั้นคนของมู่เหรินจิ้วก็จะตามจับและบอกให้จ่ายเงินชดเชย ทุกครั้งเวลาจะเตือนหรือขู่ใครพวกเขาก็จะซ้อมเฉินหย่วนจางให้ดู ใบหน้าของเฉินหย่วนจางจึงมักมีรอยฟกช้ำเสมอ
หลังจากอธิบายเสร็จมู่เหรินจิ้วก็พูดออกมาอีกประโยค “ผมไม่ได้โง่นะ พวกคุณอาจรู้จักหูเอ๋อร์ฮุยแค่ว่ามันมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ผมน่ะรู้จักมันมากกว่าพวกคุณอีก คิดว่าผมจะถึงขนาดฆ่าคนเพื่อขู่คนอย่างมันงั้นเหรอ”
“ขณะเกิดเหตุ เมื่อตอนเช้าตรู่คุณอยู่ที่ไหน” ผู้กำกับซ่งถาม
“ผมก็อยู่ที่บ่อนน่ะสิ มีหลายคนเป็นพยานให้ผมได้ แต่ผมพามาหาคุณทั้งหมดไม่ได้หรอก ถึงยังไงผมก็ไม่ใช่คนฆ่า พวกคุณจะว่ายังไงก็แล้วแต่ละกัน” มู่เหรินจิ้วแสดงท่าทีไม่สนใจ
ผมและผู้กำกับซ่งสบตากัน ถึงแม้ว่ายังต้องหาข้อมูลเสริม แต่จากการวิเคราะห์ตามที่สอบปากคำในตอนนี้ เขาไม่เหมือนกับคนที่ฆ่าเฉินหย่วนจางเลย ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่าเฉินหย่วนจางจริง พวกเราคงต้องกลับไปวิเคราะห์คดีใหม่อีกรอบ ผมกับผู้กำกับซ่งกระซิบคุยกันอยู่สักพัก หรือว่าคนที่ฆ่าเฉินหย่วนจางจะเป็นนักพนันที่เคยถูกอีกฝ่ายหลอก แต่สุดท้ายก็ตัดความคิดนั้นไป เพราะหากเป็นนักพนันที่เคยถูกหลอกจริงคงไม่ฆ่าเฉินหย่วนจางจนกลายเป็นคดีที่น่ากลัวขนาดนี้ ดูเหมือนว่ากุญแจสำคัญของการฆาตกรรมในครั้งนี้คือคนร้ายต้องการสร้างเหตุการณ์สยองขวัญนั่นเอง การไขคดีจึงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีกขั้น
จากนั้นผู้กำกับซ่งได้เริ่มสอบปากคำเกี่ยวกับการเปิดบ่อนพนัน ผมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ แต่ที่จริงเป็นเพราะโทรศัพท์ของผมสั่นอยู่ตลอด หลังออกมาจากห้องผมก็เดินชนกับตำรวจหญิงคนหนึ่งเข้า เธอรีบร้อนเดินเข้าไปในห้องสืบสวนเบอร์หนึ่งทันที ผมจำได้ว่าเธอเป็นคนของสถานีตำรวจกลางที่รับโทรศัพท์เบอร์ 110 ผมระแวง หรือจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ สองวันมานี้เกิดอะไรขึ้นกันนะ
ผมเดินห่างออกมาจากห้องสืบสวนเพียงไม่กี่ก้าวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นสายที่ไม่ได้รับจากเหม่ยซินถึงสามสาย ผมเริ่มร้อนใจเนื่องจากเธอไม่เคยโทรมาหาผมถี่ขนาดนี้นอกจากจะมีเหตุด่วนจริงๆ เลยรีบโทรกลับทันที เหม่ยซินรับสายพร้อมกับบอกเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมตกใจกับสิ่งที่เธอพูดจนในหัวไม่มีอะไรเลยนอกจากประโยคที่ว่า
อะไรกัน…ทำไมมีคนตายอีกแล้วล่ะ
ติดตามอ่านต่อได้ใน >> หอดับจิต
สามารถติดตามทดลองอ่านบทอื่นๆได้ที่ >> หอดับจิต บทนำ และบทที่ 1 | หอดับจิต บทที่ 2 | หอดับจิต บทที่ 3
Related
Comments
