• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน สยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 11 บทที่ 3

    5 of 5หน้าถัดไป

    กลิ่นอายนี้บริสุทธิ์และทรงพลังยิ่ง แต่ก็ปราศจากความอาฆาตมาดร้าย โครงกระดูกรอบตัวหลวงจีนชราพอได้กลิ่นอายนี้ก็ปรากฏประกายไหลเลื่อมแพรวพราวเข้าครอบคลุม คล้ายจะฟื้นคืนชีพอย่างไรอย่างนั้น

    หนิงเชวียตกตะลึงจนพูดไม่ออก เพราะพลังฌานที่หลวงจีนชราแสดงออกมายอดเยี่ยมลึกล้ำสุดจะหยั่งถึง ทรงอานุภาพร้ายกาจที่สุดเท่าที่มันเคยเห็นมา

    โม่ซันซันซึ่งนั่งพิงผนังมองเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่เงียบๆ พลันนึกถึงคำบอกเล่าของอาจารย์สมัยที่นางยังเป็นเด็กขึ้นมาได้ ใบหน้านวลงามถึงกับแตกตื่น รำพึงออกมาว่า

    “ทิศตะวันตกมีดอกบัวลอยมาตกยังโลก คลี่กลีบออกมาสามสิบสองกลีบ แต่ละกลีบไม่เหมือนกัน แต่ละกลีบหมายถึงโลก”

    หลวงจีนชราตอบคำถามหนิงเชวีย

    “ที่ต้องชดใช้ความผิดก็เพราะข้ามีส่วนรู้เห็นให้เหตุร้ายนั้นเกิดขึ้น

    เพราะข้ารู้มาหลายปีแล้วก่อนจะเกิดเรื่องว่าหัวหน้าหน่วยพิพากษาก็คือคนของพรรคมารที่แฝงตัวเข้ามา และรู้ว่าพวกมันคิดจะทำอะไร แต่แทนที่จะเปิดโปง ข้ากลับนั่งเฉยอยู่บนบัลลังก์สีดำอันเย็นเฉียบ เอามือเท้าคางมองพวกมันทำแผนร้ายให้เป็นจริงจนสำเร็จเสร็จสิ้น จึงจะนำเรื่องไปบอกต่อเคอเฮ่าหราน

    แต่ข้าประเมินเคอเฮ่าหรานต่ำไป มันไม่จำเป็นต้องอาศัยหลักฐานที่ข้ารวบรวมเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของพรรคมาร ดังนั้นข้าจึงยังนั่งเท้าคางมองอย่างสงบต่อไป เพื่อรอดูเรื่องดำเนินไปจนถึงตอนสุดท้าย”

    หนิงเชวียโพล่งถามออกไป

    “ท่านเป็นใคร แล้วไยต้องทำเช่นนั้นด้วย”

    เมื่อถูกถามประโยคนี้ หลวงจีนชราก็แหงนหน้าขึ้นเหม่อมองไปด้านบน โซ่เหล็กที่ร้อยอยู่ตรงช่องท้องเกิดเสียงเมื่อมีการเคลื่อนไหว ความเจ็บปวดปรากฏบนใบหน้าที่เหลือแต่หนังหุ้มกะโหลกของมันอีกครั้ง ทว่าดวงตาในเบ้าลึกยังคงเปล่งประกายอบอุ่นนุ่มนวล

    “ตอนนั้นข้าอยากกำจัดพรรคมาร อยากให้เคอเฮ่าหรานตาย คิดไม่ถึงว่าสิ้นเปลืองสติปัญญาและกำลังกายไปครึ่งชีวิต มันก็ยังไม่ตาย ส่วนข้าเป็นใครน่ะรึ…”

    หลวงจีนชราดึงสายตากลับมาที่หนิงเชวียและโม่ซันซัน กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    “ข้าคือผู้พิพากษาโทษ”

    “จ้าวบัลลังก์เหลียนเซิง!”

    เสียงอุทานแตกตื่นดังขึ้นที่หน้าประตู

    เยี่ยหงอวี๋มิทราบว่ามายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ นางมองท่ามุทราของหลวงจีนชราอย่างไม่อยากเชื่อในสายตาตนเอง

    โม่ซันซันก็อุทานขึ้นมาแทบจะในเวลาเดียวกัน

    “เหลียนเซิงต้าซือ?”

    เยี่ยหงอวี๋ปรากฏตัวขึ้นในวิหารพรรคมารด้วยสภาพทุลักทุเลเต็มทน เสื้อผ้าอาภรณ์บนร่างขาดกะรุ่งกะริ่ง โดยเฉพาะชายกระโปรงยามนี้ขาดวิ่นจนไม่อาจปิดบังต้นขาไว้ได้ทั้งหมด บนไหล่ซ้ายก็เกรอะกรังไปด้วยเลือด ทว่าสองตากลับยังคงวาวโรจน์น่ากลัวเหมือนเดิม

    หนิงเชวียไม่รู้ว่าตอนอยู่ในค่ายกล เยี่ยหงอวี๋พกพาความเดือดดาลกับอารมณ์ฮึกเหิมที่บังเกิดขึ้นจนแน่นอก ตรงเข้าฟาดฟันก้อนหินทุกก้อนที่ขวางหน้า และเป็นเพราะค่ายกลทรมานจิตถูกทำลายจนเหลือประสิทธิภาพเพียงแค่หนึ่งในร้อย นางจึงบุกฝ่าออกมาได้ แต่ดูจากสารรูปแล้วมันก็เดาออกว่านางต้องผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย จึงอดเลื่อมใสอยู่ในใจมิได้

    และก็เพราะตระหนักถึงความร้ายกาจของนาง มือขวาของมันจึงรีบคว้าด้ามดาบที่สะพายอยู่ด้านหลัง คิดฉวยโอกาสที่นางกำลังบาดเจ็บและอ่อนแอ กำจัดศัตรูที่น่ากลัวนี้ทิ้งไป

    แต่มันกลับพบว่าเยี่ยหงอวี๋มิได้สนใจมันแม้แต่น้อย โม่ซันซันก็เช่นกัน ทั้งสองนางต่างกำลังมองหลวงจีนชราที่มีสภาพไม่ต่างอะไรจากผีตายซากราวกับต้องมนตร์สะกด

     

    ติดตามอ่านต่อได้ใน >> สยบฟ้าพิชิตปฐพี เล่ม 11

    สามารถติดตามทดลองอ่านบทอื่นๆได้ที่ >> บทที่ 1 | บทที่ 2 | บทที่ 3

    5 of 5หน้าถัดไป

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook