ฌอนรู้สึกไม่สบายใจในแฟลตแห่งนี้ประหนึ่งเป็นผู้บุกรุก ราวกับว่าเขาควรจะขอโทษขอโพยไม่หยุดที่มาอยู่ตรงนี้ เขาสะบัดไล่ความรู้สึกนั้นออกไปและซึมซับทุกอย่างอยู่ในใจ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และพื้นสะอาดสะอ้าน จานชามล้างเก็บไปแล้วหรือเปล่า มีอาหารเหลือบ้างไหม มีอะไรที่ดูผิดที่ผิดทางบ้างหรือไม่ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าเหยื่อพับเสื้อผ้าเก็บอย่างเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสักตัวบนพื้นก็จะปลุกความสงสัยของฌอนขึ้นมาทันที ถ้าเหยื่อเป็นพวกซกมกสุดๆ แก้วที่เพิ่งล้างสะอาดข้างอ่างล้างจานซึ่งเต็มไปด้วยจานชามโสโครกก็จะสะดุดตาเขา ใช่เลย ฌอนสังเกตว่ามีบางอย่างหายไปเรียบร้อยแล้ว
ฌอนกับดอนเนลลีไปถึงห้องนั่งเล่น ประตูเปิดอ้าค้างไว้อย่างที่ตำรวจหนุ่มเข้ามาเจอตอนแรก ดอนเนลลีก้าวเข้าไปด้านใน ฌอนตามไป
กลิ่นคาวเลือดฉุนรุนแรง…เลือดมากมาย เป็นกลิ่นโลหะราวกับทองแดงร้อนๆ ฌอนนึกถึงช่วงเวลาที่เขาได้ลิ้มรสเลือดตัวเองหลายหน มันมักจะทำให้เขาคิดว่าเลือดรสชาติก็เหมือนกลิ่นนั่นแหละ อย่างน้อยชายผู้นี้ก็เพิ่งโดนฆ่ามาหมาดๆ ตอนนี้เป็นฤดูร้อน…ถ้าเหยื่ออยู่ตรงนี้มาได้สองสามวันแล้ว ทั้งแฟลตคงจะเหม็นหึ่ง แมลงวันคงว่อนเต็มห้อง ศพมีหนอนยุ่บยั่บ เขารู้สึกผิดขึ้นมาวูบหนึ่งที่ดีใจที่ชายผู้นี้เพิ่งถูกฆ่า
ฌอนนั่งยองๆ ลงข้างศพพลางระวังไม่เหยียบลงไปในกองเลือดหนาสีแดงเข้มที่เจิ่งนองอยู่รอบศีรษะของเหยื่อ เขาเห็นเหยื่อฆาตกรรมมานักต่อนัก บางรายก็ไม่มีบาดแผลใดๆ แต่หลายรายก็อยู่ในสภาพเลวร้าย นี่เป็นรายสาหัสรายหนึ่งเท่าที่เขาเคยเห็นมา
“พระเจ้าช่วย เกิดบ้าอะไรขึ้นในห้องนี้กันแน่” ฌอนถาม
ดอนเนลลีมองไปรอบๆ โต๊ะกินข้าวพลิกหงาย เก้าอี้สองตัวโดนทำลายยับ โทรทัศน์ตกจากชั้นวาง กรอบรูปแตกอยู่บนพื้น แผ่นซีดีกระจัดกระจายเกลื่อนห้อง แสงจากเครื่องเล่นซีดีกะพริบเป็นสีเขียว
“คงสู้กันดุเดือดน่าดู” ดอนเนลลีว่า
ฌอนลุกขึ้นยืนโดยไม่อาจละสายตาไปจากเหยื่อได้ เขาเป็นชายผิวขาว อายุประมาณยี่ิสิบ ท่อนบนเปลือยเปล่า สวมกางเกงยีนสไตล์ฮิปสเตอร์โชกเลือด เท้าขวายังสวมถุงเท้าอยู่ ส่วนอีกข้างหายไปแล้ว เขานอนหงาย ขาซ้ายงออยู่ใต้ขาขวา แขนสองข้างเหยียดออกเป็นท่าตรึงไม้กางเขน ไม่มีร่องรอยโดนมัดแต่อย่างใด ใบหน้าและกะโหลกด้านซ้ายยุบ เส้นผมสีอ่อนของเหยื่อทำให้ฌอนเห็นบาดแผลร้ายแรงที่ศีรษะสองแผลบ่งชี้ว่ากะโหลกแตกดูสยดสยอง ดวงตาทั้งสองข้างบวมเป่งจนเกือบปิดสนิทและจมูกก็โดนอัดเละจนเลือดแห้งกรังเป็นก้อนอยู่รอบๆ แม้กระทั่งปากก็หนีไม่พ้น ริมฝีปากมีรอยแตกลึกหลายรอย กรามหลุดตกห้อย ฌอนนึกสงสัยว่าจะมีฟันหายไปกี่ซี่ หูขวาก็หายไปเช่นกัน เขาภาวนาต่อพระเจ้าให้ชายผู้นี้ตายไปตั้งแต่โดนฟาดศีรษะครั้งแรก แต่ก็เกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
แอ่งเลือดรอบศีรษะเหยื่อเป็นจุดสีเข้มแดงฉานเพียงแห่งเดียวนอกเหนือจากเสื้อผ้า ส่วนที่อื่นมีรอยเลือดสาดหลายสิบรอยกระจายอยู่ ทั้งบนผนัง เฟอร์นิเจอร์ และพื้นพรม ฌอนนึกภาพศีรษะของเหยื่อเหวี่ยงด้วยแรงฟาด เลือดจากบาดแผลลอยละล่องเป็นสายงดงามผ่านอากาศจนตกกระทบกับจุดที่มันแห้งกรังอยู่ตอนนี้ พอตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว รอยเลือดสาดเหล่านี้ก็น่าจะเป็นแผนที่บ่งบอกว่าเหตุฆาตกรรมครั้งนี้ดำเนินอย่างไรได้เป็นอย่างดี
ร่างกายของเหยื่อเองก็ไม่รอด ฌอนไม่นึกอยากนับด้วยซ้ำ แต่ต้องมีรอยแทงอย่างน้อยห้าสิบถึงหนึ่งร้อยแผลแน่ ทั้งขา ลำตัว หน้าอก และแขนก็ล้วนแต่โดนทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ฌอนมองหาอาวุธรอบๆ แต่ไม่เจอ เขาเบนสายตากลับมาที่ร่างยับเยินพลางพยายามทำหัวให้โล่งเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่มผู้ซึ่งบัดนี้นอนตายอยู่บนพื้นห้องตัวเอง ในชั่วเศษเสี้ยววินาทีนั้นเอง เขาก็เห็นร่างร่างหนึ่งก้มตัวอยู่เหนือชายที่กำลังจะตาย ในมือกำอะไรบางอย่างคล้ายไขควงมากกว่ามีด แต่ภาพนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่โผล่มา ในที่สุดเขาก็เบือนหน้าหนีและพูดออกมาได้