ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 3

(8)

วิกาลนี้เพิ่งล่วงพ้นยามสอง ขันทีผู้แทนจากในวังมาถึงสำนักโหรหลวง ด้วยเหตุว่าจักรพรรดิเรียกตัวโหรหลวงหลี่ซู่เข้าวังหารือเร่งด่วน

คืนนี้เดิมหลี่ซู่ไม่ควรทำงานอยู่ที่นี่ ทว่ายากยิ่งนักที่จะได้กลับบ้านหลับสบาย สุดท้ายก็ยังคงกระทำไม่ได้ เขารีบร้อนลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้า ติดตามขันทีผู้แทนควบม้าไปตามถนนจูเชวี่ยในกลางดึกไร้ผู้คน มีกองกำลังจินอู๋คุ้มครองส่งเข้าพระราชวังต้าหมิงโดยตรง

ภายในตำหนักเหยียนอิง แสงเทียนสว่างไสว นอกจากจักรพรรดิผู้ประทับอยู่บนพระเก้าอี้แล้ว ในที่นี้ยังมีกัวชงเจ้าเมืองฉางอัน

รอเมื่อหลี่ซู่ถวายบังคมเข้านั่งประจำที่แล้ว จักรพรรดิจึงมีรับสั่งแก่กัวชง “เจ้าเมืองฉางอันท่านกล่าวเถอะ”

กัวชงเจ้าเมืองฉางอันมีฐานะสำคัญ เขาเป็นหลานของกัวจื่ออี๋ โอรสขององค์หญิงเซิงผิงกับราชครูกัวอ้าย เนื่องจากตนสมรสกับองค์หญิงฮั่นหยางหลี่ชั่งผู้เป็นพระกนิษฐภคินี ดังนั้นจึงเป็นทั้งเขยหลวงและน้องเขยของจักรพรรดิ แม้มีชาติตระกูลทรงอำนาจเยี่ยงนี้ กัวชงกลับนิสัยนอบน้อมอ่อนโยนหาได้ยากยิ่ง ไม่เคยอาศัยอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงรังแกผู้คน เขากับหลี่ชั่งยังเป็นคู่สามีภรรยาตัวอย่างอีกด้วย เนื่องจากได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากจักรพรรดิหลายพระองค์สืบต่อ กัวชงจึงร่ำรวยทรัพย์สินเงินทองเหนือคณานับ ไร่นาและที่ดินศักดินานับอย่างไรก็นับไม่ถ้วน คฤหาสน์ที่สร้างไว้ทางทิศใต้ของเมืองยังงดงามกว่าพระตำหนักยามแปรพระราชฐานของจักรพรรดิเสียอีก แต่เขากลับมอบสิทธิ์ขาดให้แก่หลี่ชั่งผู้เป็นภรรยา ดูแลทรัพย์สมบัติในตระกูล เปรียบเทียบกับบิดาของเขาผู้ ‘ตีกิ่งทอง’* แล้ว กัวชงนับเป็นยอดสามีได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ข้อด้อยเพียงหนึ่งเดียวของกัวชงคือสุขสบายจนเคยตัว ความสามารถแก้ไขปัญหาถดถอย ควรอาศัยบารมีต้นตระกูลกินตำแหน่งลอยก็พอแล้ว ทว่าจักรพรรดิกลับโปรดปรานความสัตย์ซื่อของเขา ปีก่อนจึงมอบตำแหน่งเจ้าเมืองฉางอันให้ ผลสุดท้ายวันนี้เกิดเรื่องแล้ว การรับมือแก้วิกฤตของกัวชงจึงค่อนข้างน่าอาย

สรุปว่ากัวชงวาจาวกวนอยู่ครึ่งวัน หลี่ซู่ถึงจะฟังเข้าใจ

ที่แท้สิบวันหลังจากเทศกาลซั่งหยวน** เพิ่งผ่านพ้น นครฉางอันมีราษฎรแจ้งความเป็นจำนวนมากว่าพบงูในบ้าน ตั้งแต่อำเภอฉางอันไปจนถึงอำเภอวั่นเหนียน ตอนแรกมีเพียงงูหนึ่งตัวสองตัว ต่อมาค่อยๆ เพิ่มนับสิบนับร้อย งูเหล่านี้ปรากฏขึ้นพร้อมกัน เลื้อยออกมาจากห้องเก็บของใต้ดิน ก้นบ่อน้ำ โพรงต้นไม้หรือกระทั่งคูน้ำ เลื้อยไปทุกแห่งหน ทำเอาชาวบ้านร้านถิ่นแตกตื่นตกใจหวาดกลัว

* ตีกิ่งทอง เป็นคำอุปมาถึงเหตุการณ์ที่กัวอ้ายทำร้ายองค์หญิงเซิงผิงด้วยความเมา เหตุเกิดจากในงานฉลองวันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีของกัวจื่ออี๋ผู้เป็นบิดา ตำหนิว่าองค์หญิงเซิงผิงเป็นสะใภ้กลับถือดีไม่มาร่วมอวยพร กัวอ้ายจึงโกรธเคืองภรรยาวิวาทกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ ความทราบถึงเบื้องสูง กัวจื่ออี๋ต้องขอพระราชทานอภัยโทษแทน

** เทศกาลซั่งหยวน เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของเทศกาลหยวนเซียว ตรงกับวันที่สิบห้าเดือนอ้ายตามจันทรคติจีน ซึ่งเป็นคืนแรกของปีที่พระจันทร์เต็มดวง คนในครอบครัวจึงมาชมจันทร์กันพร้อมหน้า รับประทานขนมบัวลอยซึ่งแสดงถึงความกลมเกลียว ภายหลังจัดเป็นงานฉลองยิ่งใหญ่ต่อเนื่องจากเทศกาลตรุษจีน มีประเพณีประดับโคมไฟ จึงเรียกอีกชื่อว่าเทศกาลโคมไฟ โดยมากชื่อเทศกาลซั่งหยวนมักใช้ในบริบทของพิธีทางการ