• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 3

    หลังจากต้วนเหวินชางถวายหนังสือ ท่าทีของขุนนางทั้งหลายต่างเงียบเฉยอย่างมิค่อยได้พบเห็น ด้วยเฝ้ารอว่าจักรพรรดิจะทรงแสดงท่าทีเช่นไร

    ในฐานะพี่ชายของกัวกุ้ยเฟย กัวชงปิดปากไม่กล่าวถึงเรื่องสถาปนาพระอัครมเหสี พยายามหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้านินทา คิดไม่ถึงว่าวันนี้หลี่ซู่ถึงกับลากจากทัพงูบุกมาเข้าเรื่องนี้เสียได้

    เขาถามหลี่ซู่ “ท่านคิดกล่าวว่าทัพงูบุกเกี่ยวพันกับ…เรื่องนั้น”

    “ข้าคิดเช่นไรไม่สำคัญ สำคัญที่จักรพรรดิคิดเช่นไร”

    ความนัยของหลี่ซู่ ตอนนี้กัวชงจึงเข้าใจแล้ว!

    ทัพงูบุกอุบัติขึ้นอย่างน่าสงสัย ช่วงเวลาก็บังเอิญตรงกับต้วนเหวินชางถวายหนังสือ จักรพรรดิจะระแวงเรื่องช่วงเวลาด้วยหรือไม่ มีคนกำลังใช้ทัพงูบุกผลักดันให้สถาปนากัวซื่อเป็นพระอัครมเหสีหรือ หลี่ซู่ไม่ยินยอมถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องสถาปนาอัครมเหสี จึงยืนกรานหนักแน่นว่าท้องฟ้าไร้สิ่งผิดปกติ ส่วนที่กล่าวถึงมังกรวารีทะเลใต้ก็เพื่อสลายความระแวงของจักรพรรดิ

    “เมื่อครู่ตอนอยู่ในตำหนัก กล่าวแต่เรื่องมังกรวารีทะเลใต้นั้นเป็นเพราะว่าไร้ทางเลือก น่าเสียดายจักรพรรดิสายพระเนตรดั่งเปลวไฟ หาได้สนใจวาจาของข้าแม้แต่น้อย”

    ด้านหน้าคือตรอกอันซิงอันเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์สกุลกัว หลี่ซู่ประสานมือคารวะแก่กัวชง ตระเตรียมอำลา

    กัวชงกลับไม่ยินยอมปล่อยเขาไป ดึงแผงคอม้าของหลี่ซู่เอาไว้ ถามว่า “เช่นนั้นแล้วไฉนจึงพูดถึงพิธีฝูจีอีกเล่า”

    “เรื่องในวัง ก็ให้แก้ไขในวังเถอะ!”

    กัวชงตะลึงงัน มือคลายออกอย่างไม่ใคร่ยินยอมนัก เงาหลังหลี่ซู่กระตุ้นม้าโจนทะยานหายลับไปในส่วนลึกของตรอกอย่างรวดเร็ว

    พิธีฝูจีเป็นวิชาทำนายชะตาโดยติดต่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของนักพรตเต๋า ‘ฝู’ หมายถึงการประคองไม้คาน ‘จี’ คือการทำนายทายสิ่งที่อยากรู้ ก่อนทำพิธีต้องตระเตรียมกระบะไม้บรรจุทรายละเอียดหนึ่งใบ นำไม้เขียนทำนายยึดไว้กับตะกร้อตักที่จับคว่ำลง หรือวงเหล็กวงไม้ไผ่เพื่อเป็นคานจับ ‘พู่กันทำนาย’ ขณะทำพิธี ผู้ทำนายอัญเชิญเทพเจ้าเข้าประทับร่าง ใช้ ‘พู่กันทำนาย’ ขีดเขียนอักษรลงบนกระบะทราย อักษรที่ปรากฏก็คือลิขิตสวรรค์ ผู้ทำนายเรียกขานว่าหลวนเซิงหรือเจิ้งหลวน (ร่างทรง) ปกติจะมีคนจดบันทึกและอธิบายอักษรบนถาดทราย คนผู้นี้เรียกว่าฟู่หลวน (ผู้ช่วยร่างทรง)

    พิธีฝูจีมีประวัติยาวนาน สมัยจิ้นตะวันออก มีคนชื่อหยางซีแต่งตำราชื่อ ‘คัมภีร์วิสุทธิธรรม’ บรรพที่สามสิบเอ็ดว่าด้วยวิธีดำเนินพิธีทำนาย วิธีนี้นิยมแพร่หลายอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาแพร่หลายสู่ราษฎร เทศกาลซั่งหยวนวันที่สิบห้าเดือนหนึ่ง ชาวบ้านทั่วไปจะอัญเชิญเทพจื่อกู* ด้วยการประกอบพิธีฝูจี ทำนายทายทักเรื่องต่างๆ ในปีนี้ เช่น การเพาะปลูก หม่อนไหม ผ้าทอ ลาภยศเงินทอง พิธีทำนายตามประเพณีในหมู่ชาวบ้าน ทั้งร่างทรงและผู้ช่วยล้วนรับหน้าที่โดยสตรี ตรงกันข้ามกับวิชาทำนายของนักพรตโดยสิ้นเชิง

    สตรีประกอบพิธีทำนาย กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในวังตั้งแต่สมัยพระนางอู่เจ๋อเทียน ในกาลนั้นพระนางอู่เจ๋อเทียนต้องการยกฐานะสตรีให้สูงขึ้น หลังเถลิงราชย์ไม่นาน ได้เรียกชุมนุมเหล่าภรรยาขุนนางกับสตรีในตำหนักใน จัดพิธีบูชาเทพเซียนฉาน** พิธีนี้เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยฮั่น ดำเนินควบคู่ไปกับพิธีแรกนาหลวงของจักรพรรดิ สั่งสอนราษฎร ชายให้เชี่ยวชาญงานไร่นา สตรีให้ทอผ้า นอกจากนี้พระนางอู่เจ๋อเทียนยังเลือกคนจากหมู่นางใน ดำเนินพิธีทำนายตอนเทศกาลซั่งหยวนของทุกปี ขอให้ปีที่จะมาถึงเป็นไปโดยราบรื่น ร่างทรงในวังคนแรกก็คือซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ที่พระนางทรงเอ็นดูเชื่อใจ

    * เทพจื่อกู เป็นเทพฝ่ายหญิงตามคติชาวบ้านของชาวจีนในสมัยถังและซ่ง เชื่อว่ามีพลังในการทำนายดวงชะตา

    ** เทพเซียนฉาน คือเทพองค์แรกผู้สอนให้มนุษย์รู้จักบริโภคหนอนแมลงตามตำนานโบราณ ชาวจีนจึงจัดพิธีบูชาในฐานะเทพกสิกรรม

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook