• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยาย เพลงกลอนคลั่งยุทธ์ เล่ม 5 บทที่ 1

    แต่กลับเป็นความพ่ายแพ้ที่แน่นอน

    จิงเลี่ยมิได้กล่าวคำใด มันกระโดดไปตรงหินผาในที่ต่ำด้านล่าง ทิ้งอาจารย์อาไว้ วิ่งปรี่ไปตามเส้นชายฝั่งทะเลคนเดียว

    นั่นคือทิศทางของเวทีประลอง

     

    ซือเย่าอู่ศิษย์สำนักหลิงซานก้าวขึ้นเวทีประลองแล้ว นี่คือการต่อสู้ด้วยอาวุธ ศีรษะ หัวไหล่ และลำตัวของซือเย่าอู่ล้วนสวมใส่เกราะหนัง มันถือดาบไม้เล่มหนึ่ง กำลังร่ายควงดาบแต่ละกระบวนไม่หยุดยั้ง ทั้งเพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสาย และแสดงฝีมือต่อกลุ่มผู้ชมรอบเวทีประลอง

    แต่ที่มุมตรงข้ามของเวทีประลองยังคงว่างอยู่

    จิงเจ้ากำลังดื่มสุราขวดที่สี่ของวันนี้ ฤทธิ์สุราทำให้หน้าตาเกรี้ยวกราดแต่เดิมของมันน่ากลัวยิ่งขึ้น ศิษย์สองคนข้างเก้าอี้ไม่มีสักคนกล้าส่งเสียง

    ณ ที่แห่งนั้นกลับมีคนผู้หนึ่งเดือดดาลและร้อนใจกว่าจิงเจ้าเสียอีก นั่นคือซือชิ่งหลงเจ้าสำนักหลิงซาน มันถลึงมองไปยังจิงเจ้าจากข้างขวา สายตานั้นกำลังตำหนิอย่างเห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าทำบ้าอะไร โดยเฉพาะผู้ที่อยู่บนเวทีประลองคือหลานบังเกิดเกล้าของมัน มันยิ่งไม่อยากให้ชัยชนะอันแน่นอนนี้ต้องถูกทำพัง

    จิงเจ้าเหลือบเห็นสายตาถามไถ่ที่ซือชิ่งหลงส่งมา ทำได้เพียงแสร้งมองไม่เห็น

    กลุ่มผู้ชมรอบเวทีประลองเองก็โวยวาย สัญญารับรองเป็นตายที่แขวนสูงอยู่บนเสาไม้ข้างเวทีมีเพียงตัวหนังสือลงนามของซือเย่าอู่คนเดียว ตำแหน่งลงลายมือด้านล่างของจิงเลี่ยสำนักหู่จุนกลับยังคงว่างอยู่

    ยุทธภพแถบเฉวียนโจว ใต้หล้าแบ่งเป็นสี่ส่วนโดยสำนักหลิงซาน สำนักหมิ่นเจียว สำนักตี้ถัง และสำนักหู่จุนแห่งหนานไห่มาอย่างยาวนาน สี่สำนักใหญ่แรกเริ่มล้วนอาศัยความสามารถแท้จริงสร้างชื่อเสียงในการประลองบนเวทีประลองสาธารณะนี้ หลังมีชื่อเสียงก็บ่มเพาะและส่งศิษย์ขึ้นเวทีออกศึกมาโดยตลอดเพื่อป้องกันชื่อเสียงมิให้ตกต่ำ แต่ต่อมาเมื่อสี่สำนักผูกขาดอำนาจยุทธภพท้องถิ่นสำเร็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการชิงดีชิงเด่นสั่งสมความแค้นกันระหว่างแต่ละสำนัก สำนักทั้งสี่จึงค่อยๆ เริ่มมีสัญญาลับในการต่อสู้คือยกนี้หากพวกเราชนะแล้ว ยกต่อไปก็ส่งศิษย์ที่กำลังค่อนข้างด้อยให้เจ้ากอบกู้หน้าตา

    จนแล้วจนเล่า สัญญาลับนี้ยิ่งพัฒนาเป็นความร่วมมือระหว่างสี่สำนัก ทุกครั้งก่อนต่อสู้ก็จะหารือกัน กำหนดแพ้ชนะของทุกรอบกันภายใน

    เวทีประลองกลายเป็นการแสดงวิชาต่อสู้ โอกาสที่ศิษย์จะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ลดลง แต่ละสำนักก็มีแรงกดดันในการแข่งขันกันน้อยลง ประเพณีการกำหนดแพ้ชนะนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อนจนกลายเป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นสาธารณะระหว่างสำนักในเฉวียนโจว จนกระทั่งวันนี้สิ่งที่เรียกว่าการต่อสู้ประลองฝีมือเสื่อมลงจนกลายเป็นการแสดงเพื่อรักษาชื่อเสียงและหน้าตาไปแล้ว

    การต่อสู้หลอกๆ บนเวทีประลองค่อยๆ กลายเป็นธรรมเนียมในยุทธภพหลายพื้นที่ ถึงอย่างไรคนทั่วไปดูการต่อสู้ก็เป็นการจับกลุ่มกันสร้างความสนุกเร้าใจเล็กน้อยเท่านั้น ไหนเลยจะมองออกถึงช่องโหว่หรือพิรุธ บางคราวหากมีคนนอกบางคนมองออก ตัวมันเองก็ต้องเป็นคนในแวดวงอย่างแน่นอน ขนบธรรมเนียมยุทธภพขวางอยู่ ย่อมเกรงใจที่จะเปิดโปง

    วสันตฤดูปีนี้สำนักหู่จุนแห่งหนานไห่ได้ผลงานชนะสองเสมอหนึ่งไปแล้ว การต่อสู้คิมหันต์ครั้งนี้จึงกำหนดให้เพียงชนะหนึ่งแพ้สาม ชัยชนะหนึ่งเดียวในวันนี้เมื่อครู่ได้ให้จิงเยวี่ยไปแล้ว ที่เหลือรวมถึงจิงเลี่ยรอบนี้ล้วนต้องพ่ายแพ้

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook